หลังจากมีกระแสข่าวว่า บริษัทแม่ เทสโก้ โลตัส ที่ประเทศอังกฤษ มีปัญหาด้านการเงิน และจะทำการขายกิจการในบางประเทศ ซึ่งประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่บริษัทแม่สนใจจะขายกิจการ
จากกระแสข่าวดังกล่าวส่งผลให้มีการติดตามจนมีข่าวลือออกมาเป็นระยะๆ ว่า มีบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย 3 บริษัท คือ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้เข้าไปร่วมเจรจาเข้าซื้อกิจการของห้างเทสโก้ โลตัสในประเทศไทย
ต่อมามีกระแสข่าวออกมาอีกว่า บริษัทที่คว้าชัยในการเจรจาซื้อกิจการของห้างเทสโก้ โลตัส ประเทศไทย คือ "ซีพี" เนื่องจากมีสายสัมพันธ์ที่ดี เพราะห้างเทสโก้ โลตัส ประเทศไทย เครือเจริญโภคภัณฑ์เคยเข้าถือหุ้นใหญ่ไว้ก้อนหนึ่ง จึงทำให้คว้าชัยในการเจรจาไป ซึ่งจากกระแสข่าวที่ออกมาดังกล่าว ส่งผลให้มีข่าวตามมาอีกว่า การที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ห้างเทสโก้ โลตัสไป จะทำให้ ซีพี มีอำนาจเหนือตลาดหรือไม่ เพราะปัจจุบัน ซีพี มีธุรกิจอยู่ภายใต้การบริหารครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ห้างแมคโคร ที่เพิ่งซื้อมาเมื่อปี 2556 อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ที่อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ร้านซีพีเฟรชมาร์ท หรือซีพี ฟู้ดมาร์เก็ต
กระแสข่าวที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ "นายธนินท์ เจียรวนนท์" ต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร ซึ่งคำตอบที่ได้จากปากนายธนินท์ คือ มีความสนใจในธุรกิจห้างเทสโก้ โลตัส ในประเทศไทยจริง หาก เทสโก้ โลตัสต้องการที่จะขาย ตนเองก็พร้อมที่จะซื้อ แต่ขณะนี้ยังไม่เคยมีการเจรจาร่วมพูดคุยกันถึงเรื่องดังกล่าว
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า กระแสข่าวที่ออกมาว่าตนได้เข้าไปเจรจาซื้อ ห้างเทสโก้ โลตัส ประเทศไทย นั้น ขอปฎิเสธว่าไม่เป็นความจริง เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ของห้างเทสโก้ โลตัส เข้ามาเจรจา เพื่อขายกิจการให้กับบริษัท แต่หาก เทสโก้ โลตัสสนใจที่จะขายกิจการ บริษัทก็มีความสนใจและพร้อมที่จะเข้าซื้อกิจการ เนื่องจาก ห้างเทสโก้ โลตัส ของประเทศไทยเหมือนลูกคนหนึ่งที่เลี้ยงมา
ทั้งนี้ ถ้าข่าวนี้เป็นเรื่องจริง ตนคงไม่บอกใคร คงแอบคุยกัน 2 คน เพื่อให้เป็นความลับ แต่ข่าวหนังสือพิมพ์รู้มากกว่าตนอีก เขียนได้เป็นเรื่องเป็นราวว่าใช้เงินเท่านั้นเท่านี้ซื้อกิจการ ทั้งที่ทุกวันนี้ยังไม่เคยได้สัมผัสกับเจ้าหน้าที่ของห้างเทสโก้ โลตัส เลย ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องให้เวลากับซีอีโอคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง เขายังต้องเข้ามาศึกษาและเรียนรู้ธุรกิจว่าเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ดี