เริ่มมีความคึกคักตั้งแต่ต้นปีสำหรับตลาดเครื่องดื่มชาสมุนไพร ภายหลังมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาทำตลาดเครื่องดื่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ “เก๊กหล่อ” ของบริษัท รีสเพค วัน เบฟเวอเรจ จำกัด และบริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด ในกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ ที่ออกมาเปิดตัวชาพร้อมดื่มสมุนไพรภายใต้แบรนด์ “จับใจ”เข้าทำตลาด จากเดิมตลาดนี้จะมีผู้เล่นหลักเพียง 2-3 รายเท่านั้น คือ “เพียวริคุ เฮอร์เบิลที” ของบริษัท ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัดในกลุ่มกระทิงแดง และ “เย็นเย็น” ของบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด(มหาชน)เท่านั้น
แต่ที่สร้างความฮืฮาให้กับตลาดชาพร้อมดื่มสมุนไพรมากที่สุด น่าจะหนีไม่พ้นการเข้ามาทำตลาดของแบรนด์ "จับใจ" ที่ปลุกปั้นสินค้าโดย บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด เพราะไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์สินค้าหรือรสชาติล้วนมีความคล้ายคลึงกับแบรนด์ "เย็นเย็น" ที่เปิดตัวเข้ามาทำตลาดก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
จากความเหมือนของบรรจุภัณฑ์ ฉลากบนขวดเครื่องดื่ม หรือตัวอักษรที่อยู่บนขวด ส่งผลให้หลายคนต่างจับตามองว่าเป็นการบลั๊ฟแบรนด์เย็นเย็น ในฐานะคู่รักคู่แค้นในตลาดหรือเปล่า แต่เมื่อถามไปยังทีมผู้บริหารก็ได้คำตอบมาว่า เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการตลาด เนื่องจากชาพร้อมดื่มเป็นสินค้าเฉพาะ โดยเฉพาะน้ำจับเลี้ยงที่ต้องสื่อความเป็นเครื่องดื่มดับร้อน นั่นก็คือ ความเป็นสีแดง และสีฟ้า จึงทำให้ต้องใช้พื้นของบรรจุภัณฑ์เป็นสีแดง และตัวอักษร เป็นสีฟ้าเหมือนกับคู่แข่ง ซึ่งสีสันที่ใช้ดังกล่าวไม่ได้ใช้แค่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ขวดน้ำจับเลี้ยงในประเทศจีนก็ใช้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ประเทศไทยจะใช้สีของบรรจุภัณฑ์เหมือนกัน
นางเจษฎากร โคชส์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานตลาด บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัวแบรนด์ "จับใจ" ซึ่งเป็นชาพร้อมดื่มสมุนไพรสูตรจับเลี้ยงแท้เข้าทำตลาดในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการช่วยผลักดันยอดขายของไทยดริ้งค์ให้เติบโตเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ตามวิสัยทัศน์ 2020 หรือปี 2563 ของกลุ่มบริษัทไทยเบฟเวอเรจ ที่ต้องการส่งมอบสุขภาพที่ดีให้กับคนไทยผ่านแบรนด์ผลิตภัณฑ์คุณภาพ เพื่อตอบโจทย์เทรนด์การบริโภคเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ปัจจัยที่ทำให้ บริษัท ไทยดิ้งค์ หันมารุกตลากเครื่องดื่มชาสมุนไพร เพราะตลาดชาพร้อมดื่มมีอัตราส่วนการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภค (Penetration) เพียงแค่ 56% เท่านั้น จึงถือเป็นโอกาสทางการตลาดในการนำเสนอสินค้าดีมีคุณภาพและจุดเด่นด้านราคาที่จับจ่ายได้ง่ายขึ้น โดยในปีที่ผ่านมาเฮอร์เบิลทีมีการเติบโตสูงถึง 45% ถือว่าสูงสุดที่สุดในตลาดชาพร้อมดื่ม ด้วยมูลค่าการตลาด 3,854 ล้านบาท
