แม้ว่าจะยังไม่ถึงเข้าถึงฤดูร้อน แต่ผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้าก็เตรียมเปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาด เพื่อชิงยอดขายในช่วงหน้าร้อนแล้ว แถมออกมาคาดการณ์อีกว่าปีนี้สภาพอากาศร้อนน่าจะเป็นใจช่วยกระตุ้นยอดขายเครื่องปรับอากาศให้เติบโตกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ การเมือง และกำลังซื้อ เริ่มเป็นใจสำหรับการทำตลาดเครื่องปรับอากาศ
นอกจากนี้ การที่ครัวเรือนของไทยมีอัตราการครอบครองหรือใช้เครื่องปรับอากาศที่มีค่าเฉลี่ยเพียง 30% ของครัวเรือนทั้งประเทศ และกรุงเทพฯยังคงรักษาสัดส่วนใช้เครื่องปรับอากาศมากที่สุดประมาณ 50% ขณะที่ตลาดต่างจังหวัดมีอัตราส่วนการใช้เครื่องปรับอากาศเพียง 20% จึงทำให้ยังมีช่องว่างอีกมากให้เข้าไปขยายตลาด
ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้เริ่มมีผู้ประกอบการออกมาเปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาด เพื่อชิงยอดขายในช่วงหน้าร้อนนี้ ซึ่งถือเป็นช่วงหน้าของของกลุ่มสินค้าเครื่องปรับอากาศ และหนึ่งในนั้นก็คือ บริษัท พานาโซนิค เอ.พี.เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เนื่องจากตลอดปี 2557 ที่ผ่านมา มีหลายปัจจัยลบเกิดขึ้นหลายด้าน จึงทำให้ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมายเท่าไหร่นัก แต่เนื่องจากรอบบัญชีทางการเงินของประเทศญี่ปุ่นจะเริ่มจากเดือน เม.ย.-มี.ค. ของทุกปี จึงยังเหลือเวลาอีก 3 เดือนที่จะกู้ยอดขายให้กลับคืนมา
กลยุทธ์ที่พานาโซนิคเลือกนำมาใช้เพื่อกู้ยอดขายในครั้งนี้ คือ การเปิดตัวสินค้าเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยี iAUTO-X ระบบการทำความเย็นอันทรงพลังด้วยเทคโนโลยี P-TECh ช่วยให้คอมเพรสเซอร์มีความเร็วรอบสูงสุดในระยะเวลาอันสั้นที่สุด ทำให้ได้ความเย็นทันใจ ซึ่งครั้งนี้ พานาโซนิค ลุยเปิดตัวสินค้าใหม่รวดเดียว 27 รุ่น
นายโทชิฮิโร มาจิมะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พานาโซนิค เอ.พี.เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัวเครื่องปรับอากาศพานาโซนิค iAUTO-X เข้าทำตลาดในปีนี้ บริษัทยังคงเน้นการสร้างสรรค์และพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์หรือความต้องการของผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน พานาโซนิคเป็นแบรนด์ชั้นนำที่ผู้บริโภคมั่นใจได้ในด้านคุณภาพมาตรฐานญี่ปุ่น หรือ Japan Quality
ด้วยมาตรฐาน Japan Quality ที่เน้นในเรื่องของความน่าเชื่อถือและความคงทนของสินค้า ซึ่งพานาโซนิคให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกแรกในการผลิตสินค้าทุกรุ่น จึงทำให้พานาโซนิคมั่นใจว่าสินค้าใหม่ที่เปิดตัวเข้ามาทำตลาดจะได้ผลการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และทำให้พานาโซนิคไม่กลัวคู่แข่งจากประเทศเกาหลีและจีนเข้ามาขยายธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้ามากขึ้น แม้ว่าสินค้าบางรายการจะมีราคาสูงกว่าสินค้าทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเมดอินเจแปนที่มีราคาขายสูงกว่าสินค้าปกติประมาณ 6-7 เท่า