การตลาด
สกู๊ป : ปลุกโมเดล "ราชประสงค์ บางกอก ดาวน์ดาวน์"


หลังจากผู้ประกอบการแต่ละย่านสำคัญของกรุงเทพมหานครต่างพากันออกมาปรับปรุงขยายธุรกิจ เพื่อสร้างให้ย่านธุรกิจของตัวเองที่ดำเนินการอยู่เป็นเขตเศรษฐกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นย่านเพลินจิต  ย่านสยาม  ย่านพร้อมพงษ์ หรือย่านบางนา ส่งผลให้ผู้ประกอบการในย่านราชประสงค์ต้องออกมาผนึกกำลังร่วมกัน เพื่อปลุกย่านราชประสงค์ให้กลับมาคึกคักและเป็นที่จับตามอง

 
ล่าสุด สมาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ ได้ออกมาร่วมตัวกันผ่าน 5 พันธมิตรหลัก ร่วมกันใช้งบลงทุนกว่า 60,000 ล้านบาท ปรับปรุงและก่อสร้างโครงการต่างๆ เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าปลีก อาคารสำนักงาน หรือโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว 
 

 
 
นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ หรือ RSTA กล่าวว่า มากกว่าทศวรรษที่สมาคมฯ และสมาชิกได้ร่วมมือกันพัฒนาย่านราชประสงค์ให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและไลฟ์สไตล์สำคัญของกรุงเทพมหานคร ในการต้อนรับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่เดินทางเข้ามาใช้บริการมากถึงวันละ 400,000 คนต่อวัน หรือมากกว่าปีละ 146 ล้านคน และเนื่องจากย่านราชประสงค์เป็นศูนย์กลางกรุงเทพฯ ที่สำคัญ ทำให้กลุ่มธุรกิจหลักได้พร้อมใจกันร่วมพัฒนาโครงการ เพื่อชักชวนนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในย่านสำคัญแห่งนี้

สำหรับพันธมิตร 5  รายที่จับมือร่วมพัฒนาย่านราชประสงค์ครั้งนี้ ประกอบด้วย เซ็นทรัล กรุ๊ป ,ไมเนอร์ กรุ๊ป , ดิ เอราวัณ กรุ๊ป  ,เกษร พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป และเดอะ แพลทินัม กรุ๊ป  ซึ่งวัตถุประสงค์ของการจับมือร่วมกันในครั้งนี้ คือ การเปิดตัวโมเดลธุรกิจภายใต้ชื่อ "ราชประสงค์  บางกอก ดาวน์ทาวน์"  (Ratchaprasong Bangkok Downtown) ซึ่งจะเป็นโครงการสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาย่านราชประสงค์ให้เป็นเมืองแห่งอนาคตของกรุงเทพมหานครในอีก 3 ข้างหน้า และวางเป้าหมายในการเป็น 1 ใน 3 ย่านที่สมบูรณ์แบบที่สุดของเอเชีย

รูปแบบและโครงสร้างที่จะดำเนินการพัฒนาร่วมกันในครั้งนี้ จะแบ่งออกเป็น 4 ทิศ คือ ทิศตะวันตก จะร่วมเติมเต็มโดย “เซ็นทรัล กรุ๊ป” ด้วยการปรับปรุงศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ที่นับว่าเป็น "Thailand's Largest Lifestyle Shopping Complex" ของประเทศไทยให้มีความครบวงจรสวยงามและมีความทันสมัยมากขึ้น 

นอกจากจะปรับปรุงตัวของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเริ่มในปี 2559 แล้ว ในส่วนของพันธมิตรที่อยู่ภายในพื้นที่ก็จะดำเนินการปรับปรุงอาคารร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ห้างสรรพสินค้าเซน ห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ที่จะนำเสนอความหลากหลายของร้านค้าแบรนด์ต่างๆ เพื่อสร้างสีสันใหม่ๆ ที่แตกต่างให้กับวงการรีเทล พร้อมทั้งดึง Retail Anchor ระดับเวิลด์คลาสอีกสองรายมาร่วมเปิดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์แห่งนี้ หลังจากก่อนหน้านี้ได้เปิดให้บริการ Lifestyle Dining โดยโปรเจ็ค กรู๊ฟ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ และเปิด “เมืองไทย จีเอ็มเอ็ม ไลฟ์เฮาส์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์” คอนเสิร์ตฮอลล์ขนาดใหญ่ ได้มาตรฐานระดับโลก ความจุสูงสูด 3,000 คน ไปเรียบร้อยแล้ว