นายสัมฤทธิ์ ลู่วีระพันธ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพาณิชย์ บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่ร้อนตลอดทั้งปี ประกอบกับผู้บริโภคมีความคุ้นชินในการบริโภคเครื่องดื่มเฮอร์เบิลที บริษัทจึงนำแนวคิดส่วนผสมการตลาดเจาะทั้ง 4 ห้องหัวใจผู้บริโภคมาสร้างสรรค์แบรนด์ "จับใจ" ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์แบรนด์ที่ 2 ภายใต้การดูแลของบริษัท ไทยดริ้งค์
สำหรับกลยุทธ์ 4 ห้องหัวใจ ที่ บริษัท ไทยดริ้งค์ วางไว้เป็นกลยุทธ์ หลักในการทำตลาด ประกอบด้วย 1. "ผลิตภัณฑ์จับใจ" น้ำจับเลี้ยงแท้ที่มีฤทธิ์เย็นช่วยคล้ายร้อน ที่ได้รับการพัฒนาให้มีรสชาติที่อร่อยกว่า โดยมีคะแนนเหนือกว่าผลิตภัณฑ์ที่ทำตลาดอยู่แล้วทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ความอร่อยกลมกล่อม กลิ่นหอมสดชื่น ช่วยให้ชุ่มคอ และดื่มได้ง่าย
นอกจากนี้ ยังผลิตจากสมุนไพรธรรมชาติแท้ทั้ง 10 ชนิดตามตำรับน้ำจับเลี้ยง ในส่วนของกระบวนการผลิตเองก็มีความสะอาดปลอดภัย เนื่องจากใช้กระบวนการผลิตที่ทันสมัยระดับโลกคงคุณค่าและความสดใหม่ของสมุนไพร ซึ่งจากผลการทำวิจัยตลาดของชาพร้อมดื่ม “จับใจ” พบว่า 99% ของผู้บริโภคสนใจที่จะซื้อเครื่องดื่ม “จับใจ” อย่างแน่นอน
ส่วนห้องหัวใจที่ 2 คือ ราคาจับใจ โดยบริษัท ไทยดริ้งค์ ได้กำหนดราคาขายชาพร้อมดื่มจับใจไว้ที่ขวดละ 10 บาท ในขนาด 400 มล. เพื่อให้ผู้บริโภคได้เกิดการทดลองดื่ม และช่วยเพิ่มอัตราการเข้าถึงเฮอร์เบิลที ตามด้วยห้องหัวใจที่ 3 คือ การกระจายสินค้าจับใจ บริษัท ไทยดริ้งค์ ได้ประสานความร่วมมือของบริษัทในเครืออย่างแข็งแกร่งไม่ว่าจะเป็น บริษัท ไทยเบฟ หรือบริษัท เสริมสุข รวมไปถึงคู่ค้าทางธุรกิจอื่นๆ เพื่อช่วยกระจายสินค้าผ่านหน่วยรถขายกว่า 3,000 คัน ครอบคลุมร้านค้า ร้านอาหารกว่า 400,000 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงร้านค้าในช่องทางโมเดิร์นเทรด
ปิดท้ายที่ห้องหัวใจที่ 4 คือ กลยุทธ์การสื่อสารและกิจกรรมการตลาดจับใจ ด้วยแนวคิด "เย็นจับใจ...มหาชน" เพื่อทำให้ "จับใจ" ฮิตติดตลาดเป็นขวัญใจมหาชนอย่างแท้จริง ทำให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้และทดลองดื่มให้เร็วที่สุด ด้วยการดึง "ณเดชน์ คูกิมิยะ" ซุปตาร์หนุ่มหล่อนิสัยดีขวัญใจมหาชนคนไทยทั่วประเทศมาเป็นพรีเซนเตอร์ ถ่ายทอดเรื่องราวน่ารัก ๆ ท่ามกลางอากาศร้อน ในภาพยนตร์โฆษณาชุด "กอด" เพื่อให้แบรนด์ “จับใจ” เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคได้เร็วขึ้น
