การตลาด
สกู๊ป "เครื่องใช้ไฟฟ้า" โหมกิจกรรม กระทุ้งยอดส่งท้ายปี


แม้ว่าขณะนี้ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยจะอยู่ในสภาวะเริ่มฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น แต่เนื่องจากยังมีปัจจัยหลายด้านของยังรุมเร้า ส่งผลให้ผู้บริโภคยังคงกล้าๆ กลัวๆ ที่จะออกมาจับจ่ายใช้สอย ซึ่งกลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าถือเป็นหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบดังกล่าว  ส่งผลให้ตอนนี้ต้องออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายกันอย่างหนัก เพื่อกระตุ้นยอดขายสิ้นปีให้เป็นไปตามเป้าหมายหรือใกล้เคียงเป้าหมายมากที่สุด


กลุยทธ์ที่ได้ผลเร็วที่สุดสำหรับการกระตุ้นยอดขาย  ยังคงหนีไม่พ้นการออกมาทำกิจกรรมโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม  เพราะใช้เมื่อใดมักได้ผล  แต่จะได้ยอดขายมากหรือน้อยนั้น คงต้องรอลุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภค ว่าโปรโมชั่นที่ผู้ประกอบการแต่ละรายไม่ว่าจะเป็นห้างค้าปลีกที่เป็นตัวแทนจำหน่าย  ดีลเลอร์  หรือตัวเจ้าของแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าเองทำโปรโมชั่นได้โดนใจผู้บริโภคหรือเปล่า

 
 
 
น.ส.สอางทิพย์ อมรฉัตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาด บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด ในเครือเซ็นทรัล กล่าวว่า แผนการทำตลาดในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้  พาเวอร์บายได้เตรียมงบการตลาดรวม 30 ล้านบาท ในการจัดกิจกรรมแคมเปญใหญ่พิเศษ 3 ต่อ ประกอบด้วย แคมเปญส่วนลดเพิ่มสูงสุด 45% และผ่อนนาน 10 เดือน ร่วมกับสถาบันการเงินชั้นนำ ซึ่งจบไปแล้วเมื่อวันที่  30 พ.ย.ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับแคมเปญลุ้นทอง 1 บาททุกวัน ลุ้นโชคทองใหญ่หนัก 10 บาททุกสัปดาห์ (รวม 4 สัปดาห์) ในกิจกรรม “ช้อปลุ้นทองฟรี แจกโชคถึงบ้าน” เพียงชอปทุก 3,000 บาท รับ 1 สิทธิ์ลุ้นโชค  ซึ่งจบไปแล้วเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ที่ผ่านมา 

ส่วนแคมเปญสุดท้ายที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้และจะจบในวันที่  26 ธ.ค. คือ แคมเปญชิงรางวัลผ่านเกมออนไลน์ “Gold Hunter” ผ่านเฟซบุ๊กเพื่อสร้างไอคอนออนไลน์คอมมูนิตี้เครื่องมือการตลาดตัวใหม่ ลุ้นรับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 130,000 บาท ทั้งไอโฟน 6, เอลซีดี, แท็บเล็ต และอื่นๆ อีกมากมาย  ซึ่งหลังจากจบ 3 แคมเปญดังกล่าว คาดว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า  1,000  ล้านบาท

ขณะที่ภาพรวมยอดขายสิ้นปี 2557 คาดว่าจะมียอดขายรวมประมาณ 19,500  ล้านบาท เติบโตคงที่จากปีที่แล้ว เพราะสถานการณ์การเมืองที่มีปัญหาตั้งแต่ปลายปี 2556 จนถึงกลางปี 2557 ทำให้ยอดขายชะลอตัวลง แต่คาดว่าในปี 2558 ยอดขายจะเติบโตประมาณ 10% ส่วนปี 2558 หลังจากมีการขยายสาขาเพิ่มและบรรยากาศรวมในประเทศดีขึ้นจากปีนี้คาดว่าจะมียอดขายเติบโต 10%

น.ส.สอางทิพย์ กล่าวอีกว่า ภาพรวมเศรษฐกิจต่างๆ ของไทยในปีหน้า โดยส่วนตัวมองว่าน่าจะดีขึ้นกว่าปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นกำลังซื้อ การเมือง หรือเศรษฐกิจทั่วไป แต่ก็อาจจะยังไม่ดีมาก คาดว่าจะเห็นสัญญาณบวกการฟื้นตัวที่ดีในปี 2559 หลังจากที่มีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ในปี 2558 แล้ว

นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส บริหารสินค้าพาวเวอร์มอลล์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าปีนี้ คาดว่าจะติดลบ 8% จากสภาพการเมืองและเศรษฐกิจช่วงต้นปีที่ยังไม่นิ่ง ในส่วนของ “พาวเวอร์ มอลล์” คาดว่าปีนี้จะมีรายได้ทรงตัวเท่าปีก่อน หรือปิดรายได้ที่ประมาณ 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ที่มาจากสินค้ากลุ่มทีวีและเอวี 40% ไอที 30% และอื่นๆ 30%

 
 
 
ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพาเวอร์มอลล์ ได้ออกมาใช้งบ 100 ล้านบาท จัดงาน “พาวเวอร์ มอลล์ อิเล็กทรอนิก้า” (POWER MALL ELECTRONICA) ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 18 ธ.ค. 2557 - 5 ม.ค. 2558 ด้วยการนำแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 200 แบรนด์  มาทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายรับส่วนลดคืนสูงสุด 40% ใน 4 สาขา คือ ศูนย์การค้าสยามพารากอน, เดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน และเดอะมอลล์ บางแค ซึ่งหลังจากจบการจัดงานดังกล่าว คาดว่าจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาทอย่างแน่นอน
 
