ดูเหมือนจะถึงทางตันสำหรับวงการหนังไทย สังเกตได้จากโรงหนังทั่วประเทศที่มีพื้นที่ให้หนังไทยได้เขาฉายเพียงน้อยนิด รวมทั้งรายหนังในประเทศที่เรียกได้ว่า แค่ประคองไม่ให้ขาดทุนก็เจ๋งแล้ว วงการหนังไทยในวันนี้จะอยู่รอดอย่างไร "ปรัชญา ปิ่นแก้ว" ผู้กำกับพันล้าน มีมุมมองในเรื่องนี้
คนมองต่อไปนี้คงทำหนังลำบาก เพราะไม่มีพระเอกคู่บุญอย่าง "จา พนม" แล้ว ?
"สนุกครับที่ต้องอยู่ใต้คำถามเหล่านี้ คนทำหนังที่ดี ผู้กำกับกำกับหนังที่ดี ต้องมีความฝันที่ไม่มีวันจบ มีความกระหายที่จะทำเรื่องนั้นเรื่องนี้ ถ้าเรายังมีความรู้สึกเหล่านี้อยู่ ผมเชื่อว่าทุกคนจะทำมันออกมาได้ดี แต่ว่าไม่ใช่ทำไปวันๆ หรือมีอะไรมากำหนดชีวิตเรามากจนเกินไปก็ไม่ดี เราต้องเป็นตัวเรามากที่สุด ผู้กำกับทุกคนก็ต้องมีฝันกันทุกคน แล้วฝันมันไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นไปตามที่คนคิด หรือคนคาดเดา จริงๆ เราทำอะไรที่คนคาดเดาไม่ได้ นั่นคือ เจ๋งด้วยซ้ำ"
คุณจะทำหนังบู๊ต่อไป ?
"ผมสนุกกับหนังทุกแนวอยู่แล้ว อย่างเช่นหนังบู๊ วันนี้มันเดินมาถึงตรงนี้ ผมก็สนุกกับการที่จะทำอะไรให้มันเหนือกว่า
ใหม่กว่าไปเรื่อยๆ หรือถ้าเป็นหนังรักที่ผมไม่ได้ทำเลย ผมก็คิดว่าผมจะทำยังไงให้มันสนุกว่า และดีกว่าหนังที่มันเคยมี
อันนั้นคือแนวคิดที่ควรจะเป็นสำหรับคนที่จะเป็นผู้กำกับ ผมมั่นใจว่าหนังเราจะต้องมีดี ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไร แต่จะสำเร็จบางทีมันเทียบกันคนละอย่าง อย่างเรื่องที่ผมจะทำต่อไปเนี่ย มันไม่ได้ไปถ่ายเมืองนอกหรอก มันแค่ในประเทศไทย วันหนึ่งผมเคยทำหนังใช้เงินหลายร้อยล้านบาท แต่ผมก็มีความฝันที่อยากทำหนังไม่กี่ล้านบาท หนังเล็กๆ"
ที่บอกว่าอยากทำหนังไม่กี่ล้านบาท ถือว่าสัก 10 ล้านได้ไหม
"ผมอยากทำน้อยกว่านั้นด้วยซ้ำ อยากพิสูจน์ตัวเอง อยากทำงบน้อยๆ พิสูจน์ตัวเองว่าเราก็ทำได้
แต่ว่าเรื่องที่จะทำก็ยังไม่ได้น้อยขนาดนั้น"
หนังต้นทุนต่ำ จะมีโรงให้ฉายเหรอ ?
"นั่นแหละ ท้าทายครับ โรงหนังที่เขาจะฉายหนัง เขาไม่ได้มองว่าหนังต้นทุนเท่าไหร่ เขามองว่าหนังเรืองนั้นน่าสนใจแค่ไหน ถ้าเราสามารถทำให้หนังเราต้นทุนต่ำสุด แต่ความน่าสนใจสูงสุด ผมว่าเก่งมาก"
ต้นทุนจะต่ำได้อย่างไร ดาราตัวท๊อปๆ ค่าตัวแพง ?
