เสร็จจากงาน "Mobile Expo 2015" ของ ไอที ซิตี้ ได้ไม่นาน ใครที่พลาดงานดังกล่าวยังมีโอกาสได้ไปเดินชมสินค้าเทคโนโลยีกันรอบใหม่ได้ต่ออีกที่งาน "Thailand Mobile Expo 2015" หรือ "งานมหกรรมโทรศัพท์มือถือ" ที่่ใหญ่ที่สุด ซึ่งทาง บริษัท เอ็มวิชั่น จำกัด จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 20 แล้ว โดยมีกำหนดในช่วงวันแห่งความรักพอดี ระหว่างวันที่ 12-15 กุมภาพันธ์ 2558 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
งานนี้นอกจากมีการประชันสมาร์ทโฟนจากหลายค่ายแล้ว ยังมีอุปกรณ์เครื่องใช้เทคโนโลยี หรือ เกดเจ็ต (Gadget ) ล้ำสมัย มาโชว์หลายชิ้นด้วยกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์สวมใส่ได้และยานบินอัจฉริยะหรือโดรน ที่สามารถติดกล้องเพื่อช่วยทำหน้าที่เสมือนยาม สอดส่องดูแลจากที่สูงได้
มาดูกันว่า ไปงานนี้จะได้เห็นอะไรกันบ้าง
1.ASUS ZenWatch
อุปกรณ์สวมใส่ได้ (wearable device) ที่จะได้เห็นกัน โดยส่วนใหญ่มักอยู่ในรูปแบบของนาฬิกาอัจฉริยะ ดังเช่น "ASUS ZenWatch" เป็นนาฬิการะบบปฏิบัติการ Android wear ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการ Android สำหรับ Smartwatch ตัวแรกของเอซุส ที่ผสานความหรู และ Zen UI ระบบอินเตอร์เฟซที่เรียบง่ายเข้ากันกับนาฬิกาได้อย่างลงตัว มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.63 นิ้ว พร้อมกระจกกันรอย Gorilla Glass 3 ประมวลผลด้วย ซีพียู Snapdragon 400 มีหน่วยความจำภายใน 4 GB และยังมีคุณสมบัติกันน้ำได้ในระดับมาตรฐาน IP55 สนนราคา 199.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6,700 บาท
2.LG G Watch R
สิ่งที่อาจจะได้เห็นอีกอย่างเป็นนาฬิกาอัจฉริยะตัวที่สองของค่าย LG และเป็นตัวแรกของค่ายที่ทำออกมาในลักษณะหน้าปัดทรงกลม ซึ่งมาพร้อมหน้าจอ P-OLED ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางยาว 1.3 นิ้ว พร้อมซีพียู Snapdragon 400 ความจุภายใน 4 กิกะไบต์(4 GB) สามารถกันน้ำและฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IP67 และยังมีเซ็นเซอร์ใช้วัดอัตราการเต้นของหัวใจ อุปกรณ์ชิ้นนี้มีสนนราคา 299.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 10,000 บาท
3.Sony SmartWatch 3
สำหรับ Sony SmartWatch 3 เป็นนาฬิกาอัจฉริยะอีกรุ่นของค่ายโซนี่ ซึ่งถือเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว แต่เป็นตัวแรกที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android wear มีหน้าจอขนาด 1.6 นิ้ว มาพร้อมหน่วยประมวลผลแบบควอดคอร์ความเร็ว 1.2GHz ความจุ 4 กิกะไบต์ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน bluetooth และ NFC และเซนเซอร์อีกหลายตัว มีราคาที่ 249.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 8,500 บาท
4.Withnings Activité Pop
นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นล่าสุดจากบริษัทผลิตอุปกรณ์เพื่อสุขภาพชื่อดัง อย่าง Withnings สัญชาติอังกฤษ ซึ่งเพึ่งจะเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะ Activité Pop ไปเมื่องาน CES 2015 ที่ผ่านมา และได้รับเสียงชื่นชมจากสื่อไอทีชั้นนำในต่างประเทศ มีดีไซน์เรียบหรูเหมือนนาฬิกาสวิส และเปลี่ยนมาใช้สายยางสีสันสดใส เจาะกลุ่มวัยรุ่นที่รักการออกกำลัง และยังแฝงไว้ด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ เพื่อสุขภาพ ราคา 150 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 4,900 บาท
5.Meizu Inwatch Pi
นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นแรกของค่าย Meizu จากจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดังทีเดียว โดย Meizu Inwatch Pi นี้ เป็นนาฬิกาทรงหน้าปัดกลมออกแบบได้สวยงาม พร้อมสายหนังดูหูหรา ตัวนาฬิกานั้นยังรองรับฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ รวมถึงการแจ้งเตือน,ติดตามการเคลื่อนไหวขณะเล่นกีฬา และติดตามการนอนหลับของเราได้ ราคา 399 หยวน หรือราว 2,100 บาท
6.Fitbit Surge
นาฬิกาอัจฉริยะตัวแรกของค่าย Fitbit ในสหรัฐ ที่สร้างสรรค์อุปกรณ์เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและสุขภาพ ซึ่งเพิ่งนำมาเปิดตัวที่งาน CES 2015 โดย Fitbit เรียกนาฬิการุ่นนี้ว่า “superwatch” เหมาะสำหรับนักวิ่งหรือสิงห์นักปั่น ที่ต้องคอยตรวจสอบระยะทางของตนเองตลอดเวลา และที่สำคัญยังวัดอัตราการเต้นของหัวใจไปได้ตลอดด้วย
ทั้งนี้ Fitbit Surge มาพร้อมกับหน้าจอทัชสกรีน (monochrome LCD) ที่ประหยัดพลังงาน,ใช้คุมเครื่องเล่นเพลงได้บนหน้าจอของ Fitbit Surge, มีระบบแจ้งเตือนสายโทรเข้า และระบบแจ้งเตือนข้อความ และมีเซนเซอร์มากถึง 8 ตัว ที่สำคัญยังยังมีแบตเตอรีที่อึดทนนานชาร์จเต็มแล้วสามารถสวมใส่ได้นานถึง 7 วัน ราคา 249 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 8,200 บาท
7.Fitbit Charge HR
นอกจากนี้ Fitbit ยังมีสายรัดข้อมือรุ่นใหม่ที่นำมาเปิดตัวพร้อม Fitbit Surge ในงาน CES 2015 ด้วย โดยสายรัดข้อมือเป็นการอัพเกรดจากรุ่นก่อน คือ Fitbit Force และ Fitbit Charge มีการติดตั้งเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้รู้สถานะของหัวใจตัวเองขณะออกกำลังกาย และยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานถึง 5 วัน ราคา 149 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 4,900 บาท
8.Microsoft Band
สายรัดข้อมือที่เป็นอุปกรณ์สวมใส่ได้ตัวแรกจากค่ายไอทียักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟต์ ซึ่งสามารถรองรับได้ทั้งระบบ Android, iOS และ Windows Phone สายรัดข้อมือรุ่นนี้มีเซ็นเซอร์หลายตัว สามารถแสดงผลการแจ้งเตือนต่างๆ ผ่านทางหน้าจอได้ และยังใช้งานได้ยาวนาน 48 ชั่วโมงต่อการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้ง ราคา 199 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 6,500 บาท
9. iFit Active
สำหรับสายรัดข้อมือรุ่น iFit Active จากบริษัทน้องใหม่ iFit พัฒนาต่อยอดมาจากรุ่น iFit Act โดยมีการเพิ่มหน้าจอสำหรับแจ้งเตือนการทำงานต่างๆ สามารถติดตามกิจกรรมประจำวัน เช่น การออกกำลังกาย, อ่านข้อความหรือส่งข้อความให้เพื่อน, ดูข้อมูลการเผาผลาญแคลอรี่ขณะกำลังออกกำลังกาย, ติดตามการนอนหลับ รวมถึงสามารถซิงก์ค่าการออกกำลังกายต่างๆ ไปยังบัญชีของ iFit ได้อัตโนมัติด้วย ราคา 79 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2,600 บาท
10.Ricoh Theta M15
กล้องรุ่นใหม่ในประเภทกล้องถ่ายภาพแบบ 360 องศาในคลิกเดียว ซึ่งเพิ่งนำไปโชว์ที่งาน CES 2015 สามารถส่งภาพถ่าย 360 องศา เข้าสู่สมาร์ทโฟนได้โดยตรงผ่านทางแอพลิเคชั่นพิเศษ นอกจากนี้ ยังสามารถบันทึกวีดีโอได้ความละเอียดสูงสุด Full HD (1080p) ถ่ายภาพได้สูงสุด 4,800 ภาพ (ติดตั้งเมมโมรี่ภายในมาที่ 4 กิกะไบต์) ราคา 299.95 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 9,500 บาท
11.Instacube
