เมื่อเร็วๆนี้ นักแสดงสาวชื่อดัง "เต๋า-สโรชา วาทิตตพันธ์" จูงมือหนุ่ม "เบอร์" ผู้บริหาร บริษัท เจเอสแอล จำกัดเข้าสู่ประตูวิวาห์แบบเงียบๆ ที่ โรงแรม เดอะสยาม โฮเต็ล ย่านสะพานซังฮี้ โดยมีเพียงแขกผู้ใหญ่และเพื่อนในวงการเพียงไม่กี่คนร่วมแสดงความยินดี ล่าสุดเจ้าตัวออกมาเปิดใจเรื่องการแต่งงานครั้งนี้
แต่งแบบปุ๊บปั๊บมาก ?
"ก็ต้องขอโทษจริงๆ เพราะแต่งแบบปุ๊บปั๊บเนาะ ไม่ได้บอกใคร ไม่ได้เชิญทั้งหมด ฤกษ์นี้พอดีหลวงพ่อให้มาตั้งแต่ช่วงปลายปีแล้วล่ะ แม่ก็รู้แล้ว ยายก็รู้แล้ว ก็คิดว่าถ้างานมันยุ่งก็เลื่อนไปอีก ไม่แคร์ฤกษ์ ก็คุยกันว่าถ้างานมันยุ่งก็เลื่อนไปอีกก่อน แต่พอใกล้ก็คุยกันว่าเอาเลยไหม ยายไม่ค่อยสบายด้วย ก็แต่งให้แกสบายใจ ก็เตรียมงานเล็กๆ กันมาเรื่อยๆ แล้วก็เชิญกันน้อยมาก"
เชิญคนมาประมาณกี่คน ?
"ไม่เกิน 50 คน 40 คน"
แพลนมานานรึยัง ?
"ก็เป็นช่วงปีใหม่ ที่เรารู้วันคร่าวๆ แต่เรื่องสถานที่เพิ่งมาเตรียมกันเร็วๆ นี้เอง แล้วตอนแรกจะจัดที่บ้าน แต่กลัวไม่สะดวก"
แต่งตามใจแม่ ตามใจยายใช่ไหม ?
"ใช่ จัดให้ท่านเลย จริงๆ เราสองคนไม่ซีเรียส แอบกลัวงานแต่งงานเหมือนกัน หลังจากวันแต่งงานมันจะกดดันอะไรไหม หรือว่าจะอยู่กันไปประมาณนี้เลย แต่ก็อย่าเลยเพราะผู้ใหญ่เขาอยากให้มีเป็นเรื่องเป็นราว ก็ให้เกียรติผู้ใหญ่ด้วย จริงๆ หลักๆ ของการจัดงานแต่งงาน ก็คิดกันว่าให้ผู้ใหญ่สบายใจ แล้วก็ตามประเพณีนิยม"
ดูใจกันมานานแค่ไหนแล้ว ?
"ก็เกือบ 4 ปีค่ะ"
ฝ่ายเจ้าบ่าวเป็นไงบ้าง ?
"วันนั้นเขาเป็นพระเอก ทุกคนก็ชื่นชมเพราะเป็นคนพูดไม่เก่งเลย แล้วก็วันนั้นตั้งใจมาก อยากให้งานทุกอย่างออกมาดี การ์ดก็เขียนเองกับมือ แล้วก็ส่งให้ถึงมือผู้ใหญ่มุกคน แล้วก็ทุกอย่างคือทำเองหมด ไม่มีออแกนไนน์ จัดกันเองเลย เอาดอกไม้แบบนี้ เอามงกุฎแบบนี้ ก็คิดกันเล่นๆ ก็ตั้งใจกันมาก พอถึงวันงานก็จะมีพิธีแลกคำสาบาน แล้วก็แลกแหวนเป็นอันจบพิธี"
คุณแม่ คุณยายว่าไงบ้าง ?
"ดีใจมากค่ะ ยายบอกว่าดีมากเลยก็ร้องไห้ปลาบปลื้ม ขอบใจมากที่ทำให้ยายมีความสุข แค่นี้เราก็มีความสุข จุดประสงค์ของงานก็บรรลุแล้ว มันเป็นงานเล็กๆ แต่ทุกคนวันนั้นได้ความรักกลับไปหมด"
อะไรที่ทำให้เราตัดสินใจว่าคนนี้ใช่แล้ว ?
