แม้ว่าช่วงนี้จะไม่ใช่หน้าขายของกลุ่มสินค้าเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องทำน้ำร้อน แต่การออกมาเปิดเกมรุก เพื่อชิงยอดขายก่อนถึงช่วงหน้าขายปลายปี ถือว่าเป็นการปูทางยอดขายที่ดีอีกกลยุทธ์หนึ่ง เพราะในอนาคตข้างหน้าไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าจะมีปัจจัยลบอะไรเกิดขึ้นมาบ้าง
ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าว บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย จำกัด จึงเล็งเห็นโอกาสที่คู่แข่งในตลาดยังคงซุ่มเงียบ จึงออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าทำตลาดทันที เพื่อทยอยสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ ภายหลังจากปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ด้วยการมียอดขายเติบโตสูงถึง 26% สวนกระแสภาพรวมตลาดเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องทำน้ำร้อน ที่เติบโตติดลบ 5-6%
ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ภาพรวมตลาดเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องทำน้ำร้อน ในปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตติดลบ คือ ปัจจัยความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปี ปัจจัยดังกล่าวถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศชะลอตัว และส่งผลให้หลายธุรกิจต้องอยู่ในสภาวะผลประกอบการติดลบ เนื่องจากผู้บริโภคขาดความมั่นใจที่จะออกมาจับจ่ายใช้สอย ขณะที่นักธุรกิจเองก็ขอเวลาจับตาดูสถาการณ์ทางการเมือง และภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทย
หลังจากผ่านเหตุการณ์เลวร้ายในปี 2557 มาได้ แถมยังมียอดขายเติบโตสวนกระแสภาพรวมเศรษฐกิจทรุด ทำให้ สตีเบล มีกำลังใจที่จะสู้ต่อในปีนี้ ด้วยการเร่งออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าทำตลาดตั้งแต่ไก่โห่ เพื่อชิงยอดขายในช่วงเวลาที่คู่แข่งกำลังวางแผน
นายโรนัลด์ เฮิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย จำกัด กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่องประมาณ 7 รุ่น แบ่งเป็นกลุ่มสินค้าเครื่องทำน้ำอุ่น 3 รุ่น เครื่องทำน้ำร้อน 2 รุ่น และเครื่องกรองน้ำอีกประมาณ 2 รุ่น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า
ขณะเดียวกันก็จะทำกิจกรรมส่งเสริมการขายรวมไปถึงการหันมาฝึกอบรมพนักงานขายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะยอดขายที่เพิ่มส่วนใหญ่มาจากพนักงานขาย ดังนั้น สตีเบล จึงจะหันมาให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงานขาย
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นการขยายช่องการจัดจำหน่ายผ่านห้างค้าปลีก หรือตัวแทนจำหน่าย ซึ่งปัจจุบันมีอยู่กว่า 200 รายทั่วประเทศ
พร้อมกันนี้ ยังมีแผนที่จะเดินหน้าขยายตลาดการส่งออกควบคู่ไปกับการทำตลาดในประเทศ หลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีกับการส่งออก โดยในปีที่ผ่านมา สตีเบล มีสัดส่วนการส่งออกที่ 34% คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 220 ล้านบาท รวมกว่า 97,000 ยูนิต
จากความต้องการที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ สตีเบล มีแผนที่จะใช้งบอีก 15-20 ล้านบาท ขยายโรงงานแห่งที่ 2 ใกล้กับแห่งเดิมที่ จ.อยุธยา เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวในอนาคต เนื่องจากมีแผนที่จะขยายตลาดส่งออกและขยายตลาดในประเทศ
อย่างไรก็ดี นอกจากจะเพิ่มกำลังการผลิตในส่วนของเครื่องทำน้ำอุ่นและเครื่องทำน้ำร้อนแล้ว สตีเบลยังมีแผนที่จะเพิ่มไลน์ผลิตในกลุ่มสินค้าเครื่องกรองน้ำ จากเดิมนำเข้าจากประเทศเกาหลี ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า จากปัจจุบันโรงงานแห่งเดิมมีกำลังการผลิตเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องทำน้ำร้อน อยู่ที่ประมาณ 2.8-3.5 แสนเครื่องต่อปี
