หลังจากพลาดหวังจากการเข้าร่วมประมูลทีวีดิจิทัลในช่องรายการเด็กในช่วงปลายปี 2556 ที่ผ่านมา บริษัท โรสมีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ก็ต้องออกมาปรับแผนรุก จากเดิมจะเป็นผู้บริหารช่องทีวีดิจิทัล มาเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ป้อนให้กับช่องทีวีดิจิทัล และล่าสุดได้พลิกผันตัวเองมาเป็นผู้ประกอบการทีวีช้อปปิ้งเป็นที่เรียบร้อย ภายหลังได้จับมือร่วมทุนกับบริษัท ไตร-สเตท อิงค์ จำกัด เพื่อพัฒนาธุรกิจทีวีช้อปปิ้งร่วมกันภายใต้ทุนจดทะเบียน10 ล้านบาท ก่อตั้ง บริษัท โรสสเตท จำกัด ในสัดส่วนการถือหุ้นบริษัท ไตร-สเตท อิงค์ จำกัด 49% และในนามส่วนของนางอรพรรณ มนต์พิชิต บวรวัฒนะ ผู้บริหารโรส มีเดียฯ อีกประมาณ 51%
ภายหลังก่อตั้ง บริษัท โรสสเตท จำกัด ในช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา บริษัท โรสมีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ก็เตรียมความพร้อมทันที เพื่อรุกธุรกิจทีวีช้อปปิ้งอย่างจริงจังในเดือน มิ.ย. 2558 ด้วยการจับมือกับบริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) นำสินค้าเข้าจำหน่ายในช่อง Smile ,ช่อง Family Guide และช่อง Sports Spirit ซึ่งช่องที่เป็น Free To Box ของซีทีเอช
นางอรพรรณ มนต์พิชิต บวรวัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรสสเตท จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง เป็นธุรกิจที่ยังมีช่องทางการเจริญเติบโตได้อีกมาก ทำให้บริษัทมั่นใจว่าการร่วมกันก่อตั้งบริษัท โรสสเตท จำกัด เพื่อพัฒนาธุรกิจทีวีช้อปปิ้งร่วมกัน จะได้ผลการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เนื่องจากบริษัทจะมีการนำเสนอรายการในรูปแบบใหม่ที่จะแสดงให้ผู้ชมได้เข้าถึงและเข้าใจรายละเอียดของสินค้าทุกแง่มุม พร้อมกับสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับสินค้าที่จะนำมาจำหน่าย จะเน้นไปที่กลุ่มสินค้าเพื่อความงามและสุขภาพด้านนวัตกรรมที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของโรสสเตท โดยเบื้องต้นจะนำสินค้าจำนวน 5 รายการเข้ามา ทดลองทำตลาด ประกอบด้วย ฝักบัวอาบน้ำ แบบมีใส้กรอง เครื่องทำโยเกิร์ต หินนวดร้อนภูเขาไฟ แผ่นรองนอน และเครื่องนวดตัว
นางอรพรรณ กล่าวว่า บริษัทจะเริ่มทำการตลาดอย่างจริงจังในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ หลังจากนั้นจะทยอยเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง คาดสิ้นปีมีสินค้าจำหน่ายทั้งหมด 40 รายการ ซึ่งนอกจากจะขายสินค้าในรูปแบบทีวีช็อปปิ้งแล้ว ประมาณช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวช่องทางขายผ่านเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียเพิ่มเติม ขณะเดียวกันก็มีแผนที่จะเปิดช่องทีวีช้อปปิ้งเป็นของตัวเอง โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับบริษัท ซีทีเอช คาดว่าภายในปี 2559 น่าจะได้ข้อสรุป
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมงบ 35 ล้านบาท เพื่อการทำกิจกรรมการตลาดธุรกิจทีวีช้อปปิ้งในช่องทางต่างๆ ที่ทำตลาด ไม่ว่าจะเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายทางทีวีช้อปปิ้งมีเดีย, ร้านค้าปลีก, เว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างการรับรู้ในกลุ่มเป้าหมายหลัก ซึ่งจะเป็นกลุ่มผู้หญิงวัยทำงานและกลุ่มแม่บ้านที่ไม่มีเวลาออกไปจับจ่ายซื้อสินค้าตามร้านค้าหรือตัวแทนจำหน่าย โดยหลังจากออกมาทำตลาดทีวีช้อปปิ้ง บริษัท โรสสเตท คาดว่าสิ้นปี 2558 จะมีรายได้อยู่ที่ 100 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 400 ล้านบาทในอีก 3 ปีนับจากนี้ เนื่องจากมีสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง และมีช่องทางขายใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
นายอมฤต ศุขะวณิช รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจโทรทัศน์แบบตอบรับสมาชิก โดยการให้บริการคอนเทนต์ระดับพรีเมียม ผ่านทุกช่องทางของการรับชม เช่น ระบบดาวเทียม ระบบ IPTV ระบบมือถือ ระบบอินเตอร์เน็ต และเคเบิลทีวี ซึ่งปัจจุบันซีทีเอชมีจำนวนสมาชิกที่เป็นผู้ชมทั่วประเทศกว่า 2.8 ล้านครัวเรือน บริษัทมีความยินดีกับการร่วมมือกับ บริษัท โรส สเตท ในครั้งนี้
เหตุผลที่ทำให้บริษัท ซีทีเอช ตัดสินใจจับมือกับ บริษัท โรสสเตท เพื่อร่วมกันทำธุรกิจทีวีช้อปปิ้ง คือ มองว่าทั้ง 2 บริษัทต่างมีจุดแข็งที่สนับสนุนกัน โดย ซีทีเอช, จีเอ็มเอ็ม บี มีแพลตฟอร์มออกอากาศที่ครอบคลุม ผ่านพันธมิตรที่มีความแข็งแรงต่างๆ เช่น PSI ,RS, Samsung Smart TV, LG Smart TV, AIS , dtac และ Sanook ขณะที่บริษัท โรสสเตท มีจุดแข็งในด้านของสินค้า เนื่องจากจับมือร่วมกับบริษัท ไตร-สเตท อิงค์ ซึ่งมีความแข็งแกร่งในด้านของธุรกิจทีวีช้อปปิ้งในประเทศญี่ปุ่น
สำหรับช่องทางการรับชม Home Shopping ของ โรสสเตท มีอยู่ด้วยกัน 3 ช่อง คือ ช่อง Smile ,ช่อง Family Guide และช่อง Sports Spirit ซึ่งออกอากาศไปทุกแพลตฟอร์ม โดยลูกค้าสามารถรับชมรายการทีวีช้อปปิ้งได้ในเวลา 10.00-11.00 น.และ 14.00-15.00 น. (สลอต 5 นาทีสองครั้ง) และ 24.00-01.00 น. และ 04.00-05.00 น.
