หลังจากเข้าไปชิมลางเปิดห้างสรรพสินค้าโรบินส์ในประเทศเวียดนามจำนวน 2 สาขาที่เมืองฮานอย และโฮจิมินห์ ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ส่งผลให้บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) ออกมาประกาศแผนเดินหน้าขยายสาขาห้างสรรพสินค้าโรบินส์อย่างต่อเนื่องในปีนี้อย่างน้อย 1 สาขา
จากศักยภาพของประเทศเวียดนามที่มีจำนวนประชากรมากกว่าประเทศไทย และช่องว่างทางธุรกิจที่มีอยู่มาก ส่งผลให้บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน มองเห็นโอกาสดังกล่าว ด้วยการวางแผนอนาคตไว้อย่างคร่าวๆ จะต้องมีจำนวนสาขาห้างสรรพสินค้าโรบินส์มากกว่าห้างสรรพสินค้าโรบินสันในประเทศไทย
แนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้เริ่มเห็นแนวโน้มธุรกิจของบริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ในอนาคตว่ารายได้หลักจะต้องมาจากการขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างแน่นอน เพราะนอกจากประเทศเวียดนาม ซึ่งจะเป็นประเทศหลักในการขยายสาขาแล้ว ยังมีอีกหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่กำลังศึกษาเพื่อเข้าไปดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย หรืออินโดนีเซีย
นายอลัน จอร์จ ทอมสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดห้างสรรพสินค้าโรบินส์ เพิ่มอีก 1 สาขาเป็นอย่างต่ำในเมืองโฮจิมินห์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าในเร็วๆ นี้น่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องของพื้นที่และงบที่จะเข้าไปลงทุน
ปัจจัยที่ทำให้บริษัทเลือกที่จะลงทุนขยายธุรกิจในประเทศเวียดนามก่อนประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน เพราะเวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพ ซึ่งในอนาคตอาจมีจำนวนสาขามากกว่าในประเทศไทย เนื่องจากมีประชากรมากกว่า
สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจภายในประเทศปีนี้ บริษัทได้เตรียมงบลงทุน 3,300 ล้านบาท เพื่อรีโนเวทสาขาเก่าและขยายสาขาใหม่จำนวน 4 สาขา ซึ่งในจำนวนดังกล่าว 3 สาขา จะเป็นโมเดล Lifestyle Center และ 1 สาขา จะเป็นการเปิดร่วมกับศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ในส่วนของทำเลที่จะเข้าไปเปิดให้บริการห้างสรรพสินค้าโรบินสันนั้น จะเน้นไปที่จังหวัดที่มีการเชื่อมโยงการค้าชายแดน
ทั้งนี้ก็เพื่อรองรับกำลังซื้อที่จะเพิ่มขึ้นการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปลายปี 2558 นี้ ซึ่งโรบินสันมั่นใจการเติบโตของตลาด “ห้างสรรพสินค้า” ยังคงมีการขยายตัวมากขึ้นทุกปี จากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นสังคมคนเมืองมากขึ้น ความต้องการสินค้าที่มีแฟชั่นและตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ขยายเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นการเตรียมพร้อมในการรองรับการขยายตัวในพื้นที่เศรษฐกิจต่าง ๆ
สาขาใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือน พ.ค.นี้ ซึ่งถือเป็นสาขาแรกของปีนี้ คือ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ระยอง สาขานี้ใช้งบลงทุนไปประมาณ 503 ล้านบาท หลังจากนั้นประมาณไตรมาสที่ 3-4 โรบินสันจะทำการเปิดสาขาในรูปแบบ Lifestyle Center ที่โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ จ.บุรีรัมย์ ในเดือน ก.ค.นี้ ภายใต้งบลงทุน 780 ล้านบาท ถัดมา คือ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ ศรีสมาน จ.นนทบุรี คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในเดือน ต.ค. ภายใต้งบลงทุน 740 ล้านบาท สาขาสุดท้ายที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณเดือน พ.ย. คือ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ แม่สอด จ.ตาก ซึ่งใช้งบลงทุนไปประมาณ 584 ล้าน
