ส่วนดัชนี SET100 มีหลักทรัพย์ใหม่ 10 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) บมจ. เด็มโก้ (DEMCO)  บมจ. ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) บมจ. อิชิตัน กรุ๊ป (ICHI) บมจ. เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น (KTIS) บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) บมจ. ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 (SAWAD) บมจ. สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ (SF) บมจ. สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) และ บมจ. สามารถ ไอ-โมบาย (SIM) ส่งผลให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคา ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2557 นั้นอยู่ที่ระดับ 11.62 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 79.53 ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของหลักทรัพย์ทั้งหมด

 ในขณะที่ SET High Dividend 30 Index (SETHD) มีหลักทรัพย์ใหม่ 2 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ. จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) และ บมจ. สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) ส่งผลให้หลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนี SETHD รอบนี้มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ยร้อยละ 3.86 สูงกว่าอัตราผลตอบแทนเงินปันผลของ ตลท. โดยรวม ซึ่งมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 2.63 จากข้อมูลล่าสุดในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (กันยายน-พฤศจิกายน 2557)

 นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การคำนวณดัชนี SET50/SET100 สำหรับกรณีที่หลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนี SET50/SET100 ถูกทำคำเสนอซื้อ และส่งผลให้หลักทรัพย์ดังกล่าวมีสัดส่วนผู้ถือหลักทรัพย์รายย่อย (free float) น้อยกว่าร้อยละ 20 ตลาดหลักทรัพย์จะนำหลักทรัพย์ดังกล่าวนั้นออกจากการคำนวณดัชนีก่อนที่จะถึงรอบทบทวนปกติ ทั้งนี้ เกณฑ์ที่ปรับปรุงแล้วนี้จะเริ่มใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2558 เป็นต้นไป                  

 ผู้ลงทุนและผู้สนใจสามารถดูรายชื่อหลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนี รวมทั้งเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์และวิธีการคำนวณดัชนี ได้ที่เว็บไซต์ www.set.or.th