นายธัชพล บูรพรัตน์ ที่ปรึกษาฝ่ายการตลาด บริษัท อูรัล มอเตอร์ไซเคิลส์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง อูรัล จากประเทศรัสเซีย แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยถึงการบุกเบิกทำตลาดรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง อูรัล ว่า เป็นเซกเมนต์ใหม่ในตลาดกลุ่มรถบิ๊กไบค์เมืองไทยที่ยังไม่มีใครทำตลาดมาก่อน และเห็นโอกาสการเติบโตทางยอดขายในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้รักการท่องเที่ยวผจญภัย ด้วยการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม-ทัวร์ท่องเที่ยว และคนเมืองที่มีรสนิยมขับขี่รถมอเตอร์ไซค์สไตล์คลาสสิค เพื่อทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว หรือตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ตนเอง
“ทั้งนี้ ได้นำเข้า 2 แบบ คือรุ่น Ranger เป็นรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง และยังขับเคลื่อนล้อหลังล้อเดียวได้ เพียงโยกคันควบคุมระบบขับเคลื่อน โดยล้อรถตัวพ่วงข้างจะถูกติดตั้งเพลาขับที่เชื่อมกับล้อหลักของรถมอเตอร์ไซค์ ส่วนตัวรถพ่วงข้าง หรือ Sidecar จะอยู่ด้านขวาของคนขับ ซึ่งเป็นสเปกที่มาจากโรงงาน โดยไม่สามารถย้าย Sidecar มาอยู่ด้านซ้ายได้ เนื่องจากต้องปรับแก้ไขระบบเพลาขับ ขณะที่รุ่น Retro อุปกรณ์มาตรฐานจะใกล้เคียงกับรุ่น Ranger แต่ขับเคลื่อนล้อเดียวเหมือนรถมอเตอร์ไซค์ทั่วๆ ไป ตัว Sidecar เราขอให้โรงงานผลิตย้ายมาติดตั้งด้านซ้าย เพื่อให้เหมาะกับวัฒนธรรมการขับขี่ในเมืองไทย และสามารถถอด Sidecar ออกได้ หากต้องการใช้งานเหมือนรถมอเตอร์ไซค์สองล้อปกติ”นายธัชพลกล่าว
จุดเด่นและคุณสมบัติพิเศษของรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง อูรัล ถูกพิสูจน์สมรรถนะมาอย่างเข้มข้นและยาวนาน ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และกลายเป็นตำนานเล่าขานสะท้อนความภาคภูมิใจของคนรัสเซีย ที่มีบทบาทช่วยให้มีชัยชนะจากการรุกรานของกองทัพนาซี-เยอรมนี
ในประเทศไทยชื่อเสียงและการเป็นที่รู้จักของ อูรัล จะคุ้นเคยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีอายุกว่า 40-50 ปีขึ้นไป และชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์โบราณ ส่วนการแพร่หลายในภูมิภาคอินโดจีนนั้น เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1950-1970 ถูกนำเข้ามาใช้แพร่หลายในกลุ่มประเทศสังคมนิยม ทั้งจีน เวียดนาม ลาว และกัมพูชา ก่อนจะมีผู้นิยมชาวไทยซื้อเข้ามาใช้งาน ปัจจุบันพบเห็นในเมืองไทยได้น้อยมากประมาณ 10 คัน และถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มรถคลาสสิคคาร์
อูรัล ในปัจจุบัน ถูกพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและสมรรถนะขึ้นใหม่ทั้งหมด แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ความคลาสสิค สไตล์รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างรัสเซียไว้เช่นเดิม เครื่องยนต์ถูกพัฒนาจากขนาด 650 ซีซี มาเป็น 750 ซีซี ระบบเครื่องยนต์คาบูเรเตอร์ก็เปลี่ยนมาเป็นระบบหัวฉีด ระบายความร้อนด้วยอากาศ รองรับน้ำมันเบนซิน 95 และ อี10 ระบบเบรกจากดรัมเบรกเปลี่ยนมาใช้ดิกส์เบรก Brembo ที่ค่ายผู้ผลิตรถบิ๊กไบค์แบรนด์ดังๆ ของโลกมักเลือกใช้เบรกยี่ห้อนี้ อีกทั้งผ่านการตรวจสอบการนำเข้า และจดทะเบียนได้ถูกต้องตามกฎหมาย
ข่าวเด่น