นอกจาก ซีทีเอชจะดูแลเรื่องการออกอากาศ และกลยุทธ์ทางผังรายการแล้ว ยังให้ความสำคัญเรื่องของระบบคอลเซ็นเตอร์ ที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด สามารถรับคำสั่งซื้อแล้วจัดส่งสินค้าภายใน 3-5 วันทั่วประเทศไทย โดยลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านบัตรเครดิต หรือ จัดส่งสินค้าเก็บเงินปลายทาง ระบบเก็บข้อมูลลูกค้าเมื่อโทรมาแล้ว สายอาจจะไม่ว่าง แล้วทางระบบจะติดต่อกลับไปอีกครั้ง ในกรณีที่ลูกค้าอาจจะต้องการใช้สินค้าเพิ่ม นอกเหนือจากนี้ ซีทีเอชยังมีฐานข้อมูลลูกค้าทั้งในฝั่งของ ซีทีเอช, จีเอ็มเอ็ม บี จำนวนมากที่จะช่วยสนับสนุนการขายสินค้าโดยใช้ระบบเทเลเซลล์(TeleSale)ได้อีกด้วย
ด้าน นายยูทาโร่ ซูซูกิ ประธานบริหาร บริษัท ไตร-สเตท อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า การร่วมทุนครั้งนี้ ถือเป็นความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้งของประเทศไทย ด้วยความรู้และประสบการณ์แบบมืออาชีพ ของบริษัท โรสสเตท จำกัด ทำให้มั่นใจว่า หลังจากที่ได้ออกอากาศสู่สายตาผู้ชมแล้ว จะสามารถดึงดูดให้ผู้บริโภคชาวไทยเปลี่ยนเทรนด์วิธีการช้อปปิ้งได้อย่างแน่นอน เนื่องจากการสั่งซื้อสินค้ามีความสะดวกสบาย และมีความน่าเชื่อถือในสินค้าและบริการ
นอกจากนี้ การที่คนไทยหันมาให้ความสำคัญกับการซื้อสินค้าผ่านทีวีช้อปปิ้งมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการในธุรกิจมากขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยสร้างกระแสความตื่นตัวให้กับสังคมไทยเกี่ยวกับธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง เนื่องจากตลาดธุรกิจโฮมช้อปปิ้งของประเทศไทยยังสามารถเติบโตได้อีกมาก เมื่อเทียบกับภาพรวมของการบริโภคสินค้า และทำให้ตลาดทีวีโฮมช้อปปิ้งเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถือเป็นช่องทางเลือกสำหรับคนที่ชอบช้อปปิ้งได้อีกทางหนึ่ง
ปัจจุบัน ธุรกิจทีวี โฮม ช้อปปิ้ง ในประเทศไทย มีมูลค่าตลาด 6,000 ล้านบาท และคาดว่าปี 2558 จะมีมูลค่าตลาดเติบโตขึ้นเป็น 8,000 ล้านบาท ดังนั้นประเทศไทยต้องมีใบอนุญาตสำหรับการทำธุรกิจโฮม ช้อปปิ้งทีวี เพื่อช่วยกลั่นกรองธุรกิจที่ดีและไม่ดีออกจากกัน จากที่มีสินค้าจำนวนไม่น้อยที่หลอกลวงประชาชน ทำให้คนไม่กล้าซื้อของผ่านช่องทางนี้
ดังนั้น หากสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สนับสนุนให้มีใบอนุญาต ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใดก็ตาม จะช่วยให้เอสเอ็มอีมีช่องทางขายสินค้ามากขึ้น ขณะที่เอกชนเองก็มีการก่อตั้งสมาคมทีวีโฮมชอปปิ้ง (ประเทศไทย) เพื่อดูแลผู้บริโภคให้ได้รับสิทธิอันชอบธรรมจากการใช้บริการโฮมช้อปปิ้ง ยกระดับการประกอบการธุรกิจโฮมชอปปิ้งไทยให้มีประสิทธิภาพ หากทั้ง 2 ฝ่ายช่วยกันผลักดันธุรกิจเชื่อว่าธุรกิจโฮมช้อปปิ้งหรือทีวีช้อปปิ้งของไทยต้องมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน
ข่าวเด่น