ถ้ามีการซื้อกิจการจริงจะเชิญสื่อมวลชนมาแถลงข่าวเป็นกลุ่มแรก เนื่องจาก ห้างเทสโก้ โลตัส ก็เหมือนกับลูกคนหนึ่งที่เลี้ยงมา แต่พอเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งเลี้ยงไม่ไหวจึงทำให้ต้องขายธุรกิจไป เพราะเวลาที่เกิดวิกฤติสินค้าที่ขายได้ต้องเป็นของดี จึงจะขายได้ราคา ซึ่งแม้ว่าบริษัทจะขายหุ้นของ ห้างเทสโก้ โลตัส ในประเทศไทย ไปทั้งหมดแล้วเมื่อปี 2541 เพื่อรักษาธุรกิจอื่นๆ ไว้ แต่ทุกวันนี้บริษัทยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มีอะไรก็คอยช่วยเหลือกัน
นอกจากนี้ นายสุนทร อรุณานนท์ชัย ผู้บริหารระดับสูงของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ยังคงนั่งทำงานในห้างเทสโก้ โลตัส ประเทศไทย ในตำแหน่งประธานกรรมการของบริษัท เอกชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจห้างเทสโก้ โลตัส ในประเทศไทย เพื่อคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะช่วงที่บริษัทมีปัญหา เขาก็เข้ามาช่วยเหลือเรา ดังนั้นพอเขามีปัญหา เราก็ควรเข้าไปให้ความช่วยเหลือเขา
นายธนินท์ กล่าวต่อว่า เท่าที่ศึกษาธุรกิจ เทสโก้ โลตัส ในประเทศไทย พบว่า ยังมีความแข็งแรง มีหนี้ไม่กี่พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ตัวธุรกิจเองก็มีมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์หสรัฐ จึงไม่น่าจะเดือดร้อนถึงขั้นต้องขายกิจการ นอกจากนี้ยังได้ยินมาว่า ขณะนี้มีสถาบันการเงินหลายแห่งเข้ามาเจรจา เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน
ส่วนเรื่องที่หากบริษัทเข้าไปซื้อกิจการของ ห้างเทสโก้ โลตัส ประเทศไทย และจะทำให้บริษัทผูกขาดตลาดนั้น ขอปฏิเสธอีกเช่นกัน เนื่องจากธุรกิจค้าปลีกที่เราบริหารอยู่ในปัจจุบันมีหน้าที่และกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน และห้างเทสโก้ โลตัส กับ ห้างแมคโคร ก็เจาะกลุ่มเป้าหมายไม่เหมือนกัน ในทางตรงกันข้ามน่าจะเป็นผลดีกับผู้บริโภคมากกว่า เพราะจะทำให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์และซื้อสินค้าได้ในราคาที่ถูกลง เนื่องจากนโยบายหลักการดำเนินธุรกิจของบริษัท คือ การขายของดีราคาถูก
นอกจากจะมีกระแสข่าวว่า ซีพี เข้าซื้อกิจการของ ห้างเทสโก้ โลตัส ในประเทศไทย แล้ว ในช่วงเวลาเดียวกันก็มีกระแสข่าวออกมาว่า ซีพี เข้าซื้อกิจการของธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Bank สำหรับกระแสข่าวนี้ นายธนินท์ ยอมรับว่ามีการเข้าไปเจรจาขอเข้าซื้อกิจการจริง แต่เนื่องจากไม่มีความชำนาญ จึงขอศึกษาธุรกิจนี้ก่อนที่จะตัดสินใจ
"ขณะนี้ยังไม่ได้เข้าไปซื้อกิจการของธนาคาร LH Bank แต่ยอมรับว่าเคยเข้าไปเจรจา แต่ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปทางธุรกิจ เนื่องจากบริษัทไม่มีความถนัดในธุรกิจดังกล่าว จึงต้องทำการศึกษาธุรกิจเพิ่มเติม แต่หากบริษัทเข้าไปซื้อกิจการ LH Bank จริง บริษัทคงเน้นเจาะไปที่กลุ่มลูกค้ารายย่อย เพื่อไม่ให้ชนกับธุรกิจสถาบันการเงินรายใหญ่" นายธนินท์ระบุ
