บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีเกรทเทอร์ไชน่าอิควีตี้เฮดจ์ปันผล (KF-HCHINAD) ขนาดกองทุน 1,000 ล้านบาท มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก First State Greater China Growth Fund ชูจุดเด่นสร้างโอกาสรับผลตอบแทนจากการศักยภาพในการเติบโตของตลาดหุ้นจีน ฮ่องกง และไต้หวัน ที่มีขนาดเศรษฐกิจโดยรวมใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก โดยมี GDP คิดเป็นสัดส่วนกว่า 14% (ข้อมูล IMF ณ มี.ค. 58) เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 22 – 28 เม.ย. 58 ลงทุนขั้นต่ำ 2,000 บาท เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังตลาดหุ้นจีนเพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี
“นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า “บริษัทเตรียมเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีเกรทเทอร์ไชน่าอิควีตี้เฮดจ์ปันผล (KF-HCHINAD) โดยลงทุนผ่านกองทุนหลัก First State Greater China Growth Fund โดยเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเฉลี่ยต่อรอบปีบัญชี และมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน”
“กองทุนหลัก First State Greater China Growth Fund ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนทั่วโลกโดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมูลค่ารวมกว่า 156.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีผลการดำเนินเหนือดัชนีเปรียบเทียบและค่าเฉลี่ยของคู่แข่งในอุตสาหกรรมอย่างโดดเด่นและสม่ำเสมอ เนื่องจากกองทุนหลักมีพอร์ตการลงทุนที่ครอบคลุมและยืดหยุ่น มีการใช้แนวทางการบริหารกองทุนเชิงรุกเพื่อเฟ้นหาโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นจีน โดยเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีโครงสร้างการบริหารที่แข็งแกร่งและมีความแตกต่างทางธุรกิจ มีอำนาจต่อรองด้านราคา มีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และราคาหุ้นอยู่ในระดับที่น่าสนใจและสมเหตุสมผล เนื่องจากบริษัทเหล่านี้จะมีความมั่นคงท่ามกลางความผันผวนในตลาดจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจของจีน และมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนให้กับ นักลงทุนได้อย่างยั่งยืนในระยะกลางถึงยาว”
“กองทุนหลักได้รับการยอมรับและได้รับรางวัลจากหลากหลายสถาบันชั้นนำ อาทิ The Lipper Fund Awards 2013 – 2014 , Asia Asset Management Best of the Best Awards 2011-2012 ,Highest Lipper Leaders rating : Total Return , Consistent Return and Preservation , Highest Overall Morningstar rating เป็นต้น ซึ่งรางวัลต่างๆที่กองทุนหลักได้รับแสดงให้เห็นถึงความมีวินัยในกระบวนการลงทุนและความสามารถของผู้จัดการกองทุน”
“บริษัทเชื่อมั่นว่ากองทุน KF-HCHINAD จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนจะสามารถเข้าถึงการลงทุนในกองทุนหลักที่มีนโยบายไม่เปิดรับลูกค้าใหม่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากกองทุนหลักให้ความสำคัญกับผลการดำเนินงานที่ดีอย่างสม่ำเสมอและการรักษาผลประโยชน์ของลูกค้า”
นอกจากนี้ บริษัทมีมุมมองที่ดีต่อการลงทุนใน Greater China ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี และเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการเติบโตของ 3 ตลาดที่สำคัญของโลก ประกอบด้วย ประเทศจีน ฮ่องกง ไต้หวัน ซึ่งแต่ละประเทศมีบริษัทที่กำลังเติบโตและมีคุณภาพเป็นจำนวนมาก และระดับราคาน่าสนใจโดยเฉพาะราคาหุ้นจีนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตมาก อีกทั้งกลุ่มประเทศดังกล่าวยังมีความได้เปรียบในการแข่งขันบนเวทีโลกที่แตกต่างกัน อาทิ ประเทศจีนมีศักยภาพการเติบโตในระยะยาวที่อยูในระดับสูง ฮ่องกงมีความโดดเด่นในเรื่องของความเจริญก้าวหน้าและมีความมั่งคั่งในระดับสูงและเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการเงินของโลก ขณะที่ไต้หวันก็มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรมระดับโลกและมีบริษัทชั้นนำในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศจำนวนมาก ส่งผลให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงทุกโอกาสการลงทุนในกลุ่มประเทศนี้”
“การปฎิรูปเชิงโครงสร้างและนโยบายผ่อนคลายทางการคลังถือเป็นจุดเริ่มต้นของการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมไปถึงการเชื่อมต่อตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ – ฮ่องกง ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2014 ถือเป็นรากฐานอันแข็งแกร่งต่อการเติบโตในระยะยาวและมีความเป็นไปได้ที่จะมีมาตราการในลักษณะดังกล่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้คาดว่าตลาดหุ้นจีนจะถูกนำไปรวมคำนวณในดัชนี MSCI EM ภายในครึ่งปีแรกของ 2015 ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนมีความคึกคักและได้รับความสนใจจาก นักลงทุนทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น จากปัจจัยต่างๆดังกล่าวข้างต้นถือเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้การลงทุนใน Greater China มีโอกาสที่จะเติบโตและสร้างผลตอบแทนที่ดีได้อย่างยั่งยืน”
“กองทุน KF-HCHINAD จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ และมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้แก่ผู้ลงทุน ผู้ลงทุนอาจพิจารณาจัดสรรเงินลงทุนบางส่วนมาลงทุนในตลาดหุ้นจีนผ่านกองทุนนี้ เพื่อบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนให้มีสินทรัพย์ที่หลากหลายเพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในทุกวัฏจักรเศรษฐกิจ” นายฉัตรพี กล่าว
ข่าวเด่น