กองทุนรวม
KSAM เสนอขายกองทุน KFFAI6M5 ประมาณการณ์ผลตอบแทน 2.60% ต่อปี


บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 6M5 (KFFAI6M5) อายุประมาณ  6 เดือน  เสนอขายถึงวันที่ 16 มีนาคม 2558 เหมาะกับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้ที่มีเงินลงทุนสูง  ลงทุนขั้นต่ำ 510,000 บาท  ประมาณการณ์ผลตอบแทน 2.60% ต่อปี   

 
นายฉัตรพี ตันติเฉลิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด  หรือ KSAM เปิดเผยว่า “บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 6M5 (KFFAI6M5) อายุประมาณ         6 เดือน   มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เช่น   เงินฝากธนาคาร China Construction Bank  (สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 20%  เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน  สาขามาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 20%   ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Akbank T.A.S. (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 20%   ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Isbank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 20%  และตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Vakifbank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 20%  ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 2.60% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH)   ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน  เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป”  
 
“กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 6M5 (KFFAI6M5) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้ที่มีเงินลงทุนสูง  ที่ต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก   และต้องการล็อคผลตอบแทนโดยสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน”  
 
สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้โลกนั้น ธนาคารกลางยุโรปปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน เพื่อให้สะท้อนถึงผลจากมาตรการซื้อพันธบัตร  โดยคาดว่าจีดีพีปีนี้จะโต 1.5% และอยู่ที่ 1.9% ในปี 2559 เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ 1% และ 1.5%  ส่วนอัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ที่ 0% ในปีนี้และเพิ่มขึ้น 1.5% ในปีหน้า ทางด้านธนาคารกลางจีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากลงอีก0.25% สู่ 5.35% และ 2.50% ตามลำดับ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืด และตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว พร้อมกันนี้ ธนาคารกลางได้ปรับเพิ่มเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินฝากขึ้นเป็น 130% ของเกณฑ์มาตรฐานจากเดิมที่ 120%
 
“สำหรับอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาครัฐของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 0.01 – 0.12% โดยที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาวเพิ่มขึ้นมากกว่าอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้น    ในส่วนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับลง 0.00 – 0.04% โดยที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้นลดลงมากกว่าอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาว”  นายฉัตรพี กล่าว  
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 มี.ค. 2558 เวลา : 00:37:02
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 1:39 pm