"พลัส พร็อพเพอร์ตี้" สรุปภาพรวมตลาดคอนโดฯ ในกรุงเทพฯ พบครึ่งปีหลังมียอดขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 71% ด้านราคาขายเฉลี่ยปรับขึ้น 3% มาอยู่ที่ 97,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนตลาดรีเซลของบริษัทฯ เติบโต 88% จากปีก่อน ทิศทางโดดเด่นเหตุคอนโดฯ โครงการใหม่ย่านธุรกิจใจกลางเมืองเริ่มมีจำกัด และราคาแพง พร้อมเดินหน้าจัดงานใหญ่ “NEXT STATION YOUR CONDO - สถานีคนรักชีวิตเมือง” คัดโครงการคุณภาพพร้อมอยู่กว่า 100 โครงการ พร้อมข้อเสนอพิเศษ วันที่ 13-15 กุมภาพันธ์นี้ ที่สยามพารากอน ลาน Fashion Hall ชั้น 1
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ตลาดคอนโดมีเนียมในกรุงเทพฯ ครึ่งปีหลังของปี 2557 มีอุปทานเสนอขายทั้งหมด 94,712 ยูนิต จากจำนวนโครงการที่เปิดขาย 276 โครงการ (สัดส่วนห้องชุดสร้างเสร็จพร้อมอยู่ในปี 2558 รวมกับห้องชุดที่สร้างเสร็จแล้วเทียบกับโครงการที่จะสร้างแล้วเสร็จหลังปี 2558 เป็นจำนวน 49:51) หากพิจารณาทางด้านอุปสงค์พบว่ามีจำนวนถึง 67,519 ยูนิต คิดเป็นอัตราการดูดซับที่ 71% ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 97,000 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้น 3% จากครึ่งปีแรก (โครงการที่ขายดีจะอยู่ในบริเวณศูนย์กลางธุรกิจหรือซีบีดี ซึ่งอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว อุปทานในโซนนี้มีทั้งหมด 18,026 ยูนิต และมีอุปสงค์ที่ 13,882 ยูนิต หรือคิดเป็นอัตราการดูดซับที่ 77% โดย พื้นที่สยาม-ราชเทวี-พญาไท เป็นโซนที่ขายดีที่สุดด้วยอัตราการดูดซับสูงถึง 94%
สำหรับโซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือซึ่งเป็นโซนที่มีอุปทานมากที่สุดคือ 36,343 ยูนิต และมีอุปสงค์ที่ 24,693 ยูนิต หรือคิดเป็นอัตราการดูดซับเฉลี่ยที่ 68% โดยพื้นที่พหลโยธิน-รัชโยธิน-เกษตร มีอัตราการดูดซับที่ดีที่สุดคือ 76% อุปทานส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่แนวรถไฟฟ้าสีม่วงคือวงศ์สว่าง อุปทานที่มีมากรองลงมาอยู่ในพื้นที่รัชดาภิเษก-ลาดพร้าว ซึ่ง 2 บริเวณนี้มีอัตราการดูดซับที่ 66% และ 70% ตามลำดับ ส่วนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกซึ่งครอบคลุมพื้นที่ ตั้งแต่รามอินทราลงมาถึงบางนา มีอุปทาน 18,664 ยูนิต และมีอุปสงค์ 12,528 ยูนิต คิดเป็นอัตราการดูดซับเฉลี่ยที่ 67% บริเวณที่มีการตอบรับดีที่สุดคือ เกษตรนวมินทร์-รามอินทรา มีอัตราการดูดซับที่ 89% โซนสุดท้ายคือ กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก มีอุปทานทั้งสิ้น 21,679 ยูนิต และมีอุปสงค์ 16,416 ยูนิต คิดเป็นอัตราการดูดซับเฉลี่ยที่ 76% ซึ่งอุปทานส่วนใหญ่จะอยู่ในบริเวณ รัชาดาภิเษก-ท่าพระ ซึ่งมีอุปทานเกือบ 8,000 ยูนิต และมีอุปสงค์กว่า 6,000 ยูนิต หรือคิดเป็นอัตราการดูดซับที่ 77%
“อย่างไรก็ตามหากพิจารณาเฉพาะครึ่งปีหลังแล้ว มีโครงการที่เปิดตัวขายใหม่ในกรุงเทพฯ จำนวนทั้งสิน 56 โครงการ มีอุปทานใหม่จำนวน 22,491 ยูนิต และอุปสงค์ใหม่ที่ 13,592 ยูนิต คิดเป็นอัตราการดูดซับที่ 60% โดยโซนที่มีการเปิดตัวมากที่สุดคือ โซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือ มีโครงการเปิดขายใหม่ทั้งสิ้น 21 โครงการ หรือกว่า 10,000 ยูนิต ส่วนย่านศูนย์กลางธุรกิจยังคงครองแชมป์ ได้รับการตอบรับดีที่สุดมียอดการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งหมด 13 โครงการ หรือ 3,609 ยูนิต ซึ่งสามารถขายไปได้ถึง 2,692 ยูนิต หรือ 75% ถือว่าเป็นการตอบรับที่ดีมาก
