การเดินทางเยือนประเทศไทยของ นายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซียครั้งแรกในรอบ 25 ปี และในปี 2560 หรือ อีก 2 ปีข้างหน้า จะครบรอบ 120 ปี ของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าทั้งสองฝ่ายแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะยกระดับความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดมากขึ้น โดยการขับเคลื่อนความร่วมมือในทุกมิติบนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน การหารือร่วมกันในด้านเศรษฐกิจ ไทยและรัสเซียต่างพอใจพัฒนาการของเศรษฐสัมพันธ์ระหว่างกัน และจะร่วมกันผลักดันให้การค้าทวิภาคีเติบโตขึ้น
โดยมีเจตนารมณ์เห็นพ้องที่จะผลักดันให้มูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นจาก 5 พันล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน เป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปีหน้า โดยเฉพาะการเปิดตลาดสินค้าระหว่างกัน การลดอุปสรรค และอำนวยความสะดวกทางการค้า
รัฐบาลยังได้เชิญชวนรัสเซียให้เข้ามาร่วมลงทุน แข่งขันการประมูลพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ของไทย ตามยุทธศาสตร์แผนการลงทุนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน
ส่วนด้านการท่องเที่ยว รัฐบาลได้ให้ความมั่นใจแก่นายกรัฐมนตรีเมดเวเดฟว่า ไทยยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวรัสเซีย โดยในปีที่ผ่านมามีประมาณ 1.7 ล้านคน และขอให้ความมั่นใจว่า ไทยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ปลอดภัย รัฐบาลพร้อมที่จะให้การดูแลความปลอดภัยและสวัสดิภาพของนักท่องเที่ยวรัสเซียและชาติอื่นๆ
ด้าน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์ว่า การกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำรัสเซียและไทย รวมถึงภาคเอกชนของทั้งสองประเทศอย่างเป็นรูปธรรมในครั้งนี้ จะเอื้อประโยชน์ต่อการค้าและการลงทุนระหว่างกันให้มีพัฒนาการมากขึ้นในระยะยาว โดยมีนักลงทุนจากรัสเซียสนใจลงทุนในไทยในธุรกิจการแปรรูปยางพารา
การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่น่าจะช่วยสร้างเครือข่ายการลงทุนของรัสเซียในไทยเพิ่มขึ้นในระยะข้างหน้า ขณะเดียวกันการตั้งเป้าที่จะขับเคลื่อนการค้าระหว่างกันเพิ่มเป็น 2 เท่าตัว ให้แตะมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ภายในปี 2559 น่าจะผลักดันสินค้าศักยภาพของไทยทำตลาดในรัสเซียได้มากขึ้นเช่นกัน
โดยการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของไทยไปรัสเซีย นับว่า มีแนวโน้มสดใสกว่ากลุ่มอื่น ซึ่งได้แรงสนับสนุน 2 ทาง จากความต้องการบริโภคของรัสเซียเพื่อชดเชยการนำเข้าสินค้าอาหารจากสหภาพยุโรป (EU) ผลจากมาตรการคว่ำบาตรของรัสเซียต่อ EU ทำให้สินค้ากลุ่มนี้ของไทยสามารถเติบโตสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจรัสเซียเวลานี้
และแรงหนุนจากภาครัฐบาลระหว่างประเทศที่จะมาเป็นเครื่องช่วยเสริมการส่งออกอย่างมั่นคงมากขึ้น
ซึ่งจะเห็นได้ว่า สินค้าเกษตรและอาหารของไทยที่ส่งออกไปรัสเซียมีศักยภาพสูงอยู่แล้ว และมีสัญญาณการเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 เช่น น้ำตาลทราย ข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว อาหารสัตว์เลี้ยง สิ่งปรุงรสอาหาร ปลาหมึกสดแช่เย็น/แช่แข็ง และผักสด หลังจากที่รัฐบาลรัสเซียเปิดให้นำเข้าจากไทยได้เป็นครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2557
ในขณะที่การส่งออกสินค้ากลุ่มยางพาราของไทยไปรัสเซียน่าจะมีทิศทางดีขึ้น แม้จะยังมีมูลค่าการส่งออกค่อนข้างน้อยและยังหดตัวสูง จากผลของราคายางพาราตกต่ำและการชะลอตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ในรัสเซีย
ส่วนแนวโน้มการส่งออกของไทยไปรัสเซียปี 2558 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า อาจจะยังหดตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศและการอ่อนค่าของเงินรูเบิล ที่กดดันกำลังซื้อของผู้บริโภครัสเซีย
หลังจากนี้คงต้องติดตามว่า ความเดินทางมาเยือนไทยของผู้นำรัสเซียซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี จะกระตุ้นการส่งออกสินค้าไทยได้มากน้อยแค่ไหน
ข่าวเด่น