นายสมิทธ์ พนมยงค์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการบริหารกองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์อย่างต่อเนื่องรวมทั้งสิ้น 3 กองทุน โดยเป็นกองทริกเกอร์หุ้นไทย 2 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ไทยแลนด์รีคอฟเวอรี่ ทริกเกอร์ 3 x 3 ฟันด์ 2 (SCBTRTG2) ได้รับผลตอบแทนตามเป้าหมาย 3% แรกภายในเวลาเพียง 4 เดือนนับตั้งแต่เปิดเสนอขายกองเมื่อปลายเดือนกันยายน 2557 ที่ผ่านมา คือมีมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.30 บาท ต่อหน่วยเป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน ซึ่งบริษัทฯ จะรับซื้อคืนอัตโนมัติได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 3.00 ของมูลค่าที่ตราไว้ 10 บาท โดยผู้ลงทุนจะได้รับเงินในวันที่ 26 มกราคม 2558
กองทุน SCBTRTG2 มีกลยุทธ์บริหารเชิงรุก (Active Managed) เน้นลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนภายในประเทศที่ได้รับผลประโยชน์จากแผนการลงทุนในการลงทุนภาครัฐและการลงทุนภาคเอกชน ได้แก่ หุ้นกลุ่มธนาคาร สถาบันการเงิน และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น
สำหรับอีกหนึ่งกองทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนตามเป้าหมาย 3% แรกภายใน 1 เดือนนับตั้งแต่เปิดเสนอขายเมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ทริกเกอร์ 3% พลัส 3% ฟันด์ เอ (SCBTG3P3A) โดยมีมูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.30 บาทต่อหน่วย ณ วันทำการ ซึ่งบริษัทจะรับซื้อคืนอัตโนมัติได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 3.00 ของมูลค่าที่ตราไว้ 10 บาท โดยผู้ลงทุนจะได้รับเงิน ในวันที่ 28 มกราคม 2558
กองทุน SCBTG3P3A มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่ได้รับผลประโยชน์จากแผนการลงทุนของภาครัฐที่จะทยอยประกาศออกมาในปี 58 รวมถึงนโยบาย Digital Economy ซึ่งคาดว่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
“ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บลจ.ไทยพาณิชย์ สามารถบริหารกองทุนเข้าเป้าหมายแรกมาแล้วอีก 1 กองทุน คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ยูเอส สมอลแคปทริกเกอร์ 5%+5% (SCBUSSMTG) ที่ลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ โดยสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายแรก 5% ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือนนับจากวันแรกที่ลงทุนเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2557 โดยผู้ลงทุนได้รับเงินคืนแล้วเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา สำหรับผลสำเร็จดังกล่าวสะท้อนถึงความเชี่ยวชาญในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนที่ทันกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสภาวะตลาดหุ้นทั่วโลก” นายสมิทธ์กล่าว
ข่าวเด่น