การตลาด
สกู๊ป "ค้าปลีกปลุกออนไลน์" ชิงลูกค้าชีวิตติดจอเทคโนโลยี


 

 

จากจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอบการค้าปลีกต้องเร่งปรับบริการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ต้องมีการจัดโปรโมชั่นเพื่อเป็นการจูงใจให้เหมือนกับลูกค้าได้มาเดินช้อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้า ซึ่งจากแนวโน้มที่เกิดขึ้นดังกล่าวส่งผลให้ปัจจุบันการแข่งขันของผู้ประกอบการค้าปลีกในช่องทางออนไลน์เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น เห็นได้จากการนำสินค้าใหม่ๆ และการทำโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายผ่านเว็ปไซต์และแอพพลิเคชั่น


รายล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการสู่สมรภูมิช้อปปิ้งออนไลน์ คือ กลุ่มเซ็นทรัล หลังซุ่มไปปรับทัพหลังบ้านครั้งใหญ่เมื่อปีที่ผ่านมา ปีนี้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการเรียบร้อยว่าพร้อมแล้วที่จะเข้ามาทำตลาดในช่องทางออนไลน์อย่างจริงจัง ผ่านเว็บไซต์ www.central.co.th ซึ่งไฉไลกว่าเดิม

 
 
 
นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาบริษัทได้ใช้งบกว่า 10 ล้านบาท ในการปรับปรุงเว็ปไซต์ของกลุ่มเซ็นทรัล ภายใต้ชื่อ  www.central.co.th ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในด้านของบริการ หรือสินค้าที่จะนำมาจำหน่าย เนื่องจากเว็บไซต์ดังกล่าวจะเป็นช่องทางหลักในการจำหน่ายสินค้าในเครือของกลุ่มเซ็นทรัลทั้งหมด โดยขณะนี้บริษัทพร้อมแล้วที่จะเข้ามาทำตลาดดังกล่าวอย่างจริงจัง

ปัจจัยที่ทำให้ กลุ่มเซ็นทรัล หันมารุกตลาดออนไลน์อย่างจริงจังอีกครั้ง หลังจากเงียบไปพักใหญ่ ก็เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า ซึ่งมีแนวโน้มซื้อสินค้าผ่านช่องทางออไลน์กันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังได้เพิ่มงบประมาณการทำตลาดให้กับช่องทางออนไลน์ ด้วยการเตรียมงบประมาณ 100 ล้านบาท สำหรับการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในปีนี้ ภายใต้แนวคิด “Shop with Confidence”จากปีที่ผ่านมาใช้อยู่ราว 40 ล้านบาท

 
 
 
 
 
นายวรวุฒิ กล่าวว่า ตอนนี้ต้องยอมรับว่าผู้ประกอบการแทบจะทุกกลุ่มธุรกิจได้หันมาทำตลาดออนไลน์กันมากขึ้น เพื่อไม่ให้เสียส่วนแบ่งทางการตลาด บริษัทจึงต้องออกมาปรับตัวด้วยการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปตามเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลง  

หลังจากออกมารุกขยายธุรกิจออนไลน์อย่างจริงจัง  กลุ่มเซ็นทรัลมั่นใจว่า สิ้นปีนี้จะมีรายได้อยู่ที่ 800 ล้านบาท  และเพิ่มเป็น 2,000 ล้านบาท  ในอีก 5  ปีนับจากนี้  เนื่องจากฐานลูกค้ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีฐานลูกค้าอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านคน มียอดการใช้จ่ายต่อบิลอยู่ที่ประมาณ 2,400 – 2,500 บาท โดยกลุ่มสินค้าที่มียอดขายสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ 1. เครื่องสำอาง 2. เครื่องใช้ไฟฟ้า และ 3.สินค้าแม่และเด็ก

ในส่วนของ ห้างเทสโก้  โลตัส ล่าสุดก็ออกมาเปิดตัวแอพพลิเคชั่นช้อปออนไลน์ใหม่ เพื่อเอาใจลูกค้า ’เจนเนอเรชั่นนาวย์’ ให้ช้อปได้ง่ายกว่า ช้อปเร็วกว่า แค่สแกนบาร์โค้ดสินค้าที่อยากได้ พร้อมเช็คราคาได้แบบเรียลไทม์  เพื่อเอาใจคนรุ่นใหม่ขาช้อปที่ชื่นชอบความสะดวกสบาย

 
 
 
 
นางวรรณา สวัสดิกูล ประธานกรรมการบริหารฝ่ายธุรกิจออนไลน์ บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหารห้างเทสโก้ โลตัส กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจของห้างเทสโก้ โลตัส นับจากนี้ ยังคงให้ความสำคัญกับการมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า โดยจากการศึกษาพบว่าลูกค้ายุคดิจิทัลในปัจจุบันต้องการความสะดวกและความรวดเร็วสูงสุดในการช้อปออนไลน์ ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าวบริษัทจึงได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น "Tesco Lotus Shop Online" ที่ช่วยให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งของสด ของแห้ง และของแช่แข็ง ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่สแกนบาร์โค้ดจากสินค้าที่มีอยู่ในบ้านหรือสินค้าที่พบเห็นในร้านค้าอื่น

 
 
