บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ จัดงาน “CPF CEO Awards 2014” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 โดยมี นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลแก่เหล่านวัตกรซีพีเอฟที่มีผลงานโดดเด่นเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงาน แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ อันถือเป็นค่านิยมหลักขององค์กรแบบซีพีเอฟเวย์ในปีนี้ มีบุคลากรให้ความสนใจส่งผลงานเข้าประกวดมากกว่า 3,000 ผลงาน จาก 18 สายธุรกิจ สำหรับผลงานที่ได้รับรางวัล CPF CEO Awards 2014 มีทั้งสิ้น 28 รางวัล
นายวิโรจน์ คัมภีระ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ซีพีเอฟ หัวเรือใหญ่ของการจัดงานเปิดเผยว่า เวที CPF CEO Awards เปรียบเสมือนเวทีแจ้งเกิด “นวัตกร” ในแต่ละปีจะมีบุคลากรให้ความสนใจ ระดมความคิดสร้างสรรค์ส่งผลงานนวัตกรรมที่หลากหลายเข้าร่วมประกวด แม้ครั้งนี้จะจัดขึ้นเป็นปีที่ 6 แล้ว แต่ต้องบอกว่าผลงานที่ส่งประกวดนั้น เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีผลงานส่งเข้าประกวดสูงถึง 3,323 ผลงาน จาก 18 สายธุรกิจ ครอบคลุมตลอดทั้งซัพพลายเชน ตั้งแต่กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์ (Feed), ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ (Farm), อาหาร(Food) และ ค้าปลีก(Retail) ผลงานที่ได้รับคัดเลือกจะถูกนำมาจัดแสดงภายในงานรวม 180 ผลงาน สร้างบรรยากาศแห่งความคิดสร้างสรรค์สำหรับบุคลากรในทุกระดับ เกิดการแบ่งปันไปสู่ความเชี่ยวชาญที่เสริมประโยชน์ซึ่งกันและกัน และเป็นการเชิดชูเกียรติแก่บุคลากรและนวัตกร ที่มีการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กร
“ซีพีเอฟ เปิดโอกาสให้บุคลากรจากทุกหน่วยงานเกือบ 100,000 คน ได้ระดมความคิดในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ด้วยเล็งว่านวัตกรรมเป็นสิ่งสำคัญขององค์กรและเป็นหนึ่งในค่านิยมซีพีเอฟเวย์ ผมมองเห็นว่าการที่องค์กรจะพัฒนาสู่ระดับสากลนั้น เราจะต้องพัฒนาที่บุคลากรก่อน การจัดประกวดนวัตกรรมครั้งนี้ เราได้อาจารย์ที่ปรึกษาเข้ามาช่วยให้แนวทางและพัฒนานวัตกรของเราให้มีศักยภาพในการพัฒนาผลงานให้มีความเป็นสากลมากขึ้น เป็นที่น่ายินดีที่พนักงานตื่นตัวและให้ความสนใจส่งผลงานเข้าร่วมโครงการมากขึ้น ผลิตผลงานที่ดีขึ้นเรื่อยๆนำไปสู่องค์กรแห่งนวัตกรรมอย่างแท้จริง” วิโรจน์ กล่าว
รางวัล CPF CEO Awards 2014 จัดขึ้นภายใต้เแนวคิด “หนึ่งความคิดสร้างสรรค์ สามารถสร้างคุณค่าได้อย่างหลากหลาย (One created idea makes many values)” เพราะแนวความคิดใดความคิดหนึ่งนั้น สามารถนำไปประยุกต์ใช้หรือต่อยอดทำให้เกิดคุณค่าได้หลากหลายธุรกิจ มีผลงานได้รับรางวัลทั้งสิ้น ทั้งสิ้น 28 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลระดับ i1 การรักษาสภาพ จำนวน 5 รางวัล, รางวัลระดับ i2 การปรับปรุงงาน จำนวน 10 รางวัล, รางวัลระดับ i3 นวัตกรรม จำนวน 5 รางวัล และ รางวัลอนุสิทธิบัตร จำนวน 8 รางวัล