นายจักรกฤษณ์ กล่าวต่อว่า แนวโน้มการทำตลาดของเครื่องใช้ไฟฟ้าในปีหน้า มองว่าไม่น่าจะยากไปกว่าปีนี้ เพียงแต่ผู้ประกอบการต้องทำการตลาดแบบ 360 องศาในทุกๆ วัน เพราะปีหน้าจะไม่มีอีเวนต์ใหญ่มากระตุ้นตลาด เจ้าของแบรนด์และค้าปลีกจะต้องสร้างการรับรู้ นำเสนอเทคโนโลยี ดีไซน์ และอีโมชันนัลใหม่ๆ เพื่อผลักดันให้ตลาดมีการเติบโต ซึ่งมองว่ากลุ่มทีวีจะเป็นสินค้าไฮไลต์ในปีหน้า ขณะที่สินค้ากลุ่มเอชเอ อย่างตู้เย็นและเครื่องซักผ้าจะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง จากการที่ภาคอสังหาริมทรัพย์เริ่มทยอยส่งมอบที่พักอาศัย ทำให้เกิดการซื้อสินค้าเข้าที่พักอาศัยมากขึ้น

นอกจากผู้ประกอบการค้าปลีกที่เป็นดีลเลอร์จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าจะออกมาบ่นในเรื่องของยอดขายที่ปรับตัวลดลง ทำให้ต้องออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายเพิ่มขึ้นแล้ว ในด้านของตัวผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้าเองก็ต้องออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างหนัก เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายเช่นกัน

นายอลงกรณ์ ชูจิตร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้ามูลค่า 6.5 หมื่นล้านบาท ปีนี้ติดลบ 5% ตกลงที่สุดในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา จากผลกระทบการเมืองและเศรษฐกิจ แต่คาดว่าในปีหน้าน่าจะกลับมาโตได้ 10% โดยในช่วงไตรมาสหนึ่งอาจจะยังไม่เห็นความชัดเจน เนื่องจากนโยบายต่างๆ เพิ่งจะเริ่มต้น ต้องใช้เวลา 2-3 เดือนจึงจะเข้าที่และจะเห็นความชัดเจนมากยิ่งขึ้นหลังจากไตรมาสสองเป็นต้นไป

ในส่วนของแอลจี ปีนี้คาดว่าจะปิดรายได้ที่ 20,000  ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 7%  ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ว่าจะเติบโตได้ที่ 15% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองและเศรษฐกิจ แต่หากนับรายได้ที่เติบโตดังกล่าวมาเทียบกับภาพรวมตลาดที่ติดลบถือว่าเป็นรายได้ที่เติบโตเป็นที่น่าพอใจ  และจากแนวโน้มกำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัวคาดว่าปีหน้าจะกลับมาเติบโตได้ที่ 15%  อีกครั้งหนึ่ง         

นายฟูมิยาสุ ฟูจิโมริ กรรมการ บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า แม้ว่าปีนี้ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะติดลบ แต่ปีหน้าเชื่อว่าจะกลับมาเติบโตได้จากแนวโน้มสภาพเศรษฐกิจที่น่าจะดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าประเภททีวีและกล้องถ่ายรูปน่าจะยังไปได้ดีอยู่

ด้านนายยูโซ ชิบะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด กล่าวต่อว่า ภาพรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงปลายปีนี้น่าจะดีเพราะเป็นช่วงการขายและนำเสนอสินค้าใหม่ส่งท้ายปี โดยมองว่าทีวี 4K จะเป็นสินค้าไฮไลต์ที่จะมียอดขายดีสุด บวกกับการนำเสนอสินค้าที่มากขึ้นพร้อมคอนเทนต์ที่หลากหลายจะเป็นตัวกระตุ้นให้ตลาด 4k มีอัตราการเติบโตที่ดีในปีหน้า

 
 
หลังจากมียอดขายพลาดเป้าหมายที่วางไว้ บรรดาผู้ประกอบการก็ต่างออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย ผ่านงาน “พาวเวอร์ มอลล์ อิเล็กทรอนิก้า” ครั้งที่ 16  ร่วมกับบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป  โดยในส่วนของ “แอลจี” ได้นำเสนอสินค้าไฮไลต์อย่าง ทีวีขนาด 105 นิ้วที่มาพร้อมเทคโนโลยี 5K โดยจะมีการพรีเซลภายในงานด้วย รวมถึงโทรศัพท์มือถือ และตู้เย็น 4 ประตูรุ่นใหม่ที่จะมาเปิดตัวภายในงาน ขณะที่บริษัท ไทยซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าซัมซุง  ได้นำเสนอสินค้าใหม่ที่จะมาเปิดตัวในงาน 4 กลุ่มหลัก คือ ทีวี, เครื่องฟอกอากาศ, ตู้เย็นไซด์บายไซด์ และโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น 

แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่การออกมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายอะไรสักอย่าง ก็สามารถสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดและกระตุ้นให้ผู้บริโภคกล้าที่จะออกมาจับจ่ายใช้สอย  เพราะหากมัวแต่อยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรเลย  ผู้บริโภคก็จะอยู่นิ่งๆ ไม่ออกมาจับจ่ายใช้สอยเช่นกัน ท่ามกลางปัจจัยลบรอบด้านที่จ้องรุมเร้า การออกมาสร้างภูมิคุ้มกันตัวเองถือเป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ 

      
 

บันทึกโดย : วันที่ : 22 ธ.ค. 2557 เวลา : 15:30:47
25-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2024, 8:28 am