"หนังทุกเรื่องไม่ได้น่าดู เพราะดารา หนังแต่ละเรื่องมีสิ่งที่ทำให้คนอยากไปดู 10 กว่าเหตุผลครับ ดาราตัวท๊อปที่พูดมาทั้งหมดนั้น (เจมส์จิ-มาริโอ้,ญาญ่า ฯลฯ) ถ้าเราใช้ไม่เป็น ใช้ผิดที่ผิดทาง คนก็ไม่ดูเหมือนกัน เราต้องใช้ให้เป็น
แล้วอีกอย่างหนึ่งไม่ใช่ดาราเท่านั้นที่คนอยากไปดู เหตุผลที่คนดูหนังแต่ละเรื่องมีมากมาย หนังบางเรื่องเราไปดู เพราะโปสเตอร์ใบเดียวด้วยซ้ำ หรือบางเรื่องไปดูเพราะชื่อเรื่อง แค่คำคำนี้คำเดียว"
วงการหนังไทยแย่มากใยระยะหลัง ?
"ผมคิดว่าตอนนี้ทั้งหนังไทย หนังต่างประเทศ เจอปัญหาเดียวกัน คือ ต้องทำให้ตัวเองน่าสนใจให้มากๆ และมากพอที่จะทำให้คนหันมาดู เพราะทุกวันนี้มันเป็นยุคดิจิตอล มันส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลง ต่อ 3 จอ จอใหญ่ (โรงหนัง) จอกลาง (ทีวี) จอเล็ก (มือถือ) ตอนนี้มันเกิดสงคราม 3 จอ"
สงคราม 3 จอ ?
"จอเล็กมันถูก ง่าย เร็ว แล้วก็น่าสนใจ จอใหญ่เสียตังก์ แล้วฟิกซ์เวลา ต้องดูรอบนั้นเวลานี้ จอกลางก็ฟรี แต่ฟิกซ์เวลา
แต่ไอ้ที่อยู่ในมือ จอเล็ก ฟรี และไม่ฟิกซ์เวลาจะเมื่อไหร่ก็ได้"
อาจจะสร้างหนังบนจอเล็ก ไม่ต้องจอใหญ่ ?
"ผมยังสนุกกับจอใหญ่อยู่ ผมยังสนุกกับการที่จะเอาชนะปัญหานี้ ผมชอบทำหนังให้หน้าดู ให้คนเสียเงินมาดูหนังเราให้ได้"
หนังโรงใหญ่มีสิทธิ์ตาย ?
"ก็มีสิทธิ์ถ้าไม่พัฒนา ไม่ก้าวทันความต้องการของคนดู"
หนังไทยแทบไม่มีโรงให้ฉาย ในโรงเป็นหนังต่างประเทศเสียส่วนใหญ่ ?
"ไม่โทษโรงหนังเลยครับ โรงหนังเขาไวด้วยซ้ำ ที่จะรู้ว่าคนดูอยากดูเรื่องไหน เขาจะเตรียมโรงให้ดูเลย ถ้าเขารู้คนดูรู้ว่าคนดูไม่อยากดูเรื่องนี้ หรือสนใจกลุ่มเล็กๆ เขาก็จะเตรียมโรงน้อยๆ ให้คนกลุ่มเหล่านั้น ไม่โทษโรงหนัง ความสะดวกสบายในการับสื่อในยุคปัจจุบัน สุดท้ายก็ไม่ได้โทษอะไร คือ เราต้องปรับตัวให้ทัน มันเป็นเรื่องปฏิเสธไม่ได้ ผมก็เป็น เราก็เสพสื่อเหล่านี้อยู่"
คุณภาพหนังไทยจะสู้หนังต่างประเทศได้ยังไง เทคนิค ตัดต่อ ต่างกัน ?
"แต่หนังไทยได้เปรียบหนังต่างประเทศ หนังไทยมีจิตวิญญาณของคนไทย หนังทุกประเทศจะได้เปรียบหนังนอกประเทศของเขา คือมีจิตวิญญาณของคนดูเหล่านั้น ไม่มีหนังฝรั่งเรื่องไหนเข้าถึงจิตวิญญาณของคนไทย นอกจากหนังไทยด้วยกัน
ข่าวเด่น