เพราะหลังจากวางสินค้าดังกล่าวเข้าทำตลาดพบว่ายังไม่ได้ผลการตอบรับเป็นที่น่าพอใจ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสินค้าเมดอินเจแปนจะได้ผลการตอบรับเป็นที่น่าพอใจ แต่เนื่องจากมีราคาสูงกว่ากลุ่มสินค้าปกติค่อนข้างมาก พานาโซนิคจึงเน้นทำตลาดแบบค่อยเป็นค่อยไป และจากมาตรฐานคุณภาพสินค้าที่ได้รับ เชื่อว่าลูกค้าจะให้ความสนใจแบรนด์สินค้าของพานาโซนิคมากขึ้น เพราะสินค้าทุกตัวที่ผลิตออกมาทำตลาด บริษัทเน้นไปที่มาตรฐานคุณภาพ Japan Quality
นายฮิโรยูกิ คิทาโนะ ผู้อำนวยการส่วนการตลาดและส่วนการขาย บริษัท พานาโซนิค เอ.พี.เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่เข้าทำตลาดในครั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลให้อัตราการเติบโตของเครื่องใช้ฟ้าภายในบ้านของบริษัทในปีนี้ มีอัตราการเติบโตมากขึ้นกว่าปี 2557 ที่ประมาณ 10% ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากปีนี้บริษัทจะให้ความสำคัญกับการทำตลาดเครื่องปรับอากาศในการเป็นหัวหอกหลักสำหรับการแข่งขันในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า
ขณะเดียวกันพานาโซนิคก็วางเป้าหมายไว้ว่า ในปีนี้จะต้องสร้างส่วนแบ่งทางการตลาดของกลุ่มเครื่องปรับอากาศให้เพิ่มมากขึ้น เพราะเล็งเห็นถึงการเติบโตของเซกเมนต์ดังกล่าว อีกทั้งสภาพอากาศในประเทศไทยที่มีแนวโน้มจะร้อนยาวนานมากขึ้น จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดรับความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก
สำหรับสินค้าใหม่ที่เปิดตัวเข้ามาทำตลาดในปีนี้มีทั้งหมด 27 รุ่น แบ่งเป็นกลุ่ม B2C 16 รุ่น และกลุ่ม B2B 11 รุ่น ขณะเดียวกันก็ยังเพิ่มไลน์อัพสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มอื่นๆ เพื่อรองรับผู้บริโภคในกลุ่มไฮเอนท์ที่ต้องการผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณภาพมาตรฐานเดียวกับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น โดยเตรียมจัดสรรงบการตลาดและการประชาสัมพันธ์ไว้อย่างเต็มที่ผ่านช่องทางการสื่อสารทุกรูปแบบ
พร้อมกันนี้ พานาโซนิคยังมีแผนที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น จากปัจจุบันมีช่องทางจำหน่ายอยู่ด้วยกัน 4 ช่องทาง ประกอบด้วย ร้านขายเครื่องปรับอากาศ ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า และการจำหน่ายให้กับโครงการต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีดีลเลอร์ที่จำหน่ายสินค้าให้ทั่วประเทศอยู่ที่ประมาณ 110 ราย และจากแนวโน้มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มการขยายตัวที่ดีขึ้น พานาโซนิคมั่นใจว่ายอดขายที่จำหน่ายผ่านโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ น่าจะปรับตัวดีขึ้น เช่นเดียวกับการจำหน่ายให้กับผู้บริโภคทั่วไป
ด้าน นายฉัตรชัย เตชะพานิช ผู้จัดการแผนกการตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ บริษัท พานาโซนิค เอ.พี.เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เครื่องปรับอากาศ iAUTO-X ที่เปิดตัวเข้ามาทำตลาดในครั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถกระตุ้นยอดขายในรอบบัญชีปี 2557 ซึ่งจะเปิดในเดือน มี.ค.นี้ ให้มีรายได้รวมเป็นไปตามเป้าหมายได้อย่างแน่นอน เนื่องจากสินค้าดังกล่าวมาพร้อมระบบการทำความเย็นอันทรงพลังด้วยเทคโนโลยี P-TECh ช่วยให้คอมเพรสเซอร์มีความเร็วรอบสูงสุดในระยะเวลาอันสั้น และให้ความเย็นทันใจทันทีที่เปิดเครื่อง
