นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ฟินันซ่า เปิดเผยว่า บริษัทออกเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ 3 เดือน ชื่อกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 3เดือน5 (FAM FIPR3M5) โดยมีอัตราผลตอบแทนโดยประมาณ 2.65% ต่อปี และ กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 6เดือน3 (FAM FIPR6M3) อัตราผลตอบแทนโดยประมาณ 2.75% ต่อปี เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 5-12 ม.ค.58 ซึ่งเป็นกองทุนที่โรลโอเวอร์มาจากการขายกองทุนก่อนหน้านี้ เป็นกองทุน Specific fund
บลจ.ฟินันซ่า ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องแต่ยังขยายตัวในระดับต่ำ โดยแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลอาจมีความล่าช้า เนื่องจากต้องใช้เวลาในการศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนในโครงการดังกล่าว สำหรับทิศทางของอัตราดอกเบี้ยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำและหากเศรษฐกิจยังคงขยายตัวในระดับต่ำเช่นนี้อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมในระยะถัดไป
ด้านปัจจัยภายนอกประเทศ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกทั้งในยุโรป จีน และญี่ปุ่น อีกทั้งยังมีความกังวลว่าประเทศรัสเซียกำลังจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจและจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของยูโรโซน ซึ่งเป็นปัจจัยที่กดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงในระดับต่ำและอัตราผลตอบแทนที่ดีจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ"
กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 3เดือน5 (FAM FIPR3M5) จะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงินและ/หรือ เงินฝากของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ เงินฝากธนาคารต่างประเทศสกุลเงิน USD, CNY, HKD, EUR, JPY กับธนาคาร BOC (Macau), Standard Chartered Bank (Hong Kong), ธนาคาร CIMB Niaga (Indonesia), ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ, ตั๋วแลกเงิน บมจ. ดั๊บเบิ้ล เอ(1991) (BBB), ตั๋วแลกเงิน บมจ. สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (BBB+), ตั๋วแลกเงิน บมจ.เอเซียเสริมกิจ ลีสซิ่ง(BBB+) หรือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB ขึ้นไป, ตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น
ส่วนกองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัสโรลโอเวอร์ 6เดือน3 (FAM FIPR6M3) จะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงินและ/หรือ เงินฝากของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ เงินฝากธนาคารต่างประเทศสกุลเงิน USD, CNY, HKD, EUR, JPY กับธนาคาร BOC (Macau), Standard Chartered Bank (Hong Kong), ธนาคาร CIMB Niaga (Indonesia), ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ, ตั๋วแลกเงิน บมจ. ดั๊บเบิ้ล เอ(1991) (BBB), ตั๋วแลกเงิน บมจ. มั่นคงเคหะการ (BBB+), ตั๋วแลกเงิน บมจ. ราชธานีลิสซิ่งลีสซิ่ง (BBB+) หรือตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตั้งแต่ BBB ขึ้นไป, ตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น
ข่าวเด่น