เพซ ดีเวลลอปเมนท์ฯ “PACE” กางแผนธุรกิจปี 58 รุกอสังหาฯ ควบคู่ธุรกิจไลฟ์สไตล์และธุรกิจงานบริการ เผยความคืบหน้าสองโครงการระดับแลนด์มาร์ค “มหานคร” เตรียมฉลองสู่จุดสูงสุด 314 เมตรกลางปี คาดเปิดโอนเฟสแรก "เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก" ได้ไตรมาสสี่ ขณะ“มหาสมุทร” ก่อสร้างวิลล่า และ คริสตัล ลากูน สำเร็จกว่า 90% ลุยก่อสร้างวิลล่าต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าขายสมาชิกคันทรี่ คลับ ด้านโครงการใหม่ “นิมิต หลังสวน” เปิดจองเฟสแรกทะลุ 90%
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “PACE” เปิดเผยว่า ปี 2557 นับเป็นปีแห่งความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของเพซ จากการซื้อกิจการ ดีน แอนด์ เดลูก้า ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับไอคอนด้านอาหารและเครื่องดื่มกูร์เม่ต์ ที่นอกจากจะช่วยยกระดับเพซจากธุรกิจไทยสู่ระดับโลกแล้ว ยังเป็นการสานต่อวิสัยทัศน์ของเพซในการส่งมอบรูปแบบการใช้ชีวิตในเมืองที่ดี ที่มากกว่าแค่การพัฒนาที่อยู่อาศัย
นอกเหนือจากนั้น ในปี 2557 บริษัทฯ ได้ประสบความสำเร็จในการลงทุนในธุรกิจรีเทล คือ มหานคร คิวบ์ ซึ่งเปิดให้บริการในปลายปีที่ผ่านมา โดยมีร้านอาหารที่เปิดให้บริการ อาทิ ดีน แอนด์ เดลูก้า แฟล็กชิปสโตร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย รวมถึงร้านอาหารพรีเมียมชั้นนำ ได้แก่ โว้ก เลาจน์ และลัตเตอลิเย เดอ โจเอล โรบูชง มหาสมุทร คันทรี่ คลับ ในโครงการมหาสมุทร หัวหิน เป็นอีกหนึ่งธุรกิจการให้บริการของบริษัทฯ ซึ่งจะเป็นไพรเวท คันทรี่ คลับแห่งแรกของประเทศไทย กำลังจะเริ่มขายสมาชิกในไตรมาสสองของปี
ซึ่งจาก 2 ธุรกิจนี้จะช่วยให้เพซมีการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องระยะยาวตลอดปี และเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจหลักของเพซ คือ อสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ ที่จะสามารถรับรู้รายได้ต่อเมื่อโครงการมีการโอน
สำหรับธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเพซ นายสรพจน์กล่าวว่า ยังคงมีโครงการใหม่เปิดตัวอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เปิดตัวโครงการ “นิมิต หลังสวน” บนพื้นที่ฟรีโฮลด์ ทำเลที่ดีที่สุดใจกลางเมือง ใกล้สวนลุมพินี พร้อมเปิดรอบพรีเซลส์สำหรับลูกค้าเก่าและลูกค้าวีไอพี ด้วยราคาขายกว่า 300,000 บาท / ตร.ม. ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สามารถสร้างสถิติยอดจองพร้อมวางมัดจำกว่า 90% ของจำนวนห้องทั้งหมด
ด้านการก่อสร้างแลนด์มาร์คอย่างโครงการมหานคร อาคารมหานคร ทาวเวอร์ ก่อสร้างคืบหน้าถึงชั้นที่ 66 ในช่วงปลายปี 2557 และคาดว่าจะสามารถสร้างถึงจุดสูงสุด 314 เมตรที่ชั้น 77 ได้ในเดือนพฤษภาคม 2558 นี้ ซึ่งจะส่งผลให้มหานคร ทาวเวอร์ เป็นอาคารที่มีความสูงที่สุดในประเทศไทย ณ เวลานั้น ในขณะที่ยอดขายของเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก ในอาคารมหานคร ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดขายรวม 70% เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ การซื้อหุ้นโครงการมหานคร จากบริษัท อินดัสเทรียล บิลดิ้งส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (IBC) จำนวน 32% ทำให้เพซถือหุ้นในโครงการมหานครเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้บริษัทมีความคล่องตัวในการบริหารจัดการโครงการมหานครได้อย่างมีศักยภาพเต็มที่มากขึ้น
เช่นเดียวกับโครงการมหาสมุทรที่การก่อสร้างมีความคืบหน้าอย่างน่าพอใจ โดยการก่อสร้างมหาสมุทร คริสตัลลากูน คืบหน้าไปได้กว่า 90% และขณะนี้กำลังก่อสร้าง คันทรี่ คลับ ในเฟสแรก พร้อมกับการก่อสร้างวิลล่าตัวอย่าง 2 หลังแรก โดยจะสามารถเริ่มการขายสมาชิกคันทรี่ คลับ ได้ภายในไตรมาสสอง ของปี 2558 และบริษัทฯ จะเริ่มการขายวิลล่าได้ประมาณไตรมาสสี่ของปีนี้
โดยโครงการในปัจจุบันของเพซทั้งสามโครงการ ได้แก่ มหานคร มหาสมุทร และนิมิต หลังสวน จะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2558, 2559 และ 2560 ตามลำดับ
นายสรพจน์กล่าวเสริมว่า ปี 2558 เพซมั่นใจว่าธุรกิจจะเติบโตอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยบวกมาจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับที่ดินใจกลางเมืองมากยิ่งขึ้น ในขณะที่การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการลงทุนและจะทำให้อสังหาริมทรัพย์ไทยและธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์มีความต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจในเซ็กเมนต์ไฮเอนด์
“ด้วยมาตรฐานคุณภาพระดับโลก ทำให้เพซสามารถประสบความสำเร็จในเซ็กเมนท์ไฮเอนด์ของธุรกิจที่พักอาศัย การให้บริการ และธุรกิจไลฟ์สไตล์ อาหารและเครื่องดื่มกูร์เม่ต์ ทำให้มั่นใจได้ว่าเมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพซจะสามารถรองรับลูกค้าต่างชาติได้ทั้งในส่วนของที่พักอาศัยและธุรกิจไลฟ์สไตล์ โดยเพซจะมุ่งมั่นเดินหน้าเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายสรพจน์กล่าว
ข่าวเด่น