นายสัมฤทธิ์ กล่าวว่า นอกจากจะดึง "ณเดชน์" มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์ จับใจแล้ว บริษัทยังมีแผนที่จะจัดกิจกรรมการตลาด เพื่อสร้างแบรนด์สินค้าร่วมกับ ณเดชน์ ไปทั่งประเทศ ด้วยการเดินสายกิจกรรมแจกสินค้าตัวอย่างไปทั่วประเทศตลอดปี 2558 ภายใต้งบ 200 ล้านบาท
หลังจากออกมาทำกิจกรรมสร้างแบรนด์และส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง บริษัท ไทยดริ้งค์ มั่นใจว่าสิ้นปีจะมีส่วนแบ่งการตลาดไม่ต่ำกว่า 30% จากมูลค่าตลาดชาสมุนไพรพร้อมดื่ม ซึ่งปีที่ผ่านมามีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 3,800 ล้านบาท ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 25% สูงกว่าภาพรวมตลาดชาพร้อมดื่ม โดยปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 20% จากมูลค่าประมาณ 15,000 ล้านบาท
การออกมาปลุกตลาดชาสมุนไพรพร้อมดื่มของบริษัท ไทยดริ้ง ในครั้งนี้ ถือว่าสร้างความคึกคักให้กับกับตลาดพอสมควร แต่ผลการตอบรับจะเป็นอย่างไรหลังวางสินค้าเข้าทำตลาด คงต้องมาดูกันอีกทีในสิ้นปีนี้ เพราะจากการรุกหนักของบริษัท ไทยดริ้ง ครั้งนี้ ที่เกือบจะโคลนิ่งชาสมุนไพรของแบรนด์ "เย็นเย็น" ในครั้งนี้ เชื่อว่าเจ้าของแบรนด์อย่าง "ตัน ภาสกรนที" คงไม่อยู่เฉยๆ อย่างแน่นอน แต่จะตอบโต้อย่างไร คงต้องมารอดูกัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตอนนี้แบรนด์ "เย็นเย็น" ยังไม่ออกมาตอบโต้ทางการตลาด เนื่องจากสินค้าแบรนด์ดังกล่าวได้อยู่ภายใต้แคมเปญ อิชิตัน รหัสรวยเปรี้ยง 4 แจกเบนซ์ทุกวัน 50 คัน 50 วัน จึงทำให้ยังสร้างยอดขายได้เป็นที่น่าพอใจ แต่เนื่องจากบรรจุภัณฑ์ระหว่างแบรนด์ "เย็นเย็น" และ "จับใจ" มีความคล้ายคลึงกันมาก อาจทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสนและหยิบขวดผิดได้
นอกจากนี้ ในด้านของคู่แข่งรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ "เก๊กหล่อ" หรือแบรนด์ "เพียวริคุ เฮอร์เบิลที" เร็วๆ นี้ ก็คาดว่าจะออกมาเปิดตัวกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างแน่นอน เนื่องจากช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งการขายกลุ่มสินค้าเครื่องดื่ม หากไม่รีบตุนยอดขายไว้เสียแต่เนิ่นๆ ปลายปีอาจได้รับผลกระทบด้านยอดขายได้ เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจและการเมืองของไทยยังคงน่าเป็นห่วง เพราะกำลังซื้อของผู้บริโภคกลุ่มระดับกลางถึงล่างยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว
หลังจากก้าวเข้าสู่ไตรมาส 2 กำลังซื้อจะฟื้นเหมือนกับที่หลายฝ่ายคาดการณ์หรือไม่ ยังคงต้องลุ้นกันต่อไป เช่นเดียวกับผู้ประกอบการทุกกลุ่มสินค้าที่ยังคงต้องลุ้นว่า สิ้นปีนี้จะยังมียอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปีหรือไม่.
ข่าวเด่น