ขณะเดียวกันตลาดคอนโดรีเซลของบริษัทฯ มีอัตราเติบโตขึ้นทุกปี ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตที่รับฝากขายประมาณ 9,000 ยูนิต ในจำนวนนี้ 5,600 ยูนิต อยู่ในทำเลแนวรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด เฉพาะปี 2557 ปิดการขายห้องชุดรีเซลได้ประมาณ 560 ยูนิต มูลค่ากว่า 4,700 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2556 ถึง 88% หรือมีมูลค่าการขายเพิ่มขึ้นถึง 2,200 บาท ส่วนปี 2558 นี้ประมาณการยอดขายไว้ที่ราว 5,000 ล้านบาท โดยโครงการรีเซลส่วนใหญ่ที่ปิดการขายได้จะอยู่ในพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจและเกาะแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว นับว่าเป็นการสะท้อนดีมานด์ในโซนนี้ได้เป็นอย่างดี
ปัจจัยที่ทำให้คอนโดรีเซลได้รับความนิยม เนื่องมาจากคอนโดมิเนียมในย่านซีบีดีมีราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนราคาคอนโดรีเซลเองต่ำกว่าโครงการเปิดใหม่ราว 15% โดยคอนโดรีเซลที่มีอายุประมาณ 1-2 ปีจะได้รับความนิยมสูงและขายได้ดีที่สุด ส่วนทำเลที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ พร้อมพงษ์-ทองหล่อ สำหรับขนาดห้องชุดที่ขายได้ไม่เปลี่ยนแปลงคือ 1 ห้องนอน อยู่ที่ 70% และอีก 30% คือขนาด 2 ห้องนอนหรือใหญ่กว่า ซึ่งแปรผันตามจำนวนห้องชุดคงค้างที่มีอยู่ในตลาด แต่เป็นที่น่าสนใจคือระยะหลังลูกค้าหันมาซื้อคอนโดขนาด 2 ห้องนอนมากขึ้น
สำหรับแนวโน้มการเติบโตในปี 2558 ของตลาดคอนโดฯ ยังอยู่ในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วงเนื่องจากกำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัวมาตั้งแต่ครึ่งหลังปี 2557 และอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำแต่คงต้องจับตามองในบางพื้นที่และบาง Segment ที่ได้รับผลกระทบเรื่องหนี้ครัวเรือน อย่างไรก็ตามความต้องการอันดับหนึ่งยังคงอยู่ในย่านซีบีดี แต่จากข้อจำกัดด้านพื้นที่ทำให้โครงการใหม่มีน้อยลง จึงมองว่าตลาดรีเซลยังเป็นที่น่าจับตา เพราะสามารถตอบโจทย์แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคในย่านซีบีดีได้
ทั้งนี้ คาดว่าตลาดคอนโดรีเซลที่น่าสนใจ ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ตามแนวรถไฟฟ้า ซึ่งพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ได้เตรียมจัดงาน “NEXT STATION YOUR CONDO - สถานีคนรักชีวิตเมือง” อีกครั้ง หลังจากปีก่อนประสบความสำเร็จเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 450 ล้านบาท ซึ่งครั้งนี้จะรวบรวมโครงการคุณภาพพร้อมอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทกว่า 100 โครงการ ในทำเลศักยภาพใจกลางเมืองใกล้ระบบขนส่งมวลชน (BTS, MRT) โดยจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 13-15 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ลาน Fashion Hall สยามพารากอน ชั้น 1 สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร 0-2688-7555 หรือ www.plus.co.th
ข่าวเด่น