แบงก์-นอนแบงก์
"ซีไอเอ็มบี ไทย" กำไร 3 เดือนแรกลดลง จากสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้น


"ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย" ประกาศกำไรสุทธิงวด 3 เดือน ปี 2558 ลดลงจำนวน 310.3 ล้านบาท หรือ 70.4 %  จากการสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 117.6  % สะท้อนสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว


นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 มีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 2,963.6 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 265.4 ล้านบาท หรือ 9.8 %  เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2557 กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 15.8 % เป็นจำนวน 1,181.7 ล้านบาท เกิดจากการเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ขณะที่กำไรสุทธิลดลงจำนวน 310.3 ล้านบาท หรือ 70.4%  เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันสาเหตุหลักเกิดจากสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 117.6 % สะท้อนจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

“อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2557 ผลประกอบการ มีการปรับตัวดีขึ้น โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 47.1 %  จากจำนวน 88.8 ล้านบาทเป็นจำนวน 130.6 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของกลุ่มธนาคารที่ดีขึ้นต่อสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง”นายสุภัคกล่าว

นายสุภัคกล่าวอีกว่า ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานงวดสามเดือนปี 2558 และ 2557 รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 90.7 ล้านบาท หรือ  28.4 %  ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัย  รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 59.1 ล้านบาท หรือ 3.2 %  เป็นผลจากการขยายสินเชื่อในอัตราที่ลดลงและการไถ่ถอนตราสารหนี้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนก่อนกำหนดในปี 2557  ซึ่งมีผลทำให้กำไรเพิ่มขึ้นในงวดเดียวกันปี 2557 และรายได้จากการดำเนินงานอื่นเพิ่มขึ้น 115.5 ล้านบาท หรือ  22.1%  เนื่องจากกำไรจากธุรกรรมเพื่อค้าและการปริวรรตเงินตราต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจำนวน  359.2 ล้านบาท หรือ 151.5 %  ส่วนใหญ่เกิดจากธุรกรรมการบริหารเงิน และรายได้จากการดำเนินงานอื่น เพิ่มขึ้นจำนวน 18.9 ล้านบาท หรือ 45.5 %  ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้เงินปันผล     

“ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับงวดสามเดือนปี 2558 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2557 เพิ่มขึ้นจำนวน 104.3 ล้านบาทหรือร้อยละ 6.2 สาเหตุส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ต่อรายได้จากการดำเนินงานงวดสามเดือนปี 2558 อยู่ที่ร้อยละ 60.1 ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2557 อยู่ที่    ร้อยละ 62.2 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้และการปรับปรุงแผนการบริหารจัดการเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี”นายสุภัคระบุ

นายสุภัคเปิดเผยอีกว่า สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 7.1 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้น (NPL ratio) อยู่ที่ร้อยละ 3.7 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557อยู่ที่ร้อยละ 3.3 เป็นผลจากความล่าช้าในการชำระหนี้ของลูกค้าภาคธุรกิจบางราย  อย่างไรก็ตาม ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแล และการแก้ไขลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2558 อยู่ที่ร้อยละ 94.1 ณ วันที่ 31 มีนาคม 2558 เงินสำรองของกลุ่มธนาคารอยู่ที่จำนวน 6.6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 2.6 พันล้านบาท        

ขณะที่ อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin – NIM) สำหรับงวดสามเดือนปี 2558   อยู่ที่ร้อยละ 2.95 หรือลดลงร้อยละ 0.32 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปี 2557 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำ เนื่องจากสินเชื่อของธนาคารชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจและต้นทุนเงินฝากที่เพิ่มขึ้น

วันที่ 31 มีนาคม 2558 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชี (รวมเงินให้สินเชื่อซึ่งค้ำประกันโดยธนาคารอื่นและเงินให้สินเชื่อแก่สถาบันการเงิน) ของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 190.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 5.0 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 กลุ่มธนาคารมีเงินฝาก (รวมตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางประเภท) จำนวน 208.0 พันล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.8 จากสิ้นปี 2557 ซึ่งมีจำนวน 211.7 พันล้านบาท ทำให้อัตราส่วนสินเชื่อต่อ เงินฝาก (the Modified Loan to Deposit Ratio) ของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 91.8 จากร้อยละ 90.1 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557

เงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ สิ้นวันที่ 31 มีนาคม 2558 มีจำนวน 31.5 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงร้อยละ 14.5 โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ร้อยละ 9.7


LastUpdate 22/04/2558 13:53:30 โดย : Admin
01-01-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ January 1, 2025, 1:11 pm