"สิงห์เอสเตท" เดินหน้าบุกตลาดอสังหาริมทรัพย์เต็มสูบ ทุ่ม 20,000 ล้านบาท ลงทุนโครงการเพื่อขาย/ให้เช่า ทั้งที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน โรงแรม ศูนย์การค้า
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมงบลงทุนไว้ 20,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนพัฒนาโครงการต่าง ๆ ทั้งที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน โรงแรม และศูนย์การค้า รวมถึงร่วมทุนในกิจการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ให้องค์กรมีความยืดหยุ่น มีธุรกิจที่หลากหลายขึ้น และกระจายความเสี่ยง
พร้อมกันนี้ ยังได้ตั้งเป้าที่จะเข้าซื้อกิจการและพัฒนาโครงการเองด้วย เพื่อผลักดันให้บริษัทเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายว่าปี 2562 จะมีรายได้ 20,000 ล้านบาท และมีงบซื้อที่ดินทั้งหมด 10,000 ล้านบาท หรือปีละ 2,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการโรงแรมในประเทศมูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท ในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว คาดว่าจะสรุปได้อย่างน้อย 1 แห่งภายในไตรมาส 2 ขณะเดียวกัน และในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ หรือ ในปี 2558-2562 ได้วางแผนซื้อกิจการในแต่ละปี จะมีธุรกิจโรงแรม 3 แห่ง อาคารสำนักงาน 2 แห่ง และ ศูนย์การค้า 2 แห่ง ซึ่งช่วงแรกๆ อาจเข้าไปร่วมทุน ซึ่งการซื้อกิจการนั้น จะเน้นในประเทศมากกว่า 80% ส่วน 20% จะเข้าไปลงทุนในประเทศแถบอาเซียน ขณะนี้กำลังเจรจาซื้อกิจการโรงแรม 4 ดาวอีก 1 แห่ง คาดว่าจะสรุปได้ภายในปีนี้
ขณะเดียวกัน ปีนี้บริษัทจะพัฒนาโครงการเอง 2 แห่ง คือ คอนโดมิเนียมบนถนนอโศก มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดขายไตรมาส 2 ปีนี้ และโครงการแนวราบ บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม มูลค่า 4,000 ล้านบาท จากนั้นในปีหน้า จะพัฒนาโครงการเองต่อเนื่อง ที่จะกระจายไปพัฒนาโครงการศูนย์การค้าอาคารสำนักงานบนถนนอโศก-เพชรบุรี โครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม
ล่าสุด สิงห์ได้เข้าร่วมกิจการกับบริษัทเนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด โดยสิงห์จะเพิ่มทุน 2,630 ล้านบาท ใช้แลกหุ้นเนอวานาสัดส่วน 51% และหลังจากนี้เนอวานาฯ จะเพิ่มทุนอีก 700 ล้านบาท โดยสิงห์จะลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น ดังนั้น เนอวานาฯ จะเลื่อนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยออกไป เพราะบริษัทเข้ามาสนับสนุนด้าเงินทุนแทนแล้ว และคาดว่าปีนี้เนอวานาฯ จะมีรายได้ 4,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 250 ล้านบาท จากการเปิดโครงการใหม่ 5 โครงการ รวมมูลค่า 11,000 ล้านบาท เป็นแนวราบ 2 โครงการ และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ซึ่งขณะนี้มีที่ดินรองรับแล้ว
“การร่วมทุนครั้งนี้ จะมีผลทำให้ปีนี้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะมี 2,000 ล้านบาท เป็นมากกว่า 4,000 ล้านบาท และพลิกจากที่ขาดทุน 106.8 ล้านบาทในปีก่อนมาเป็นกำไร 202.8 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้การเข้าร่วมทุนครั้งนี้ ตามสัดส่วนถือหุ้น 51% โดยสิงห์จะเริ่มบันทึกรายได้และกำไรเต็มไตรมาสในไตรมาส 3 ที่จะถึงนี้ รวมทั้งจะรับรู้รายได้จากโครงการอโศกพลาซ่า และโรงแรมพีพีวิลเลจ ที่เพิ่งซื้อกิจการมาเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยมีอัตราการเข้าพักสูงถึง 97%”
ด้าน นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า การเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสิงห์ เอสเตท มาจากปรัชญาทางธุรกิจที่คล้ายคลึงกัน คือร่วมสร้างสรรสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า เนอวานาฯเป็น Boutique Brand ที่มองกลุ่มลูกค้าในตลาดที่แตกต่างกัน และเมื่อร่วมมือกับสิงห์จะทำให้ทั้ง 2 บริษัทมีศักยภาพสูงขึ้นและมีอำนาจต่อรองมากขึ้น แล้วยังสามารถสร้างมิติใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งหลังจากการแลกหุ้นเนอวานาฯจะทำให้การเพิ่มทุนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจได้เร็วยิ่งขึ้น
.jpg)
.jpg)
ข่าวเด่น