การตลาด
สกู๊ป"ค่ายทีวีเกาหลี" โหมเปิดตัวสินค้าใหม่ ชิงแชร์ยอดขาย


แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจของไทยในขณะนี้จะยังฟื้นตัวในทิศทางที่ไม่ดีนัก แต่สำหรับตลาดรวมทีวีในประเทศไทย ถือว่ายังมีอัตราการเติบโตที่ดี  เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากการเปลี่ยนผ่านของระบบการออกอากาศโทรทัศน์ในประเทศไทยจากระบบอะนาล็อคสู่ระบบดิจิทัล ประกอบกับคนไทยมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป คือ หันมารับชมทีวีที่มีขนาดจอใหญ่มากขึ้น จึงทำให้ตลาดรวมทีวีตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้มีความคึกคักอย่างต่อเนื่อง

จากปัจจัยบวกที่ได้รับดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าออกมาเปิดตัวทีวีรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่ที่เห็นว่ามีการแข่งขันที่รุนแรงมากหน่อย ก็คงจะหนีไม่พ้น 2 แบรนด์ดังจากประเทศเกาหลี ที่ต่างออกมาขับเคี่ยวเปิดตัวสินค้าใหม่กันอย่างต่อเนื่องในระยะเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งกลยุทธ์ที่ทั้ง 2 ค่ายดึงออกมาใช้  เพื่อกระตุ้นยอดขายตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา คือ การเปิดตัวทีวีนวัตกรรมใหม่ทั้งในด้านของเทคโนโลยีใหม่ ดีไซน์ใหม่  และคุณภาพรวมของภาพที่มีความคมชัดมากขึ้น

 

นายอัศวิน ชูสถาพรกุล  ผู้จัดการอาวุโสธุรกิจภาพและเสียง บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า  ภาพรวมตลาดทีวีในปีนี้ ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเทรนด์ของผู้บริโภคที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากในปีนี้มีอยู่ด้วยกัน 3 ข้อ คือ 1.ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญดีไซน์ของทีวีมากขึ้น 2. มองหาทีวีที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทดีไวซ์อื่นๆ อย่างสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างดีไวซ์ได้อย่างง่ายดาย รวมถึง 3.ผู้บริโภคจะยอมจ่ายแพงขึ้น เพื่อเป็นเจ้าของทีวีที่มาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุด

นอกจากนี้ ผลการสำรวจของ Samsung Segmentation Research  ยังพบว่าปัจจัยในการเลือกซื้อทีวีนั้น ผู้บริโภคจะพิจารณาจากคุณภาพของภาพเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือขนาดหน้าจอ ซึ่งในปัจจุบันผู้บริโภคมักจะซื้อทีวีขนาด 40 นิ้วขึ้นไป ซึ่งเราจะเห็นแบรนด์ต่างๆ หันมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคมากขึ้น จากปี 2556 ที่ทุกคนเริ่มรู้จักยูเอชดีทีวี และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคจนเกิดเป็นเทรนด์ที่มีแนวโน้มขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ด้วยอัตราการเติบโตของตลาดกว่า 400% (ปี 2558 เทียบกับ 2557)

สำหรับปีนี้เทคโนโลยีทีวีใหม่ล่าสุดที่เกิดขึ้นมาในตลาด คือ เอสยูเอชดี ทีวี ที่จะมาปฏิวัติรูปแบบการรับชมทีวีอย่างไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งในส่วนของซัมซุงก็มีการเปิดตัวสินค้าเทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเช่นกัน   ด้วยรายละเอียดภาพคมชัดสูงสุดระดับซูเปอร์อัลตร้าเอชดี (Super Ultra High Definition - SUHD )  ทำให้ ซัมซุง มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในการทำตลาดเอสยูเอชดีในประเทศไทย

 

ล่าสุด ซัมซุง ได้เปิดตัว “ซัมซุง เอสยูเอชดี ทีวี (Samsung SUHD TV)”  เข้าทำตลากชูจุดเด่นในด้านของเทคโนโลยีรายละเอียดภาพสูงสุดระดับซูเปอร์อัลตร้าเอชดี ที่สามารถแสดงเฉดสีในธรรมชาติได้มากกว่าเดิมถึง 64 เท่า พร้อมเทคโนโลยี นาโนคริสตัล (Nano Crystal) ให้สีสันสมจริงทุกรายละเอียด รวมถึงมีเทคโนโลยีช่วยปรับความสว่างของภาพมากกว่าทีวีระบบยูเอชดีถึง 2.5 เท่า และให้ภาพมีมิติ สีดำยิ่งดำสนิท สีขาวก็สว่างใสขึ้น มาพร้อมดีไซน์สวยหรูด้วย Grand Chamfer Design ที่ช่วยเพิ่มความลึกของหน้าจอ

พร้อมกันนี้ ยังได้มีการนำลวดลายพลิ้วไหวด้านหลังแบบ Shirring Design  ซึ่งมาพร้อมระบบปฏิบัติการไทเซน (Tizen operating system) ที่ช่วยให้ผู้บริโภคเชื่อมต่อคอนเทนต์ระหว่างสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต กับสมาร์ททีวีได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว  ซึ่งเบื้องต้นได้ทำการเปิดตัวเอสยูเอชดี ทีวี จำนวน  7 รุ่น มาทดลองทำตลาด  แบ่งเป็นจอโค้ง 5 รุ่น และจอแบน 2 รุ่น เริ่มต้นที่ขนาดหน้าจอ 55 – 105 นิ้ว ราคา 109,990 – 3,999,990 บาท

