"ซามูเอล แอล แจ็คสัน" นับเป็นนักแสดงรุ่นเก๋ามากความสามารถ ซึ่งตอนนี้เขามีผลงานใหม่ล่าสุด คือ ภาพยนตร์เรื่อง "Big Game" ซึ่งเขารับบทเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ต้องหนีตายจากการไล่ล่า โดยเขาติดอยู่ในแคปซูลนิรภัยในป่าแห่งหนึ่ง และคนที่พบเขาคือ "โอสคาริ" เด็กชายฟินแลนด์ วัย 13 ปี ซึ่งนั่นเท่ากับชีวิตประธานาธิบดีของเขาอยู่ในกำมือเด็กคนนี้ ที่จะช่วยให้เขารอดพ้นจากการถูกปองร้ายเอาชีวิตได้
"ตอนที่ผมรับเล่น มันไม่สำคัญว่าผมจะได้บทเป็นประธานาธิบดีหรือว่าช่างไม้ ผมมองถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวละครตัวนี้ต่างหาก เขากำลังถูกตามล่าและพยายามรักษาชีวิตของตัวเอง บทบาทของผมมันคือการเอาตัวรอด นอกจากนี้ผมยังชอบเรื่องราวของการผจญภัย ผมชอบภาพยนตร์แอ็คชั่นที่มีหัวใจ ผมชอบการเติบโตแบบที่เด็กในเรื่อง มันท้าทายที่จะค้นหาตัวตน ที่จะแข็งแกร่งขึ้น เพื่อก้าวข้ามผ่านเส้นของความกลัว มันเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมาก
ส่วนฉากที่ยากที่สุดสำหรับผม คงเป็นฉากการต่อสู้บนเครื่องบิน เพราะมีน้ำขังและอากาศหนาวมาก คงไม่มีใครอยากเปียกเวลาทำงาน (หัวเราะ) มันยากจริงๆ สุดท้ายนี้ผมอยากฝากถึงแฟนๆหนังของผมว่า ถ้าคุณชอบภาพยนตร์ผจญภัยที่เต็มไปด้วยความประทับใจ เรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ คุณควรจะต้องไปดู" แจ็กสัน กล่าว
ขณะที่คนที่รับบท "โอสคาริ" คือ "ออนนิ ทอมมิลา" บอกว่าเขาตื่นเต้นมากที่ได้รู้ว่าจะได้ทำงานร่วมกับ "แอล.แจ็คสัน" เพราะเป็นเป็นนักแสดงที่น่าทึ่งมาก
"ผมเป็นแฟนเขาตั้งแต่เขาเล่นภาพยนตร์เรื่อง Django Unchained (จังโก้ อันเชนด์) และเรื่อง Star Wars (สตาร์ วอร์ส) ด้วย ผมตื่นเต้นทุกครั้งที่เข้าฉากร่วมกับเขาครับ ส่วนความท้าทายของภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ ฉากที่ต้องโหนอยู่บนเคเบิ้ล ตอนยกตู้แช่ลอยอยู่บนความสูงราวสิบเมตร และฉากที่ต้องอยู่ในตู้แช่ลอยอยู่กลางทะเล ถึงจะดูน่ากลัว แต่ทีมงานเตรียมความพร้อมเรื่องความปลอดภัยไว้เป็นอย่างดีครับ การทำงานครั้งนี้ทำให้ผมได้ประสบการณ์ที่ตื่นเต้นและท้าทายมากๆเลยครับ" ทอมมิลากล่าว
"Big Game" กำกับโดย "จาลมารี เฮเลนเดอร์" โดยเขาและทีมงานได้ยกกองไปปักหลักถ่ายทำกันในป่าลึกที่ประเทศฟินแลนด์และเยอรมนี ซึ่งท้าทายมากๆ ทั้งสภาพอากาศ และการขนส่ง ทุกอย่างลำบากมาก ซึ่งช่วงก่อนการถ่ายทำ เป็นช่วงที่ฟ้าใส อากาศดี ป่าสวย แต่พอถึงเวลาถ่ายเข้าจริงๆ แบบว่ากลับตาลปัตร แต่ในที่สุดก็สามารถผ่านพ้นมาได้
การแสดงของ "แจ็คสัน" จะยังแจ่มแจ๋วหรือไม่ รวมถึงภาพยนตร์เรื่องนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ คงต้องติดตามกันดู โดยเมื่อตอนเปิดตัวที่ฟินแลนด์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อันดับ 4 โดยทำเงินเมื่อสัปดาห์แรกไป 324,321 ดอลลาร์สหรัฐ และทะยานขึ้นอันดับ 2 ในสัปดาห์ต่อมา รวมแล้วตอนนี้ ทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 689,350.ดอลลาร์สหรัฐ
ข่าวเด่น