ท้องฟ้าเปิด... แดดจ้ามาแรงในช่วงเช้าของวันเดินทางกองบรรณาธิการ AC NEWS ได้รับการเชื้อชวนจากเจ้าหน้าที่สายการบินไทยสมายล์ เพื่อร่วมทริปการเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ บินตรงจากสุวรรณภูมิสู่นราธิวาส 

ก่อนการเดินทาง กับคำถามที่ว่ากล้าไปด้วยกันมั๊ย สำหรับใครหลายคนอาจคิดแล้วคิดอีก แต่สำหรับฉันแทบจะตอบรับในทันที ด้วยเพราะเหตุผลเพียงสองข้อ ข้อแรกคือ ไม่ได้ไปเยือนนานนับสิบปี และข้อสองที่สำคัญคือ อยากรับรู้วิถีวัฒนธรรม วิถีชีวิตชุมชน ความเป็นอยู่ ท่ามกลางชุดลายพรางนั้นเป็นอย่างไร ?

ใช้เวลาราวหนึ่งชั่วโมงเศษ คณะเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนเกือบห้าสิบชีวิต ก็มาถึงสนามบินนราธิวาส 

เมืองนราธิวาส หรือบ้านบางนรา หรือมะนาลอ เป็นหมู่บ้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางนรา ติดกับทะเลอ่าวไทย รัชสมัยรัชกาลที่ 6 ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาถึงและได้พระราชทานชื่อ นราธิวาส แปลว่า ที่อยู่ของคนดี 

ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ใช้ภาษายาวีเป็นภาษาพูดและภาษาเขียนในชีวิตประจำวัน โดยมีต้นกำเนิดมาจากภาษามลายู ส่วนภาษาพูดนำสระและพยัญชนะจากภาษาอาหรับมาใช้ประกอบกัน 

นั่นทำให้เมื่อคุณซาร่า - ธันยพัต เจริญรัตนภัทร์ จาก Yaskin Travel & Tour ( Thailand) Co.,Ltd สาวมุสลิมอารมณ์ดีซึ่งรับหน้าที่เป็นไกด์พาเที่ยวในครั้งนี้ ส่งภาษาทายทักกับคนพื้นถิ่นและทีมงานแต่ละครั้งเร็วระรั่วจนฉันไม่คุ้นชินแม้สักน้อยนิด 

หาดนราทัศน์    

หาดนราทัศน์ คือสถานที่แรกของการเปิดทริปเที่ยวเมืองนราฯ รถตู้เคลื่อนขบวนอย่างช้าๆ จากตัวเมืองไปตามถนนสายพิชิตบำรุงราว 1 กิโลเมตรก็ถึงถนนเลียบชายหาด หนุ่มสาวมุสลิมเดินกันขวักไขว่ รถเข็นพ่อค้าแม่ขายจอดเรียงรายริมทางไม่ต่างจากชายหาดภาคอื่นๆ ร้านอาหารตั้งโต๊ะบนผืนทราย เด็กน้อยวิ่งประคองว่าวตัวใหญ่ขึ้นฟ้า  

หาดนราทัศน์ มีชายหาดขาวสะอาดยาวราว 5 กิโลเมตรซึ่งไปสิ้นสุดที่ปลายแหลมด้านปากแม่น้ำบางนรา บริเวณซึ่งถูกกำหนดให้จัดการแข่งขันเรือกอและเป็นประจำทุกปี 

ก่อนถึงหาดนราทัศน์จะพบมัสยิดกลาง ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจของคนไทยมุสลิม ถือเป็นมัสยิดประจำจังหวัดสร้างเมื่อปี 2524 รูปแบบอาคารสามชั้น สไตล์อาหรับ ชั้นล่างเป็นห้องประชุมใหญ่ มีห้องละหมาด 2 ชั้น บนยอดเป็นโดมขนาดใหญ่มีหอสูงสำหรับส่งสัญญาณ (อาซาน) เรียกชาวมุสลิมเข้ามาละหมาด 

ใกล้เคียงมีคลองโคกเคียนเป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนชาวประมง มีโครงการเลี้ยงปลากะพงในกระชังของกลุ่มชมรม อพม.นราธิวาส ทำให้ฉันได้เห็นบรรยากาศของวิถีชาวมุสลิมริมน้ำยามอาทิตย์ใกล้อัสดงสงบงามต้อนรับวันแรกของการเดินทาง

ก่อนกลับที่พัก มีโอกาสแวะชิม รอมฎอมข้าวเกรียบสดทอด ( กรือโป๊ะ ) ที่ตั้งเรียงรายหลายเจ้าข้างทาง ที่นี่ ฉันสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากคนพื้นถิ่นด้วยรอยยิ้มที่มากด้วยอัธยาศัยไมตรี นอกจากจะลดแลกแจกแถมแก่ผู้มาเยือนแล้ว ยังหยิบใส่ถุงติดไม้ติดมือให้ได้ชิมกันอร่อยถ้วนหน้า  

ตอนต่อไปจะนำเสนอวัดพิทักษ์แผ่นดิน จะเป็นอย่างไรเชิญติดตามค่ะ