อุปกรณ์ชิ้นนี้อาจมาแปลกกว่าใครเพื่อน ตรงที่เป็น “กรอบรูปดิจิตอล” ที่เอาใจคนชื่นชอบ Instagram โดยเฉพาะ เป็นโปรเจ็คที่ระดมทุนจนสำเร็จจากเว็บไซต์ Kickstarter ซึ่ง Instacube ต้องการตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ที่ชอบแชร์ภาพถ่ายลงบนแอพพลิเคชั่นอินสตาแกรมเป็นประจำ เพียงแต่ปรับเปลี่ยนให้เป็นกรอบรูป สำหรับเอาไว้ตั้งโชว์ได้ทุกที่และโปรแกรมในเครื่องจะค่อย ๆ เปลี่ยนรูปไปเรื่อย ๆ ตามที่เราตั้งค่าไว้ ราคา 149 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 4,900 บาท
12.Luxi
เป็นอุปกรณ์ที่ได้มาจากการระดมทุนจาก Kickstarter อีกเช่นกัน โดย Luxi เป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็น “เครื่องวัดแสง” (light meter) ซึ่งทำให้ช่างภาพที่ถ่ายภาพจากกล้อง DSLR สามารถใช้สมาร์ทโฟนมาเป็นมิเตอร์วัดแสง ช่วยในการตั้งค่าการถ่ายภาพในสภาพแสงที่แตกต่างกันได้ ราคา 29.95 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 999 บาท
13.Polaroid Socialmatic
เป็นกล้องโพลารอยด์ล้ำสมัยที่สามารถพิมพ์ภาพออกมาให้ชมได้ทันใจ อีกทั้งยังสามารถแชร์ไปยังโซเชียล เน็ตเวิร์คได้อย่างฉับไวด้วย กล้องรุ่นนี้ถูกออกแบบให้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนไอคอนของแอพ Instagram ตัวกล้องมี Wi-Fi และ 3G พร้อมพื้นที่เก็บข้อมูล ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ความละเอียด 14 ล้านพิกเซล พร้อมฟิลเตอร์ตกแต่งรูปภายในเครื่อง ราคา 388 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 13,000 บาท
14. 3Doodler
เครื่องพิมพ์ภาพ 3 มิติ ที่มาในรูปแบบของปากกา เป็นผลงานสร้างสรรค์ด้วยทุนรอนจาก Kickstarter อีกเช่นเคย โดยปากกา 3Doodler นี้ สามารถวาดภาพได้ด้วยหมึกที่เป็นพลาสติก สามารถนำมาประกอบกันได้เหมือนกับพิมพ์ภาพออกมาจากเครื่องพิมพ์แบบ 3 มิติได้ด้วย ราคา 149 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 4,900 บาท
15.Netatmo June
อุปกรณ์สวมใส่ wearable device ที่ออกแบบมาเพื่อคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ เพราะ Netatmo June นี้ สามารถบอกดัชนีของแสง UV ให้ผู้สวมใส่รับรู้ได้ เพื่อให้เตรียมรับมือกับแสงแดดของแต่ละวัน เพื่อจะได้เตรียมครีมกันแดด ร่มหรือหมวกให้พร้อม นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามการออกกำลังกาย และเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนได้ด้วย
16.Micro Drone 2.0
เป็นยานบินอัจฉริยะ หรือ Drone รุ่นใหม่ ที่ออกแบบให้มี 4 ใบพัด สามารถถ่ายวีดีโอและสตรีมมิ่งมายังสมาร์ทโฟนได้ทันที สามารถบินตีลังกา พลิกกลับด้าน 360 องศาได้ และสามารถนำไปแปะติดกับผนังกระจกและบินในแนวตะแคงได้อีกด้วย ราคา 69.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2,500 บาท
อุปกรณ์ Gadget ทั้งหมดนี้ อาจจะได้เห็นกันที่งานที่ Gadget Zone ณ งาน Thailand Mobile Expo 2015 ครั้งที่ 20 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 12-15 กุมภาพันธ์ นี้ ควบคู่กันกับสมาร์ทโฟน รวมไปจนถึงอุปกรณ์เพื่อสุขภาพไฮเทคอีกหลากหลายรูปแบบ
จากการคาดการณ์ว่า ในปี 2558 นี้ จะได้เห็นแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจากปี 2557 โดยจะมีการเติบโตประมาณ 4 % นั้น เป็นไปได้ว่า งาน "Thailand Mobile Expo 2015" อาจจะได้เห็นจำนวนผู้เข้าชมงานเพิ่มขึ้นกว่างานส่งท้ายปี “Thailand Mobile Expo 2014 Showcase” เมื่อวันที่ 2 – 5 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา ที่มียอดผู้เข้าชมงานมากกว่า 6 แสนคน และมียอดเงินสะพัดมากกว่า 1,300 ล้านบาท
ข่าวเด่น