ไอที
"เทคโนโลยีชาร์จไร้สาย" กำลังมา


ในยุคดิจิทัล ที่ผู้คนทั่วโลกพกพาโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์พกพาอื่นๆ เพื่อใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ต โน๊ตบุ้ค กล้องดิจิทัล และอื่นๆ ในเวลาเดียวกันยังจำเป็นต้องพกพาแบตเตอรีสำรอง หรือที่เรียกกันว่า "พาวเวอร์แบงก์" เพิ่มด้วย ซึ่งเวลานี้เทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรีได้พัฒนามาถึงขั้นที่สามารถชาร์จแบบไร้สายได้แล้ว และอนาคตอันใกล้ เราคงจะได้เห็นอุปกรณ์ชาร์จแบตในลักษณะนี้เพิ่มขึ้น ในขณะที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์พีซีทั่วไป ต้องคำนึงถึงปรับผลิตภัณฑ์ของตนให้รองรับการชาร์จแบบไร้สายได้ด้วย
 

 

ทั้งนี้ การชาร์จแบบไร้สายเกิดขึ้นได้โดยใช้หลักการเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าให้เป็นสนามแม่เหล็กแผ่ออกไป ภายในแผ่นชาร์จ หรือ Charging Pad  ซึ่งภายในเป็นขดลวดอาบน้ำยาขดๆ อยู่หลายสิบรอบ ถ้าจ่ายไฟฟ้าเข้าไปจะแผ่สนามแม่เหล็กออกไปยังฝั่งตัวรับที่แปะอยู่ที่ฝาหลังซึ่งเป็นขดลวดแบบเดียวกัน
 
สำหรับมาตรฐานการชาร์จไร้สายที่ใช้กันในขณะนี้ยังมีไม่มากนัก เช่น มาตรฐาน Qi ที่พัฒนาโดยกลุ่มพันธมิตรชื่อว่า  Wireless Power Consortium ซึ่งเป็นการรวมตัวของประมาณ 200 บริษัทในปี 2551 แต่มีความพยายามของกลุ่มอื่นๆ เพื่อพัฒนามาตรฐานใหม่ๆ ด้วย อย่างมาตรฐาน PMA และ A4WP เพื่อไม่ให้ตกขบวนรถไฟเที่ยวสำคัญ หรือโอกาสที่มีแนวโน้มว่า การชาร์จแบบไร้สายจะมาแรง  ดังที่ "การ์ทเนอร์" บริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีชื่อดังของโลก ประเมินไว้ว่า ผู้บริโภคทั่วโลกซื้อมือถือกันประมาณ 1.8 ล้านเครื่องในปี 2557 ที่ผ่านมา และแน่นอนว่า จำเป็นต้องซื้อเครื่องชาร์จแบตพ่วงไปด้วย
 

 

 

ด้านบรรดาผู้ผลิตมือถือค่ายต่างๆ เอง ได้พยายามรวมตัวกันเพื่อสร้างมาตรฐานกลางขึ้น เพื่อให้สามารถใช้ได้กับทุกอุปกรณ์ของทุกค่าย แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ด้าน สหภาพยุโรป(EU) ก็พยายามผลักดันจะให้เกิดเครื่องชาร์จแบบครอบจักรวาลให้ได้ภายในปี 2559 ที่จะถึงนี้
 
คงต้องจับตามองกันต่อไปว่า มาตรฐานกลาง ไม่ว่าจะเป็นจากฝ่ายใดจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ซึ่งหากทำได้ก็จะเป็นผลดีต่อผู้บริโภคตามมา
 
ส่วนอุปกรณ์ชาร์ทไร้สายที่มีขายในท้องตลาดแล้วมีการออกแบบหลากหลาย ทั้งในรูปแบบแผ่น ชาร์จ รูปทรงสี่เหลี่ยมหรือทรงกลม หรือทำในรูปของโคมไฟสวยงามน่าใช้
 
มาดูตัวอย่างเครื่องชาร์จไร้สายที่น่าพกพาไว้ใช้กัน
 

 

-Nillkin Wireless Charger รุ่น Magic Disk II

แท่นชาร์จมือถือไร้สายออกแบบเป็นรูปทรงกลมสวยงาม มีขนาดบาง เล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับใช้ที่บ้านหรือที่ทำงานก็สะดวก เพียงแค่เสียบปลั๊กไฟ หรือต่อ USB ผ่านโน๊ตบุ๊ค ก็สามารถใช้งานการชาร์จแบบไร้สายได้ทันที  น้ำหนัก 75 ได้รับการรับรองมาตรฐาน FCC, CE, RoHS   ราคาเพียง 990 บาท เท่านั้น
 

 

 

-Wireless Charger Lamp รุ่น Phantom

แท่นชาร์จไร้สายพร้อมโคมไฟ LED ถนอมสายตา ราคาเพียง 1,790 บาท
 

 

 

- แผ่นชาร์จไร้สาย WCH10 จากค่ายโซนี่ แต่ต้องใช้คู่กับฝาครอบชาร์จไร้สายสำหรับใส่สมาร์ทโฟนลงไปก่อนวางบนแผ่นชาร์จ
 

 

 

-Wireless Charging Pad รุ่น T100 จากซัมซุง

แท่นชาร์จไร้สาย รุ่นยอดนิยม สามารถใช้ที่บ้านหรือที่ทำงานก็สะดวก เพียงแค่เสียบปลั๊กไฟ หรือต่อ USB ผ่านโน๊ตบุ๊ค ก็สามารถใช้งานการชาร์จแบบไร้สายได้ทันที

ส่วน Wireless Charging Receiver สำหรับเป็นอุปกรณ์รับสัญญาณการชาร์จของสมาร์ทโฟน เพียงเสียบการ์ดชาร์จที่หลังเครื่อง
 
ปัจจุบันมีสมาร์ทโฟนมากกว่า 40 รุ่นที่รองรับการใช้งานแบบไร้สายได้ เพราะผู้ผลิตมือถือชั้นนำของโลกหลายแห่งรวมถึง ซัมซุง โนเกีย เฮชทีซี แอลจี โซนี่ โมโตโลล่า ชาร์ป ฟิลลิป พานาโซนิค แบล็กเบอร์รี่ฯ ได้ตกลงเข้าร่วมเป็นสมาชิกกับทาง WPC (Wireless Power Consotium) โดยบริษัทฯที่เข้าร่วมลงนามจะยึดกรอบมาตรฐานการชาร์จไร้สาย Qi ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ชาร์จไร้สายออกสู่ตลาดให้สามารถใช้ร่วมกันได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นอุปกรณ์การชาร์จไร้สายต่างแบบต่างยี่ห้อกัน
 
ถือเป็นพัฒนาการก้าวหน้าของเทคโนโลยีอีกอย่างที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภคอย่างเราๆ ส่วนจะมีมาตรฐานใหม่ๆ ที่ล้ำกว่าเกิดขึ้นอีกหรือไม่ คงต้องจับตามองกันต่อไป
 

       

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 21 พ.ค. 2558 เวลา : 12:54:05
28-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 28, 2024, 10:39 pm