ช่วงนี้แฟนฟุตบอลอังกฤษก็ต้องพูดถึง "สตีเวน เจอร์ราร์ด" กัปตันทีมลิเวอร์พูลที่กล่าวคำอำลาอาลัยกับกองเชียร์ในสนามแอนฟิลด์ไปเมื่อวันเสาร์ และอำลาไปด้วยการที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ คริสตัล พาเลช 1-3
หากจะให้สวยกว่านี้ หลายคนมองว่า เจอร์ราร์ดซึ่งอายุจะครบ 35 ปี ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ น่าจะประกาศแขวนสตั๊ดไปเลยดีกว่า แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรที่เขายังอยากเตะฟุตบอลอยู่ จึงย้ายไปเล่นให้แอล.เอ.แกแล็กซี ในเมเจอร์ลีก สหรัฐ
สำหรับ เจอราร์ด นอกจากสาวกลิเวอร์พูลจะชื่นชอบเขาแล้ว แม้แต่คนที่ไม่ได้ชอบลิเวอร์พูลเป็นพิเศษ (รวมทั้งตัวผู้เขียนเอง) ก็ยอมรับนับถือในการเป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง ซึ่งจะหานักเตะที่จงรักภักดีแบบนี้ได้ยากแล้ว โดยเฉพาะกับทีมใหญ่ๆ
เพราะวงการฟุตบอลปัจจุบันเป็นธุรกิจเต็มตัว ความผูกพันกับสโมสรต้นสังกัดจึงมีน้อย สโมสรใหญ่ต้องการความสำเร็จระดับแชมป์ ก็ใช้เงินซื้อนักเตะเก่งๆ มาร่วมทีม ขณะที่ตัวนักเตะเองซึ่งก็หาเลี้ยงชีพจาการเตะฟุตบอล ต้องการความก้าวหน้ามีทั้งชื่อเสียงและเงินทองเลยต้องย้ายไปเล่นให้ทีมใหญ่ๆ
ในขณะเดียวกันสโมสรเล็กๆ ก็อยู่ในภาวะที่ต้องยอมรับการขายนักเตะเก่งๆ ของตน เพราะจะได้เงินก้อนโตมาบริหารสโมสรต่อ
ในสโมสรใหญ่ มีศูนย์ฝึกนักเตะเยาวชนที่ได้มาตรฐาน แต่ก็กลายเป็นว่าฝึกผู้เล่นให้สโมสรอื่นเอาไปเล่นมากกว่า เพราะทีมตัวเองเต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์ที่ซื้อมา นักเตะดาวรุ่งบางคนต้องไปเล่นให้ทีมเล็กๆ จนโด่งดังจึงถูกซื้อกลับมาเล่นให้ทีมใหญ่
เราจึงอาจจะพบนักเตะที่จงรักภักดีต่อสโมสรแบบเจอร์ราร์ดได้ในระดับดิวิชั่นต่ำลงไปมากกว่าลีกสูงสุด ในขณะที่ลีกสูงสุด หาคนอย่างเขายากเต็มที
ข่าวเด่น