ในปัจจุบันแม้ว่ามีโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟนแบรนด์นอกครองตลาดอยู่ แต่ยังมีแบรนด์ที่เป็นของคนไทย ทั้งการเป็นผู้ผลิตและนำเข้ามาขายเป็นแบรนด์ของตัวเอง หรือที่เรียกว่า “เฮ้าส์แบรนด์” กลับได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ผลจากราคาที่ถูกกว่าและมีฟังก์ชั่นการใช้งานได้หลากหลายไม่แพ้กัน ในจำนวนนี้รวมถึงแบรนด์ “NEX” ของ บริษัท พี.ที.อี. อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและนำเข้ามือถือแบรนด์ “NEX” ที่ได้มาตรฐานสากล มีฐานการผลิตอยู่ที่จีน ซึ่งระเบิดศึกลุยส่งมือถือเข้าตลาดมาแล้วมากกว่า 10 รุ่น จับจังหวะย่างก้าวสู่ AEC ในปี 2558 ให้เป็นประโยชน์เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดเฮ้าส์แบรนด์ ล่าสุดเปิดสมาร์ทโฟนใหม่ราคาต่ำกว่า 3,000 บาท
ทั้งนี้ บริษัท พี.ที.อี. อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ก้าวเข้าสู่ตลาดเฮาส์แบรนด์ โดยนำมือถือแบรนด์ “NEX” จากจีนเข้ามาจำหน่ายในไทยตั้งแต่ปี 2549 ผ่านช่องทางศุลกากรอย่างถูกต้องและได้รับการรับรองเครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้นำเข้ามือถือมาแล้วหลายแบรนด์ รวมประสบการณ์ในวงการกว่า 20 ปี ทำให้มีความเชี่ยวชาญในทุกด้าน พร้อมตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ในปี 2558 นี้ได้เริ่มรุกตลาดสมาร์ทโฟนมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ซึ่งช่วยสร้างสีสันให้กับการแข่งขันตลาดมือถือในประเทศไม่น้อย โดยเฉพาะในช่วงที่ไทยกำลังเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) พอดี โดย พี.ที.อี.ฯ เปิดตัวมือถือรวดเดียว 8 รุ่นช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าผู้ใช้แรงงานทั้งในประเทศและแถบประเทศเพื่อนบ้าน เพราะรองรับภาษาอาเซียนได้ทั้ง ภาษาไทย, ลาว, กัมพูชา, พม่า, อินโดนีเซีย, บรูไน, มาลายู, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม นอกจากนี้ยังสามารถรองรับภาษาทวีปอื่นได้อีกกว่า 18 ภาษา
หลังจากนั้นเปิดตัวเพิ่มอีก 4 รุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ทีผ่่านมา และล่าสุดส่งอีก 2 รุ่นเข้าตลาดตามกันมา ซึ่งนอกจากมีความโดดเด่นเรื่องใช้งานได้มากถึง 18 ภาษาแล้ว ยังมาพร้อมกล้องฟรุ้งฟริ้งอีกต่างหาก ได้แก่ มือถือรุ่น “เน็กซ์ สตาร์ท 7 และ 8” (Nex Start 7,8) ในราคาเพียง 2,990 บาทเท่านั้น
นายฐาคณิษฐ์ พรทองประเสริฐ ประธานกรรมการ พี.ที.อี.ฯ เชื่อว่า ในปี 2558 นี้ NEX จะเข้ามาแบ่งสัดส่วนตลาดมือถือในไทยและประเทศเพื่อนบ้านได้ไม่ยากนัก โดยอาศัยความจุดเด่นด้านความคุ้มค่า ราคาไม่แพง ตอบโจทย์ทุกกฟังก์ชั่นการใช้งาน สามารถรองรับกลุ่มผู้ใช้งานได้หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งในปัจจุบัน NEX มีศูนย์จำหน่ายที่เป็นของตัวเองมากกว่า 14 สาขา และกำลังจะขยายให้ครบ 50 สาขา สำหรับตัวแทนจำหน่ายมี 30 สาขา และตั้งเป้าจะขยายให้ครบ 100 สาขา โดยในอนาคตอันใกล้คาดว่าจะผลักดัน NEX ให้เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ได้ภายใน 2 ปี
สำหรับ สเปคมือถือ 2 รุ่นใหม่ นับว่าแจ่มแจ๋วไม่แพ้สมาร์ทโฟนอินเตอร์เลยทีเดียว มีสเปคดังนี้ คือ
-Nex Start 7 และ 8 (Nex Start 7,8) โดดเด่นด้วยความบางพิเศษของตัวเครื่อง
- Nex Start 8 ระบบหน้าจอ QHD 540x960 แบบสัมผัสขนาด 5.5 นิ้ว แต่ Nex Start 7 ขนาด 5 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ IPS 854x480 ให้ความคมชัดและละเอียดสูง
-รองรับการใช้งานได้ทุกระบบ
-มีโปรแกรม “กล้องฟรุ้งฟริ้ง” ที่ให้คุณสมบัติยอดเยี่ยมในการถ่ายภาพ
-พร้อมด้วยเทคโนโลยี Smart wake สำหรับใช้ปลุกโทรศัพท์ด้วยใช้ปลายนิ้ว เพียงวาดเป็นตัวอักษรเพื่อสู่ฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ
-รองรับการใช้งานได้ถึง 18 ภาษา รวมถึงภาษา AEC เพื่อเจาะกลุ่มนักศึกษา บุคคลทั่วไป และผู้ใช้แรงงานอาเซียน
-ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 kitkat ความเร็ว Dual –Core 1.2 GHz , Ram 512 MB และ Rom 4 GB
-กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล
-รองรับระบบ 2G/3G
-รองรับการใช้งาน 2 ซิม
ใครสนใจสมาร์ทโฟนราคาสบายกระเป๋าไว้ใช้ ไปซื้อหากันได้ที่ศูนย์บริการเน็กซ์ทุกสาขา และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
ข่าวเด่น