"ก็น่าจะเป็นความดี เพราะว่าเราก็เจอมาหลายคนก็มีรักมากรักน้อย หวือหวามากหวือหวาน้อย อย่างในคำสาบานมีตอนหนึ่งที่เราเขียนไว้แล้วก็อ่านบอกว่า หลายคนถามว่าพี่เบอร์คือใคร ก็ไม่เคยตอบได้สักทีว่าพี่เบอร์คือใคร เขาก็เป็นคนหนึ่ง อาชีพธรรมดาคนหนึ่ง แต่ว่าบอกตัวเองได้ว่า คือคนที่เข้ามาแล้วรู้ว่าที่ผ่านมาไม่ได้หลงทาง คือเขาเป็นคนดีมากจริงๆ เรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดมันทำให้เรามาเจอกันในวันนี้ เขารักแม่ รักยาย รักครอบครัวเราด้วย"
หลังจากแต่งงานวางแผนอย่างไง ?
"ไม่ได้วางไว้เลย ก็อยู่ไปเรื่อยๆ (หัวเราะ) น่าจะลุยงานกันเต็มที่ เพราะว่าเราก็มีหลายเรื่องที่เราอยากจะทำ พี่เบอร์ลุยงานเต็มที่ เราก็สบายใจเรื่องนี้แล้วจัดงาน(แต่งงาน)ไปแล้วสบายใจ จากนี้เราก็ใช้ชีวิตการทำงาน ก็อย่างที่บอกว่าเป็นคนรักงาน บ้างานเหมือนกันทั้งคู่ ก็เลยจะเข้าใจกันตรงนี้ ซึ่งเต๋าพร้อมที่จะรับงานมากขึ้นด้วยซ้ำไปพอสบายใจกับชีวิตคู่แล้ว มันไม่ต้องมากังวล เราไม่ต้องมานั่งแบบจะเป็นยังไงอนาคต เราสบายใจย้ายเข้าอยู่เรือนหอก็ใช้ชีวิตคู่กันไปตามปกติ แล้วก็เรื่องงานเราก็อยากพัฒนาให้มันดีขึ้นไปด้วย"
สามีบอกห้ามรับงานบันเทิงหรือเปล่า ?
"ไม่มีเลยค่ะ ห้ามยุ่งเรื่องนี้(ยิ้ม) ห้ามยุ่งเรื่องงานของกันและกัน เพราะว่าต้องให้เกียรติกันในเรื่องนี้"
แล้วมีแผนจะมีลูกหรือไม่ ?
"ก็อยากมีเหมือนกัน แต่ว่าคงยังค่ะ แล้วก็นึกภาพตัวเองเลี้ยงน้องไม่ออกเลย แล้วก็คิกว่าถ้ามีเราต้องหยุดงานแน่เลย เพราะว่าถ้ามีจริงๆ ก็ต้องหยุดงาน ต้องเลี้ยงเอง ไม่มีพี่เลี้ยง ก็ขอทำงานก่อน ยังไม่มีดีกว่า"
แล้วสามีล่ะอยากมีไหม ?
"ไม่แน่ใจเหมือนกัน ก็ถามๆ เหมือนเขาอยากมี แต่เขาก็เห็นใจเราเรื่องงาน เรื่องสุขภาพ เขาก็กลัวว่าถ้ามีแล้วสุขภาพเราจะไม่แข็งแรง"
มีโครงการไปฮันนีมูนหรือเปล่า ?
"คิดว่าจะไปตุรกีกัน แต่ว่ามันถูกวางแผนมาก่อนแล้ว ก่อนงานแต่งงานอีก ก็ถือว่าเป็นฮันนีมูนไปเลยแล้วกัน ก็อาจจะเป็นช่วงสงกรานต์ ไปอาทิตย์กว่าๆ แป๊บเดียวเองเพราะติดงาน อันนี้พองานเสร็จก็ต้องกระจายแยกย้ายกันไปทำงาน"
ข่าวเด่น