นายโรนัลด์ กล่าวว่า ตลาดเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องทำน้ำร้อน ของสตีเบลในกลุ่มเอเชียแปซิฟิก ปีที่ผ่านมามีรายได้กว่า 1,800 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมทั่วโลกมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 17,000 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของรายได้หลักของภูมิภาคเอเชียอันดับ 1 มาจากประเทศไทย ตามด้วยฟิลิปปินส์ และฮ่องกง แต่หากมองในด้านของอัตราการเติบโต ประเทศฟิลิปปินส์และฮ่องกงจะมีอัตราการเติบโตสูงกว่า เนื่องจากตลาดลูกค้าปัจจุบันยังเล็กสามารถขยายตลาดได้อีกมาก
หลังจากเดินหน้าออกมาทำการตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ สตีเบลคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้เติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่ 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 970 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการส่งออก 34% และรายได้ภายในประเทศ 66%
นายโรนัลด์ กล่าวต่อว่า ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่บริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศจะชะลอตัว แต่บริษัทก็สามารถมีรายได้เติบโตสวนกระแสภาพรวมตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นและเครื่องทำนำร้อนได้ในปีที่ผ่านมา เพราะบริษัทเน้นจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพ และมีตัวแทนจำหน่ายที่มีความแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ การที่ สตีเบล หันมาขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านห้างไฮเปอร์มาร์เก็ต อย่างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และเทสโก้ โลตัส เพิ่มเติมห้างละ 40 สาขา รวมเป็น 80 สาขา เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในด้านของช่องทางการจัดจำหน่าย จึงทำให้ปีที่ผ่านมา สตีเบล ประสบความสำเร็จสวนกระแสภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัว
ความสำเร็จที่ได้รับดังกล่าวอีกส่วนหนึ่ง เกิดจากนโยบายการดำเนินธุรกิจที่เน้นใน 3 เรื่องหลัก คือ 1.คุณภาพ ทุกครั้งที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ขึ้นมา สตีเบลจะใช้งบลงทุนถึงเกือบ 30% ของต้นทุนโครงการในการประกันคุณภาพ คุณภาพของเราจะเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบเรื่อยไปจนถึงขั้นตอนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งวัสดุและส่วนประกอบทุกชิ้นจะผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าชิ้นส่วนเหล่านั้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีความแข็งแกร่งทนทานมากเกินพอสำหรับการใช้งาน
เรื่องที่ 2 ที่ให้ความสำคัญ คือ การวิจัยและพัฒนา ก่อนที่จะผลิตสินค้าออกมาทำตลาด สตีเบลจะมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิจัยและพัฒนามุ่งมั่นผลิตเครื่องทำน้ำอุ่นและเครื่องเป่ามือที่ช่วยประหยัดพลังงานสูงสุดและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด ด้วยการทดสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ก่อนนำเข้ามาทำตลาด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
สำหรับเรื่องสุดท้ายที่ สตีเบล ให้ความสำคัญ คือ สิ่งแวดล้อม ทุกผลิตภัณฑ์ของสตีเบล ได้รับการออกแบบมาให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกด้าน กรรมวิธีการผลิตได้รับการออกแบบมาให้ใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าและก่อให้เกิดของเสียน้อยที่สุด เพื่อเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและช่วยผู้บริโภคประหยัดเงินค่าไฟในกระเป๋า ดังนั้นในกระบวนการผลิต สตีเบลจะใช้วัสดุที่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ให้มากที่สุด เพื่อเป็นการลดปริมาณขยะให้เหลือน้อยที่สุดในระยะยาว
การออกมารุกตลาดก่อนคู่แข่งในครั้งนี้ จะช่วยให้ สตีเบล มีรายได้สวนกระแสภาพรวมเศรษฐกิจที่ปีนี้ยังอยู่ในภาวะชะลอตัวได้หรือไม่ ยังเหลือเวลาอีกครึ่งปีเศษให้ค่อยๆ สะสมรายได้ไป ส่วนจะเติบโตกี่เปอร์เซ็นเตอร์ คงต้องรอดูคู่แข่งในตลาดว่าจะมีหมัดเด็ดอะไรมาชิงยอดขาย
ข่าวเด่น