ในส่วนของทิศใต้ จะเป็นพื้นที่ของฮอสพิทอลลิตี้และลักซ์ชัวรี่ เรสซิเดนส์ ที่ร่วมเติมเต็มโดย “ไมเนอร์ กรุ๊ป” และ “ดิ เอราวัณ กรุ๊ป” โดยเริ่มจาก “ไมเนอร์ กรุ๊ป” ที่มีความชำนาญดำเนินธุรกิจด้านฮอสพิทอลลิตี้ และลักซ์ชัวรี่ เรสซิเดนส์ ที่ร่วมดำเนินงานร่วมกับโรงแรมระดับโลกมากกว่า 2 ทศวรรษผ่าน 4 โครงการหลัก ได้แก่ กลุ่มฮอสพิทอลลิตี้ คือ โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ หรือโรงแรมโฟร์ ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ เดิม, โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ และดำเนินการและบริหารให้กับ อนันตรา บ้านราชประสงค์ กรุงเทพฯ รวมทั้งกลุ่มเรสซิเดนส์ คือ เซนต์ รีจิส เรสซิเดนส์

ทั้งนี้ จากแนวทางธุรกิจที่จะนำแบรนด์ “อนันตรา” ที่โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ Culture Creation ทำให้ได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ไมเนอร์ กรุ๊ป มีแผนที่จะรีแบรนด์โรงแรมโฟร์ ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ เป็น “โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ” .ในวันที่  1 มี.ค.นี้ พร้อมปรับปรุงโรงแรมให้มีความทันสมัยมากขึ้นภายใต้งบ 600 ล้านบาท

ส่วน “ดิ เอราวัณ กรุ๊ป” ตลอดระยะเวลากว่า 23 ปีที่ผ่านมา ได้พัฒนาการบริการโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ มาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้งบลงทุนรวมกว่า 4,000 ล้านบาท เพื่อเป็น ICON ของย่านราชประสงค์ ขณะที่กลุ่มแมกโนเลียฯ ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ตลาดลักซ์ชัวรี่ก็เข้ามาร่วมพัฒนาพื้นที่ผ่านโครงการ “แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด” พร้อมร่วมมือกับกลุ่มโรงแรมและรีสอร์ทในเครือฮิลตันเวิลด์ไวด์ นำแบรนด์โรงแรมระดับไฮเอนด์ของเครือฮิลตัน โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท “วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย" ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 6,000 ล้านบาท
 

 
 
 
สำหรับทิศตะวันออก จะมีกลุ่มเกษร พร็อพเพอร์ตี้ มาร่วมเติมเต็มในส่วนของลักซ์ชัวรี่ ไลฟ์สไตล์ หลังจากปีที่ผ่านมาได้รีโนเวทสถาปัตยกรรมภายใน และภายนอกของศูนย์การค้าเกษร 1 เสร็จสิ้น ภายใต้งบ 400 ล้านบาท  ล่าสุดได้เตรียมงบอีก 5,800 ล้านบาท เตรียมดำเนินการก่อสร้างโครงการาเกษร 2 บนพื้นที่กว่า 63,000 ตารางเมตร

ปิดท้ายที่ทิศเหนือ พัฒนาโดยเดอะ แพลทินัม กรุ๊ป ซึ่งล่าสุดมีแผนที่จะใช้งบ  7,500  ล้านบาท พัฒนาโครงการ เดอะ มาร์เก็ต บาย แพลทินัม  บนพื้นที่ 226,500  ตร.ม. จำนวน 13 ชั้น หลังจากก่อนหน้านี้ได้พัฒนาและให้บริการ เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์  ศูนย์การค้าขายส่งสินค้าแฟชั่น และโรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ ไปแล้ว 

นอกจากจะจับมือร่วมกันพัฒนาโครงการใหม่ๆ รวมไปถึงปรับปรุงโครงการเก่าแล้ว พันธมิตรทั้ง 5 รายยังมีแผนที่จะร่วมกันพันฒนาโครงการทางเชื่อมบางกอก สกายไลน์ ความยาวทั้งสิ้น 500 เมตร ที่เชื่อมต่อจาก เดอะ แพลทินัม แฟชั่นมอลล์ ประตูน้ำ สู่อาคาร เดอะ มาร์เก็ตบาย แพลทินัม และเข้าสู่ศูนย์การค้าเกษร และเชื่อมไปยังเส้นทาง สกายวอล์ก และ บีทีเอส งบลงทุน 400 ล้านบาท จะเปิดใช้งานในไตรมาส 1 ปี 2559

หลังจากพันธมิตรแต่ละรายออกมาร่วมกันปรับปรุงพัฒนาโครงการภายในย่านราชประสงค์ มีการคาดการณ์ว่าจะทำให้มีนักท่องเที่ยวและผู้เข้ามาใช้บริการภายในย่านเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 50-100% หรือมีลูกค้าเข้ามาในย่าน 600,000 – 800,000 คนต่อวัน จากปัจจุบัน 400,000 คนต่อวัน และในอีก 3 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในย่านไม่ต่ำกว่า 260 ล้านคนต่อปี จากปัจจุบัน 146 ล้านคนต่อปี

 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 02 ก.พ. 2558 เวลา : 12:06:48
25-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2024, 9:01 am