แบงก์-นอนแบงก์
ไทยพาณิชย์ -สจล.จับมือเร่งหาตัวผู้กระทำผิดทุจริตบัญชีเงินฝาก สจล.


ตามที่ปรากฏเป็นข่าวต่อเนื่องกรณีการทุจริตบัญชีเงินฝากของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ในการนี้สถาบันหลักที่เกี่ยวข้อง อันได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง และ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องที่เกิดขึ้น จึงได้มีการหารือร่วมกันและจัดแถลงข่าวในวันนี้ เพื่อแสดงจุดยืนของแต่ละสถาบัน ตลอดจนประกาศให้ทราบถึงความร่วมมือระหว่างสองสถาบันในการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเร่งหาตัวผู้กระทำความผิดกรณีทุจริตบัญชี      เงินฝาก สจล.


ศาสตราจารย์ ดร.โมไนย ไกรฤกษ์ รักษาการแทนอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า       เจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า “จากการที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้ร้องขอข้อมูล เอกสาร หลักฐาน ในการดำเนินธุรกรรมทางการเงินจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) อันจะเป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดที่ได้ลักทรัพย์ของ สจล. ไป เป็นจำนวนเงินราว 1.5 พันล้านบาท ซึ่งสร้างความเสียหายทางด้านการเงินต่อ สจล. อย่างมาก ที่ผ่านมายังคงมีความล่าช้าในการจัดส่งเอกสารตามที่ สจล. ร้องขอ ในครั้งนี้ทางธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้ตกลงจะนำส่งเอกสารต่างๆ เพิ่มเติมให้แก่ทาง สจล. ให้ครบถ้วน”

รองศาสตราจารย์ ดร.จำรูญ เล้าสินวัฒนา รักษาการแทนรองอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยี          พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า “ทางธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ตกลงที่จะส่งเอกสารเพิ่มเติมให้แก่ทาง สจล. มีรายละเอียดดังนี้

1. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จะนำส่งเอกสาร หลักฐาน จำนวน 8 รายการ ใน 3 บัญชีหลักของสาขาบิ๊กซี สุวินทวงศ์ โดยให้ทยอยนำส่งให้ครบทุกรายการ ภายในวันพุธที่ 18 กุมภาพันธ์ 2558

2. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จะนำส่งเอกสาร หลักฐาน ในส่วนที่ยังขาดอีก 31 รายการ         ในอีก 5 บัญชี โดยให้ทยอยนำส่งให้ครบทุกรายการ ภายในวันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558

 3. เอกสารที่ สจล. ร้องขอจำนวนรวม 68 รายการ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จะส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวให้ สจล. และจัดส่งเอกสารต้นฉบับให้พนักงานสอบสวน กองปราบปราม

สจล. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ด้วยดี เพื่อให้พนักงานสอบสวน กองปราบปราม สามารถดำเนินการสืบสวน สอบสวนตามขั้นตอน เพื่อหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป และนำเงินกลับคืนสู่ สจล. โดยเร็ว”

ดร. วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในนามของธนาคารผมขอยืนยันว่า ตลอดมาธนาคารยึดมั่นในการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และไม่ประนีประนอมกับเรื่องทุจริต สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นธนาคารมิได้นิ่งนอนใจ ได้จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยได้แต่งตั้ง นางวัลลยา แก้วรุ่งเรือง รองผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานกฎหมาย เป็นหัวหน้าคณะทำงานและเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการสื่อสารตลอดจนเป็นผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ คณะทำงานชุดนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการตรวจสอบ ซึ่งธนาคารเชื่อว่าจะได้ข้อสรุปในไม่ช้า และเมื่อประกอบกับผลการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากได้ข้อสรุปว่าพนักงานของธนาคารมีส่วนร่วมในการทำทุจริตหรือบกพร่องจนก่อให้เกิดความเสียหาย ธนาคารพร้อมที่จะรับผิดชอบตามกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม

นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ออกมาตรการเพิ่มเติมในระบบการปฏิบัติงานให้รัดกุมมากขึ้น เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า ตามที่ได้ประกาศไปแล้ว ได้แก่ การลดอำนาจอนุมัติของสาขาในรายการเงินสดและเงินโอนมาไว้ที่ส่วนกลาง และจะได้มีการออกมาตรการเพิ่มเติมเกี่ยวกับการควบคุมการปฏิบัติงานสาขาและระบบงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ในลำดับต่อไป”

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ขอยืนยันในการให้ความร่วมมือกันในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีทุจริตที่เกิดขึ้น
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 ก.พ. 2558 เวลา : 12:09:51
29-12-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ December 29, 2024, 3:21 am