นอกจากนี้ ยังมีระบบชาวเวอร์ คูลลิ่ง (Shower Cooling) มีบานสวิงแบบแอโรวิงส์ (Aerowings) ปรับทิศทางกระแสลมที่ถูกปล่อยออกมาให้ขึ้นด้านบนและกระจายความเย็นไปยังพื้นที่กว้างทั่วห้อง จึงทำให้รู้สึกเย็นสบายโดยไม่โดนลมเย็นเป่าถูกตัวโดยตรงตลอดเวลา อีกทั้งยังผสานเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน Econavi และ Inverter เข้าด้วยกัน ทำให้สามารถประหยัดพลังงานได้ถึง 65%
หลังจาก พานาโซนิค เปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาด มั่นใจว่าจะสามารถช่วยกระตุ้นให้ภาพรวมผลประกอบการของรอบบัญชีปี 2557 มีรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 19,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 1-2% เมื่อเทียบกับรอบบัญชีปี 2556 ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเชื่อว่าจะเป็นรายได้ที่มาจากกลุ่มสินค้าเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ที่เปิดตัวเข้ามาทำตลาดประมาณ 14% และจากแนวโน้มที่ดีดังกล่าว ทำให้พานาโซนิคคาดว่าสิ้นปีรอบบัญชีปี 2558 ภาพรวมรายได้จะอยู่ที่ 20,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน
ส่วนภาพรวมยอดขายเครื่องปรับอากาศในรอบบัญชีปี 2557 นี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท เติบโตจากรอบบัญชีปี 2556 ที่ผ่านมา 30% และมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 15% ซึ่งหลังจากบริษัทออกมาเปิดตัวเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะส่งผลให้รอบบัญชีปี 2558 มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น17% และเพิ่มเป็น 20% ในรอบบัญชีปี 2559 ขึ้นเป็นอันดับ 2 จากตลาดรวมเครื่องปรับอากาศในประเทศไทย จากปัจจุบันเป็นอันดับ 3 รองจากแบรนด์ซัมซุงที่เป็นอันดับ 2 และแบรนด์มิตซูบิอันดับ 1
ปัจจุบันตลาดรวมเครื่องปรับอากาศในประเทศไทย ในด้านของจำนวนยูนิต มียอดขายอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านเครื่อง มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 1-2% เมื่อเทียบกับปี 2556 ขณะที่ยอดขายในด้านของมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 10,400 ล้านบาท ซึ่งจากแนวโน้มของสภาพอากาศในประเทศไทยที่คาดว่าจะร้อนจัดในปีนี้ ประกอบกับผู้ประกอบการออกมาเปิดตัวสินค้าเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาทำตลาด เชื่อว่าจะกระตุ้นให้ตลาดรวมเครื่องปรับอากาศเติบโตไม่ต่ำกว่า 5%
การออกมาปลุกตลาดเครื่องปรับอากาศก่อนเพื่อนของพานาโซนิคในครั้งนี้ จะสามารถผลักดันยอดขายให้รอบบัญชีปี 2557 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ คงต้องรอดูที่สภาพอากาศและกำลังซื้อของผู้บริโภคว่าจะฟื้น และอากาศร้อนจะเป็นใจให้พานาโซนิคยิ้มออกตอนปิดรอบบัญชีสิ้นเดือน มี.ค.นี้ได้รู้กัน
ข่าวเด่น