หุ้นทอง
ทิสโก้เชียร์ "หุ้นจีน-ญี่ปุ่น" ต่อเนื่อง ชี้ Outperform สุด ปรับอัพไซด์เพิ่ม


ทิสโก้เดินหน้าเชียร์ “หุ้นจีน-ญี่ปุ่น” ต่อเนื่อง ชี้เงินยังท่วมโลก สภาพคล่องล้น หนุนหุ้นจีนและหุ้นญี่ปุ่นสดใส ล่าสุดปรับคาดการณ์อัพไซด์เพิ่ม เป้าหมาย 3 เดือน ดัชนีหุ้นจีน HSCEI (H-Share) อยู่ที่ 6.5% และดัชนีหุ้นญี่ปุ่น (Nikkei 225) อยู่ที่ 3% พร้อมแนะหุ้นรายตัว CSPC Pharmaceutical Group และ Toshiba Corporation


           
 
 
TISCO Global Trade (ทิสโก้ โกลบอล เทรด) บริการซื้อขายหลักทรัพย์และ ETF ต่างประเทศ โดย นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บล.ทิสโก้ (Viwat Techapoonpol, Deputy Managing Director and Head of Technical Analysis, TISCO Securities) เปิดเผยว่า จากสภาพคล่องโลกที่ล้นโลกในปัจจุบัน โดยหนุนดัชนี S&P500 ของสหรัฐฯ และดัชนี DAX ของเยอรมันให้ปรับเพิ่มทำสถิติสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ (All Time High) ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจากเม็ดเงินจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่อัดฉีดเข้ามาอีก 2 ปี ปีละมากกว่า 1.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ (มาจาก BOJ 6.7 และ ECB 5 แสนล้านเหรียญ) รวมถึงแนวโน้มนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางจีน สวิตเซอร์แลนด์ แคนาดา เดนมาร์ก ตุรกี และออสเตรเลีย อีกทั้งคาดว่า Fed จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไปจากช่วงกลางปี 58 (มิ.ย.) เป็นปลายปี 58 (ก.ย.) เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมาย

โดย TISCO Global Trade มองว่า จากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นส่งให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งตลาดหุ้นจีนและญี่ปุ่นจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูง เนื่องจากตลาดหุ้นจีนยังมีราคาถูก เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น (PER 8 เท่า) นอกจากนี้ทางการจีนประกาศลด RRR ลง 50 bps สู่ระดับ 19.50% อีกทั้งคาดว่า จีนจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 2 ครั้ง ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่น มีการย่อตัวของดัชนี Nikkei 225 หลังจากทำ New High ในรอบ 7 ปี เป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน เนื่องจากมีปัจจัยบวก ได้แก่ การสานต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอาเบะโนมิกส์ ซึ่งรวมถึงการวางแผนปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลลงมาอยู่ต่ำกว่า 30%, การเลื่อนแผนปรับขึ้นภาษีบริโภคจาก 8% เป็น 10% ไปกลางปี 2559 และการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นของกองทุนบำเหน็จบำนาญญี่ปุ่น (GPIF) ซึ่งเข้าซื้อหุ้นญี่ปุ่นและเอเชียอีก US$ 1.3 แสนล้าน

โดยตั้งแต่ต้นปี ดัชนี Hang Seng (HSI) ของจีนให้ผลตอบแทน 5.1% YTD และ ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่น ให้ผลตอบแทน 5.6% YTD โดยคาดว่าตลาดหุ้นทั้ง 2 จะยังคง Outperform อย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ โดยดัชนีหุ้นจีน HSCEI (H-Share) เป้าหมาย 3 เดือน อยู่ที่ 12,800 จุด หรืออัพไซด์ 6.5% และดัชนีหุ้นญี่ปุ่น (Nikkei 225) เป้าหมาย 3 เดือนอยู่ที่ 19,000 จุด หรืออัพไซด์ 3% จากปัจจุบัน

ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ TISCO Global Equity Strategy เดือนมีนาคม แนะนำหุ้นเด่นรายตัวที่ติดอันดับหุ้น Top 10 ของหุ้นโลกที่น่าลงทุน ได้แก่ “CSPC Pharmaceutical Group” บริษัทผลิตและจัดจำหน่ายยาที่มีรายได้หลักมาจากยาสำเร็จรูป โดยผลิตภัณฑ์ยาหลักมียอดขายเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการขออนุญาตขายยาตัวใหม่อีก 4 ชนิดในปีนี้ คาดเป้ากำไรสุทธิโต 30% ในปี 2558 ราคาหุ้นในปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำที่ 6.17 HKD โดยตลาดให้ราคาเป้าหมาย 1 ปีที่ 8.19 HKD หรือมีอัพไซด์ประมาณ 33%

ส่วนหุ้นญี่ปุ่นยังคงแนะนำคือ “Toshiba Corporation” ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและพลังงานทั่วโลก โดยบริษัทดำเนินธุรกิจหลัก 5 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน, สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับอาคาร, อุปกรณ์การแพทย์และการบริการด้านสุขภาพ, เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ และผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวัน โดยมีแนวโน้มการเติบโตจาก 1. การปรับโครงสร้างธุรกิจคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล เพื่อเพิ่มสัดส่วนจากธุรกิจ B2B จาก 30% ใน FY3Q เป็นมากกว่า 50% 2. แนวโน้มการเติบโตของยอดขาย NAND Flash Memory 35% YoY ในปีนี้ และ 3. การยกเลิกธุรกิจ LCD-TV นอกญี่ปุ่นที่มีปัญหาการขาดทุน โดยการยกเลิกธุรกิจดังกล่าวจะทำให้มีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 39% ในปีนี้ โดยราคาปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำ ตลาดให้ราคาเป้าหมาย 1 ปีที่ 592.28 JPY เมื่อเทียบกับราคาปัจจุบันแล้วยังเหลืออัพไซด์อีกราว 21%

สำหรับนักลงทุนที่สนใจขยายการลงทุนไปยังตลาดหุ้นจีน ญี่ปุ่นรวมถึงตลาดหุ้นทั่วโลกสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับบทวิเคราะห์ฉบับเต็มได้ที่ TISCO Global Trade บริการซื้อขายหุ้นและอีทีเอฟต่างประเทศโทร.02-633-6655 อีเมล์ GlobalTrade@tisco.co.th เว็บไซต์ www.tisco.co.th

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 23 ก.พ. 2558 เวลา : 20:16:05
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 8:47 am