นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือนม.ค.58 อยู่ที่ 91.1 ลดลงจากระดับ 92.7 ในเดือนธ.ค.57 โดยค่าดัชนีที่ลดลงเกิดจากองค์ประกอบ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ
ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในเดือนม.ค.ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรก หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดไตรมาส 4 ของปี 2557 โดยมีปัจจัยลบจากความกังวลต่อการชะลอตัวลงของกำลังซื้อภายในประเทศ โดยเฉพาะกำลังซื้อภาคเกษตร รวมทั้งความผันผวนของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญ แนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกัน ซึ่งกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย อีกทั้งภาครัฐยังไม่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจน
อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการเห็นว่าการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการใช้จ่ายของภาครัฐจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม ประกอบกับในปี 58 จะเริ่มเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ดังนั้นการส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านจะเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนภาคการส่งออกไทย ขณะเดียวกันผู้ประกอบการให้ความสำคัญต่อการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต การลดต้นทุน และการบริหารความเสี่ยง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของกิจการ
ส่วนความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 100.4 ลดลงจาก 101.7 ในเดือนธ.ค.57 โดยค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ที่ลดลงเกิดจากองค์ประกอบ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการได้มีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ โดยอยากให้ภาครัฐเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายในประเทศ รักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทให้อยู่ในทิศทางเดียวกับภูมิภาค เร่งแก้ไขปัญหาและอุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษี(NTBs) รวมถึงเร่งส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการ SMEs ในการใช้นวัตกรรม เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและสร้างมูลค่าสินค้าด้วย
ข่าวเด่น