นอกจากจะมี 2 ธุรกิจใหญ่ที่นายธนินท์ให้ความสนใจเข้าซื้อกิจการแล้ว ยังมีอีกหลายธุรกิจที่นายธนินท์ให้ความสนใจ เพราะการเข้าไปร่วมถือหุ้นกับธุรกิจที่มีศักยภาพ หรือการเข้าไปซื้อกิจการของธุรกิจที่มีพื้นฐานดี จะส่งผลให้ธุรกิจเดินหน้าไปเร็วกว่าการสร้างธุรกิจขึ้นมาใหม่ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร จึงจะทำให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักและติดตลาด
นายธนินท์ กล่าวว่า นโยบายของผมจะเน้นการเข้าไปร่วมทำธุรกิจกับผู้ประกอบการย่อย เช่น เข้าไปถือหุ้นเพียง 10-20% พอธุรกิจเขาโต เราก็โตตามไปด้วย จาก 20% ก็เป็น 100% เพราะทำธุรกิจเองไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นเราต้องไปช่วยเขาให้เติบโต แนวทางการดำเนินธุรกิจของผม ไม่มีอำนาจจะไปบังคับให้ใครซื้อสินค้าของผมได้ จึงทำให้ต้องกลับมาคิดว่าทำอย่างไรจึงจะขายของดีราคาถูกได้ เพราะนโยบายของผม ตลาดในโลกนี้เป็นของซีพี วัตถุดิบในโลกนี้เป็นของซีพี คนเก่งในโลกนี้เป็นของซีพี และเงินอยู่ในโลกนี้เป็นของซีพี ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้เป็นหรือเปล่า เขายอมให้เราใช้หรือเปล่า
สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจในอนาคต ที่นายธนินท์ให้ความสนใจเป็นพิเศษในตอนนี้ คือ อินเตอร์เน็ต อีคอมเมิร์ซ ศูนย์กระจายสินค้า (ดีซี) และธุรกิจขนส่ง (โลจิสติกส์) รวมไปถึงธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่ขัดกับธุรกิจเดิมที่มีอยู่ นายธนินท์ให้ความสนใจเข้าไปร่วมขยายธุรกิจทั้งหมด
ส่วนของแผนปี 2558 นายธนินท์ ประกาศว่า ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจในประเทศไทย ควบคู่ไปกับต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพราะมีความมั่นใจในเศรษฐกิจของไทย และคาดว่าในปีหน้าจะใช้งบลงทุนสูงกว่าปีนี้อย่างแน่นอน
การออกมาแย้มไต๋ สนใจหลากหลายธุรกิจของ "นายธนินท์ เจียรวนนท์" ในครั้งนี้ น่าจะถือเป็นการส่งสัญญาณว่าในอนาคต "อาณาจักรธุรกิจของซีพี"จะมีอะไรเข้ามาอยู่ภายใต้การบริหารบ้าง แต่ธุรกิจที่หลายคนสนใจและจับตามองคงจะหนีไม่พ้น ห้างเทสโก้ โลตัส ในประเทศไทย เพราะออกตัวแรงว่ารักเหมือนลูกขนาดนี้ หากบริษัทแม่แย้มไต๋ว่าจะขายกิจการ "ซีพี" คงส่งเจ้าหน้าที่ไปเจรจากันทันที
ผลสรุปของ "วิกฤติห้างเทสโก้ โลตัส" จะเป็นอย่างไร คงต้องจับตาดูกันต่อไป เพราะถ้าย้อนกลับไปดูที่ความแข็งแกร่ง และศักยภาพของ ห้างเทสโก้ โลตัส ถือว่ายังมีมากพอสมควร โดยเฉพาะสาขาในประเทศไทยและประเทศเกาหลี หากใครคิดจะฮุบกิจการ คงต้องเตรียมเงินก้อนโตพอสมควร เพราะแค่มูลค่าทรัพย์สินในประเทศไทยก็กว่า 2 แสนล้านบาทแล้ว
ข่าวเด่น