ห่างหายจากแชมป์ "ฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ" หรือชื่อเดิมคือ "ไทเกอร์ คัพ" มานาน เราจะได้รู้กันว่า "ประเทศไทย" จะคว้าแชมป์มาครองได้หรือไม่ หรือยังต้องรอคอยต่อไป โดยไทยจะแข่งขันรอบชิงชนะเลิศนัดแรกที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันพุธที่ 17 ธันวาคมนี้ ก่อนจะไปเล่นที่มาเลเซีย ในวันที่ 20 ธันวาคมที่จะถึงนี้
ในส่วนความพร้อม ทีมไทย จะไม่มี "อดิศร พรหมรักษ์" แน่นอนแล้ว หลังจากเจ้าตัวเจ็บเอ็นหัวเข่าขวา ซึ่งนอกจากเกมที่ไทยเป็นเจ้าบ้านแล้ว ในเกมที่มาเลเซียเป็นเจ้าบ้านในวันที่ 20 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ "อดิศร" ก็จะไม่ได้ลงเล่นด้วย
นอกจากนั้น "ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง" กุนซือทีมชาติไทย กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะให้ใครลงเล่นเป็น กองหน้าตัวเป็น หลังจากที่จะได้ "อดิศักดิ์ ไกรษร" พ้นโทษแบนกลับมา ส่วนแผนการเล่นตอนนี้ยังมีการลองเปลี่ยนระบบอยู่บ้าง บางครั้งใช้ "อดิศักดิ์ ไกรษร" เล่นหน้าเป้า หรือลองดัน "ชนาธิป สรงกระสินธ์" ขึ้นไปเล่น หรืออาจจะมี "ประกิต ดีพร้อม" ที่พร้อมสอดแทรก ซึ่งตนเองกำลังลองดูหลายๆแบบ เนื่องจากต้องการเผด็จศึกมาเลเซียให้ได้ จะสกอร์สูงหรือต่ำ ตนเองไม่สนใจ ส่วนที่มีรายงานว่ามีแมวมองของคู่แข่งมานั่งเช็กฟอร์มและแผนการเล่นของเรานั้น ตนเองก็ไม่ได้หวั่นใจ เพราะมีแผนหลอกล่ออยู่แล้ว
ด้าน "ดอลลาห์ ซัลเลห์" โค้ชมาเลเซีย เปิดเผยว่า ตนเองมั่นใจมากว่า มาเลเซีย มีโอกาสจะเอาชนะไทย และคว้าแชมป์มาครองได้ แม้จะเป็นรอง เพราะผู้เล่นทั้งทีมมีขวัญกำลังใจฮึกเหิมอย่างมาก หลังจากผ่านความกดดันในการเอาชนะเวียดนามมาได้แล้ว
ซึ่งเรื่องใครจะแพ้ ใครจะชนะ ก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ที่น่าห่วงใยไม่น้อย คือ เรื่องของแฟนบอล โดยตอนนี้ทีมฟุตบอลชายไทยกำลังอยู่ในช่วงเนื้อหอม เพราะ"ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง" ที่นำทีมชุดเล็กคว้าแชมป์ซีเกมส์ ได้อันดับ 4 เอเชียนเกมส์ จนมาทำทีมชุดใหญ่ในรายการนี้
ตอนนี้นักเตะของโค้ชซิโก้สามารถสร้างกระแสขึ้นมาได้แล้ว กองเชียร์ก็ต้องช่วยส่งเสริม โดยส่งเสริมในทางที่ถูก
พวกที่ชอบก่อความรุนแรง พวกที่ชอบแหกกฎ ยิ่งห้ามจะยิ่งทำ และพวกที่จำหน่ายตั๋วผี ทุกพวกที่กล่าวมาเป็นองค์ประกอบที่ทำลายวงการฟุตบอลไทยทั้งสิ้น เหมือนเชื้อโรคที่แม้จะตัวเล็ก แต่ก็ออกฤทธิ์ให้คนตายได้
คนส่วนน้อยเหล่านี้ขอให้คิดให้เยอะๆ หน่อย ไม่ใช่เห็นปรากฏการณ์ของฟุตบอลไทยครั้งนี้ เป็นช่วงเวลาแห่งการตักตวงกอบโกย เป็นช่วงเวลาแห่งการประกาศศักดาในทางที่ผิด
จากนั้นก็เป็นส่วนของผู้ดูแล ต้องมีแผนการต่อยอดความสำเร็จไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ขึ้นแล้วปล่อยให้ตกลงมาตามยถากรรม แล้วรอโชคช่วยครั้งใหม่
การดูแลรักษาความปลอดภัยก่อนและหลังเกมต้องมีประสิทธิภาพ การตรวจสอบอาวุธหรือสิ่งของต้องห้ามต้องเข้มงวด ไม่ใช่ประกาศห้ามนำพลุดอกไม้ไฟเข้าสนาม แต่ปรากฏว่าบอลยังไม่ทันเตะ จุดดอกไม้ไฟกันแล้ว แถมยังไม่มีใครจัดการอย่างทันท่วงทีด้วย
หากรักแบบไม่จริงใจ "ตอนรวยอยู่ด้วยคน พอจนก็หนี" ต่อไปจะไม่เห็นสิ่งดีๆ จากฟุตบอลไทยเกิดขึ้นอีก
ข่าวเด่น