นายอัศวิน กล่าวต่อว่า การที่ผู้บริโภคมีความต้องการความบันเทิงที่มากขึ้น และต้องการทีวีจอใหญ่ขึ้นและชัดขึ้นเรื่อยๆ บริษัทมองว่าในอนาคตยูเอชดี ทีวี รวมถึงเอสยูเอชดี ทีวี จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของทีวีในเมืองไทย และจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 50% ของตลาดทีวีรวมใน 5 ปีข้างหน้าอย่างแน่นอน

ในด้านของแผนการทำตลาด ซัมซุงจะมุ่งเน้นการสื่อสารทางการตลาดแบบครบวงจร  การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านภาพยนตร์โฆษณา  และจัดกิจกรรมโรดโชว์  รวมไปถึงการขยายช่องทางการทำตลาด  ซึ่งในส่วนของการทำตลาดกลุ่มสินค้ายูเอชดี ทีวี จะเน้นการจำหน่ายสินค้าผ่านร้านค้าระดับพรีเมียมทั่วประเทศ

ขณะเดียวกัน  ก็มีแผนที่จะปรับปรุงหน้าร้านใหม่กว่า 100 ร้านค้า เพื่อจำลองเป็นห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งอย่างทันสมัยเพื่อเชิญชวนให้ผู้บริโภคเข้ามานั่งชมและสัมผัสประสบการณ์ตรงจากผลิตภัณฑ์ ทั้งยังเน้นด้านการจัดเทรนนิ่งหนักงานขาย  ด้วยการให้ความรู้ด้านการนำเสนอผลิตภัณฑ์อย่างน่าสนใจและเพิ่มทักษะทางด้านสื่อสาร พร้อมกันนี้ซัมซุงยังเปิดตัวแอพพลิเคชันใหม่ “Samsung TV For You” เพื่อช่วยผู้บริโภคในการเลือกซื้อทีวีได้ตรงกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของตนเอง  ซึ่งหลังจากเปิดตัวสินค้าดังกล่าวเข้าทำตลาด ซัมซุงมั่นใจว่าจะได้ผลการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

      

 

ด้าน แอลจี  ก็ออกมาเปิดตัวทีวีรุ่นใหม่ล่าสุด "LG SUPER UHD TV"  ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “สีสดสวยกว่า เต็มตาทุกเฉดสี ราวกับมีชีวิต” โดยรุ่นที่นำมาเปิดเป็นไฮไลท์  คือ  UF950T  โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี ColorPrime ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการแสดงเฉดสีบนหน้าจอให้กว้างขึ้น การแสดงสีสันที่ทำได้เต็มสเปกตรัม  ส่งผลให้เนื้อสีที่ปรากฏบนหน้าจอมีความบริสุทธิ์ มิติของภาพมีความสมจริงยิ่งขึ้น

นายอลงกรณ์ ชูจิตร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในฐานะที่แอลจีเป็นผู้นำตลาดทีวีระดับโลก บริษัทรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอประสบการณ์การรับชมทีวีเหนือระดับให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย ด้วยคุณภาพของภาพที่สมจริงราวมีชีวิต การออกแบบที่สง่างามและฟีเจอร์การใช้งานสุดอัจฉริยะที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ เรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า LG SUPER UHD TV จะสร้างอรรถรสในการรับชมที่สมบูรณ์แบบให้แก่ผู้บริโภค

นอกจากนี้ LG SUPER UHD TV รุ่น UF950T ยังมีฟีเจอร์อัจฉริยะอย่าง 4K Upscaler ที่ยกระดับคุณภาพของคอนเทนต์ต่างๆ ให้คมชัดเทียบเท่า 4K รวมถึงเทคโนโลยี HEVC Decoder ที่สามารถเล่นคอนเทนต์ความละเอียด 4K จากแหล่งข้อมูลภายนอกต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับชมภาพสามมิติ UF950T ยังมาพร้อมเทคโนโลยี 4K 3D ULTRA HD มอบภาพสามมิติที่รับชมได้สบายตาที่สุด ภาพไม่กระพริบ สว่างสดใส ภาพสามมิติลอยเด่น สมจริง มีชีวิตชีวา

 

หลังจากเปิดตัว LG SUPER UHD TV เข้าทำตลาด แอลจีมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคชาวไทย เนื่องจากตลอดทั้งปีได้เตรียมงบการตลาดรวมสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ทีวีประมาณ 400  ล้านบาท เพื่อทำกิจกรรมส่งเสริมการขายและโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าในกลุ่มทีวีอย่างต่อเนื่อง โดยสิ้นปีมั่นใจว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 25%  จากปัจจุบันมีอยู่ที่ 20% หรือมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 9,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท

จากการออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดการณ์ว่าภาพรวมตลาดทีวีในช่วงไตรมาส 2 นี้น่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% และมีความต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี หากไม่มีปัจจัยลบเข้ามากระทบกำลังซื้อของผู้บริโภคให้ชะลอตัวเสียก่อน


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 11 พ.ค. 2558 เวลา : 10:44:00
25-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2024, 10:33 am