ส่วนสาขาที่จะทำการรีโนเวทและรีโซนนิ่งใหม่ในปีนี้มีทั้งหมด 6 สาขา ประกอบด้วย สาขารังสิต สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ สาขาศรีราชา สาขาจังซีลอน สาขานครศรีธรรมราช และโมเดล ไลฟ์สไตล์เซ็นเตอร์ สาขาตรัง ซึ่งหลังจากปรับปรุงตัวอาคารให้มีความสวยงาม ก็จะทำการเพิ่มพื้นที่เพื่อนำร้านค้าและบริการใหม่ ๆ เข้ามาให้บริการเพิ่มเติม โดยในส่วนของร้านค้าใหม่ที่จะนำมาให้บริการนั้น จะเน้นเลือกร้านค้าที่มีความหลากหลาย และทันสมัยสามารถตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะนำนวัตกรรม ดิจิตอล โซลูชั่น เข้ามาใช้ เพื่อเจาะลึกและเข้าถึง อินไซด์ลูกค้า ยกระดับความสำเร็จ ด้วยการนำเสนอผ่านงานบริการต่างๆ เช่น อีเว้นท์ และ โปรโมชั่น ซึ่งในส่วนของนวัตกรรมดังกล่าว นอกจากเข้าถึงผู้บริโภคอย่างอินไซต์ ยังถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้าง Engagement กับลูกค้า และช่วยให้ค้นพบลูกค้าใหม่ ๆ อีกด้วย
พร้อมกันนี้ ยังจะมีการใช้กลยุทธ์ ‘Click and Collect’ เพื่อสร้างประสบการณ์จับจ่ายภายในร้านผ่านช่องทางสื่อดิจิตอล และเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า ซึ่งลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้า รวมถึงสินค้าที่ไม่มีจำหน่ายในสาขานั้นและสามารถไปรับสินค้าที่สาขาใกล้บ้าน รวมทั้งนำเสนอข้อมูล สินค้า คอลเลคชั่นใหม่ ๆ ณ จุด Kiosks ผ่านระบบออนไลน์ อีกทั้งเครื่องมือทางการตลาดนี้ จะช่วยสร้างความผูกพันและความเชื่อมโยงระหว่างเราและลูกค้าให้เหนียวแน่นและใกล้ชิดมากขึ้น คาดปลายปีนี้จะเริ่มใช้ระบบดังกล่าวได้
ขณะเดียวกันยังจะมีการติดตั้งระบบ People Counting อุปกรณ์ที่สามารถนับหรือตรวจวัดปริมาณจำนวนคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการบริหาร ไม่ว่าจะเป็น ทำให้ทราบได้ว่าลูกค้าเข้าร้านจริงๆ วันละกี่คน ในแต่ละ location ของสาขา ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดมาก
นายอลันกล่าวต่อว่า ในการทำการตลาด บริษัทก็จะไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์ความแปลกใหม่ สรรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้าและคู่ค้า โดยเตรียมงบจำนวน 390 ล้านบาท เพื่อใช้ทำกิจกรรมการตลาดตลอดทั้งปี ภายใต้แนวคิด การตลาดเชิงสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ (Initiative Marketing Campaigns ซึ่งหลังจากออกมาทำกิจกรรมการตลาด และขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง คาดสิ้นปีจะมีรายได้อยู่ที่ 28,000 ล้านบาท เติบโต 15% เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 23,896 ล้านบาท และหลังจากปี 2559 เป็นต้นไป บริษัทห้างสรรพสินค้าโรบินสันคาดว่าจะมีรายได้เติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 10%
จากเป้าหมายที่จะมีจำนวนสาขาในประเทศครบ 60 สาขาในปี 2563 และมีจำนวนสาขาในต่างประเทศมากกว่าในไทยในอนาคต ช่วงเวลานั้น โรบินสัน คงมีรายได้เติบโตก้าวกระโดด แต่จะอยู่ที่เท่าไหร่คงต้องติดตาม
ข่าวเด่น