 
ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาใหม่  เทสโก้ โลตัส  มั่นใจว่าจะทำให้ ห้างเทสโก้ โลตัส อยู่ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น   เพราะเป็นเทคโนโลยีที่ลูกค้าเคยชินกับการได้ข้อมูลในทันที อีกทั้งยังสามารถตอบสนองความต้องการให้รับบริการที่รวดเร็วเพียงปลายนิ้วสัมผัสหน้าจอโทรศัพท์มือถือหรือแทบเล็ต หรือที่เรียกว่า ‘เจนเนอเรชั่นนาวย์’ เทสโก้ โลตัส จึงได้ออกแบบแอพพลิเคชั่นช้อปออนไลน์ให้ตอบโจทย์ของลูกค้าเจนเนอเรชั่นนี้ คือ สแกนบาร์โค้ดสินค้าที่พบเห็นที่ใดก็ได้ กดเพิ่มในตะกร้าสินค้า และสั่งซื้อได้ทันที หลังจากเปิดตัวบริการดังกล่าว ห้างเทสโก้ โลตัส มั่นใจว่าจะได้ผลการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
 
 
 
 
ด้าน บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์  ก็ออกมารุกธุรกิจออนไลน์ในปีนี้อย่างจริงจังเช่นกัน ผ่านเว็บไซต์ www.bigc.co.th  และแอพพลิเคชั่น "บิ๊กซี ช้อปออนไลน์" ผ่านโทรศัพท์มือถือระบบ iOS และ Android  ซึ่งหลังจากทดลองเปิดตัวแอพพลิเคชั่นดังกล่าวในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา พบว่า ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเป็นที่น่าพอใจ  เพราะมีความสะดวกในการซื้อสินค้า

นายกุฎาธาร  นาควิโรจน์  ที่ปรึกษาบริหารฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด(มหาชน)  กล่าวว่า  หลังจากบริษัทได้เปิดตัวช้อปปิ้งออนไลน์มาในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา  ในแต่ละปีมียอดขายเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 100%  เช่นเดียวกับปี 2557  ที่มียอดขายเติบโตสูงถึง 300%  แม้ว่าจะมีปัจจัยลบหลายอย่างเกิดขึ้น  อัตราการเติบโตดังกล่าวถือเป็นแนวโน้มที่ดี  เพราะตั้งแต่เริ่มธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์มาในปี 2555 มีรายได้เติบโตอยู่ที่ 200% ต่อมาปี 2556 มีอัตราการเติบโตอยู่ที่  410% และในปีนี้ บริษัท บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ คาดว่าธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์น่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

 
 
 
 
อีกหนึ่งผู้ประกอบการค้าที่เห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์ คือ  ศูนย์การค้าเดอะ แพลทินั่ม แฟชั่นมอลล์  เพราะนอกจากจะอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าขาช้อปในประเทศให้สามารถช้อปปิ้งซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกสบายแล้ว แพลทินั่ม ยังมองโอกาสในอนาคตว่าจะผลักดันให้ช่องทางดังกล่าวขยายฐานลูกค้าไปในตลาดต่างประเทศ ซึ่งตลาดที่มีความสนใจอยู่ในขณะนี้ คือ ตลาดอาเซียน เนื่องจากปลายปีนี้ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)
 

 
 
 
 
นายสมบูรณ์ วงศ์รัศมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัวการขายส่งออนไลน์ผ่าน แอพพลิเคชั่น แพลิทินั่ม บัซ (Platinum buzz)  เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ไม่สะดวกในการเดินทางมาซื้อสินค้าที่เดอะ แพลทินั่ม แฟชั่นมอลล์ ซึ่งในส่วนของสินค้าที่นำมาจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ก็มีความหลากหลาย โดยปัจจุบันมีร้านค้าที่เข้าร่วมจำหน่ายสินค้าผ่านแอพพลิเคชั่นดังกล่าวแล้วประมาณ 100 ร้านค้า
 

 
 
 
อย่างไรก็ดี แม้ว่าขณะนี้ห้างดังอย่างเครือเดอะมอลล์ จะดูแผ่วๆ ไปกับธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์  เนื่องจากยุ่งอยู่กับการการเปิดตัวศูนย์การค้าใหม่ แต่เชื่อว่าเร็วๆ นี้ น่าจะมีความเคลื่อนไหวของธุรกิจดังกล่าว หลังจากเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาได้ออกมาเปิดตัวเว็บไซต์  www.mods.co.th  เข้าทำตลาดอย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด  M Online Department Store ซึ่งวางบทบาทให้เป็นเครื่องมือสื่อสารกับลูกค้าในรูปแบบ Social Commerce เจาะเข้าไปยังกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ระดับบีขึ้นไป
 

 
 
 
 
เช่นเดียวกับ โรบินสัน ที่ตอนนี้ดูจะแผ่วกับธุรกิจออนไลน์ ภายหลังออกมาเปิดตัว “Robinson Mobile App” และ “Robinson Shopping Online” เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารและให้ลูกค้าได้ช้อปปิ้งสินค้าหลายหมื่นรายการกันอย่างจุใจ
 
 
หลังจากแม่ทัพใหญ่หลายค่ายออกมาระุบุว่า จะรุกธุรกิจออนไลน์มากขึ้นในปีนี้ เชื่อว่าการแข่งขันของธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์ของเหล่าบรรดาห้างค้าปลีกในปีนี้ น่าจะมีความรุนแรงมากกว่าปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน

LastUpdate 29/03/2558 16:30:09 โดย : Admin
25-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2024, 10:41 am