หนึ่งในผลงานนวัตกรรมดีเด่นในปีนี้คือ “Healthy Meaty Chick” โดย นางสาวดรุณี วุ่นคง จากหน่วยงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ สายธุรกิจอาหารแปรรูปครบวงจร ที่ได้รับรางวัล ระดับ i3 ประเภท นวัตกรรม เกิดจากแนวคิดในการพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น โดยศึกษาถึงโอกาสและตลาด หลังจากสำรวจความต้องการของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นที่ชอบบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพโปรตีนสูง และชอบรับประทานไก่ในส่วนเนื้อน่องที่มีเนื้อชุ่มฉ่ำต่างจากผู้บริโภคกลุ่มยุโรปที่นิยมรับประทานเนื้ออก ทางทีมงานจึงเกิดไอเดียในการพัฒนาสินค้ากลุ่มหน้าอก ทำอย่างไรให้เนื้ออกมีเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำเหมือนเนื้อสะโพก โดยเลื้อกใช้วัตถุดิบอย่างเกลือและแป้งที่เหมาะสมมาวางโปรแกรมสูตรการผลิตจนได้เนื้อที่นุ่ม จากนั้นก็ออกแบบบรรจุภัณฑ์และการขึ้นรูปด้วยฟิล์ม เพื่อโชว์ผลิตภัณฑ์ให้มีความโดดเด่น โดยปัจจุบันได้นำไปวางจำหน่ายในร้าน 7-eleven ประเทศญี่ปุ่นได้รับการตอบรับอย่างดีนอกจากนี้ยังใช้หลักวิทยาศาสตร์อาหารเพื่อถนอมอายุสินค้าให้ขยายจาก 12 วัน เป็น 45 วัน โดยวางแผนจะขยายตลาดไปยังสิงคโปร์และฮ่องกงเร็วๆนี้ สอดรับกับวิสัยทัศน์ “ครัวของโลก”
“ON THE GO HIGH PROTEIN SNACKS” เป็นโครงการที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของทีมงานด้านวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ สายธุรกิจอาหารแปรรูปครบวงจร ที่ได้รับรางวัล ระดับ i2 ประเภท การปรับปรุงงาน โดยมีแนวคิดที่ว่าอาหารว่างในปัจจุบันส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีประโยชน์ สารอาหารจะประกอบไปด้วยแป้งในปริมาณสูง โปรตีนต่ำ จึงคิดค้น “ชิคฟิงเกอร์” เพื่อเป็นอาหารว่างที่อุดมไปด้วยโปรตีนจากเนื้อไก่ในปริมาณสูง สามารถนำไปทานได้ทุกที่ทุกเวลา ขนาดชิ้นพอดีคำ มี 3 รสชาติให้เลือก ได้แก่ รสคลาสสิก, รสฮอตแอนด์สไปซี่ และรสสวีทคอร์น นับเป็นอาหารว่างที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
อีกหนึ่งผลงานที่น่าสนใจ คือ “เต้าหู้ผักซูเปอร์ฮีโร่” ที่ได้รับรางวัล ระดับ i2 ประเภท การปรับปรุงงาน คิดค้นโดยทีมงานด้านวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ สายธุรกิจอาหารแปรรูปครบวงจร มีแนวคิดมาจากทำอย่างไรให้เด็กรับประทานผัก ซึ่งจากผลการสำรวจพบว่าเด็กส่วนใหญ่ทานเต้าหู้ไข่เป็นประจำ แต่ไม่ชอบรับประทานผัก จึงคิดค้นพัฒนาเต้าหู้ไข่ไก่ ผสมผัก ที่ไม่มีวัตถุกันเสีย ไม่มีสี และไม่มีผงชูรส ถึง 3 รสชาติ ได้แก่ เต้าหู้ไข่ไก่ ผสมบร็อคโคลี่ ช่วยเสริมสร้างแคลเซียม, เต้าหู้ไข่ไก่ ผสม แครอท ให้เบต้าแคโรทีนสูง และเต้าหู้ไข่ไก่ ผสมฟักทอง ให้วิตามิน A ช่วยบำรุงสายตา โดยสามารถอยู่ได้ 30 วัน ในอุณหภูมิแช่เย็นปกติ
นอกจากนี้ ซีพีเอฟยังได้วางระบบบริหารจัดการนวัตกรรม ตามแนวทางของ BS7000 โดยมีการพัฒนานวัตกรอย่างต่อเนื่องตามแนวทางของ TRIZ และพัฒนาตัวแทนสิทธิบัตรภายในองค์กร โดยร่วมมือกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ทำให้องค์กรสามารถพัฒนาการบริหารจัดการนวัตกรรมอย่างเป็นระบบ โดยตั้งเป้าว่าอีก 3ปีข้างหน้า จะสามารถสร้างนวัตกรได้มากกว่า 1,000 คน พร้อมวางงบด้านการวิจัยและพัฒนาไว้ประมาณ 2% เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ครัวโลกแห่งนวัตกรรม
ข่าวเด่น