นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงศรี (KSAM) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้เอไอ 6M1 (KFXAI6M1) อายุประมาณ 6 เดือน เสนอขายระหว่างวันที่ 13–19 มกราคม 2558
โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร China Construction Bank (สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 20% เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน สาขามาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Akbank T.A.S. (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Isbank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 7% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 7% และตั๋วแลกเงินออกโดยบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 6%
"กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้เอไอ 6M1 (KFXAI6M1) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อย และผู้ที่มีเงินลงทุนสูง และต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก ต้องการล็อคผลตอบแทนโดยสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน"นายฉัตรพี กล่าว
ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 2.55% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป
สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้โลกนั้น อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาครัฐของสหรัฐฯอายุ 10 ปี ลดลงสู่ระดับต่ำกว่าร้อยละ 2 และเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบกว่า 1 ปี เนื่องจากราคาน้ำมันดิ่งลงก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาบ้าง โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนโดยรวมปรับลดลงร้อยละ 0.03 – 0.12 โดยที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาวลดลงมากกว่าระยะสั้น ทางด้านธนาคารกลางยุโรปประกาศว่าอยู่ในระหว่างเตรียมตัวที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งอาจมีการพิจารณาถึงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 มกราคมนี้
สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับลดลงมากตามการลดลงของอัตราเงินเฟ้อ โดยลดลงร้อยละ 0.05 – 0.30 โดยที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาวลดลงมากกว่าตราสารหนี้ระยะสั้น
ข่าวเด่น