ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินคนไทยเที่ยวไทยไตรมาส 2 เริ่มดีขึ้น หลังมีปัจจัยหนุนจากภาครัฐ  เผยภาคอีสานแหล่งคนแห่เที่ยวอันดับ 1 ด้านวีซ่าเผยยอดรูดบัตรคนไทยเที่ยวไทยโต 22% ในปี 2557 ด้านนักท่องเที่ยวจีนรูดบัตรในไทยสูงสุดในกลุ่มต่างชาติ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยสถานการณ์ตลาดคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศช่วงไตรมาส 2 ปี 2558 นี้ ว่า โดยภาพรวมมีแนวโน้มเติบโตเป็นบวกได้ในกรอบจำกัด เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศยังมีความเปราะบาง แต่ก็ยังมีแรงหนุนมาจากช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อน ประกอบกับวันหยุดติดต่อกันหลายวันในช่วงไตรมาส 2 นี้  อีกทั้ง สถานการณ์การแข่งขันของธุรกิจบริการด้านท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรมที่ในปัจจุบันมีผู้เล่นในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้การแข่งขันค่อนข้างมีความเข้มข้น

ช่วงปลายไตรมาส 2 จะเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซั่นของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติบางกลุ่ม ผู้ประกอบการจึงหันมาเน้นทำตลาดไทยเที่ยวไทยมากขึ้น ในช่วงที่เศรษฐกิจของไทยมีความเปราะบางเช่นนี้ จึงกดดันธุรกิจบริการด้านท่องเที่ยวของไทยให้ต่างงัดหลากหลายกลยุทธ์ขึ้นมาทำการตลาด เพื่อดึงดูดตลาดไทยเที่ยวไทย ไม่ว่าจะเป็น โปรโมชั่นลดราคาหรือการให้สิทธิพิเศษต่างๆ สำหรับลูกค้า โดยการปรับตัวดังกล่าวน่าจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับธุรกิจที่บางรายที่มีรายรับลดลง เนื่องมาจากการหดตัวตามฤดูกาลท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติบางตลาด  กอรปกับภาครัฐมีมาตรการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องด้วย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุอีกว่า ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2558 นี้ คนไทยมีแนวโน้มเดินทางไปท่องเที่ยวภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากเป็นอันดับ 1 ซึ่งด้วยมีความได้เปรียบในแง่จำนวนประชากรในพื้นที่ ประกอบกับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งผู้คนที่เข้ามาทำงานในพื้นที่กรุงเทพฯ เดินทางกลับภูมิลำเนา และนิยมพาครอบครัวไปท่องเที่ยวพักผ่อนยังจังหวัดใกล้ๆ ในภูมิภาคเดียวกัน ขณะที่ ภูมิภาคที่ได้รับความนิยมอื่นๆ อย่าง ภาคเหนือ มีเชียงใหม่ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมเดินทางไปร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์กันอย่างคึกคัก และมักจะเดินทางต่อเนื่องไปเยี่ยมเยือนจังหวัดใกล้เคียง อย่าง เชียงราย ลำปาง น่าน เป็นต้น                 

“ช่วงต้นไตรมาส 2 ปีนี้ มีอากาศค่อนข้างร้อนกว่าหลายปีที่ผ่าน จึงส่งผลให้แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลได้รับความนิยมในหมู่คนไทยจำนวนมาก และเมื่อประกอบกับบางพื้นที่ อย่างพัทยา (ชลบุรี) และหัวหิน(ประจวบคีรีขันธ์) มีแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น คือ สวนน้ำขนาดใหญ่เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ก็ยิ่งช่วยสร้างความคึกคักเป็นพิเศษในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคตะวันตกช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ “ ศูนย์วิจัยระบุ

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า ในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2558 จะมีคนไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศจำนวนประมาณ 35.10 ล้านคนต่อครั้ง  ซึ่งขยายตัวที่ประมาณ 4.6 %  จากช่วงเดียวกันของปี 2557 ที่เพิ่มขึ้น 1.4 % และอาจจะก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดจากการใช้จ่ายภายในประเทศมูลค่าประมาณ 1.77 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1 %จากช่วงเดียวกันของปี 2557 ที่เพิ่มขึ้น 0.8 % สำหรับการประมาณการข้างต้นนั้น ได้คำนึงปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแรงหนุนจากบรรยากาศภายในของไทยในปีนี้ที่ดีกว่าช่วงไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว และโดยปกติตลาดไทยเที่ยวในช่วงไตรมาส 2 จะคึกคักกว่าไตรมาส 1 แต่ในปีนี้มีประเด็นความท้าทายด้านเศรษฐกิจและภาวะหนี้ภาคครัวของไทยในปัจจุบันที่ส่งผลต่อบรรยากาศการใช้จ่ายของผู้คนบางกลุ่ม จึงทำให้สถานการณ์ตลาดไทยเที่ยวไทยในช่วง

ไตรมาส 2 ปีนี้ อาจจะขยายเพียงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปี 2557 แต่ก็ยังต่ำกว่าการเติบโตที่ 8.6 % ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2556

อย่างไรก็ดี สถานการณ์การเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังต้องติดตามสภาพเศรษฐกิจของไทยที่ยังคงมีความอ่อนไหว ประกอบกับภาวะหนี้ครัวเรือนที่น่าจะสร้างความกังวลต่อการใช้จ่ายใช้ต่อคนไทยบางกลุ่ม และอาจจะกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวของไทยในช่วงนี้ รวมถึงช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของตลาดไทยเที่ยวไทยอีกครั้ง คือ ช่วงปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาว (ปลายไตรมาส 3 ต่อเนื่องไตรมาส 4) นอกจากนี้ ยังคงต้องติดตามประเด็นที่กระทรวงการคลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีเพิ่มกรอบการนำค่าใช้จ่ายด้านท่องเที่ยวภายในประเทศมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลในปีภาษี 2558 โดยสามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 30,000 บาท จากเดิมกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 15,000 บาท

“ซึ่งหากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบก็อาจจะช่วยกระตุ้นกลุ่มคนไทยที่กำลังวางแผนท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือของปี 2558 นี้ ขณะที่ ในส่วนผู้ประกอบการธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของไทย อาจจะต้องพิจารณาปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจกับปัจจัยแวดล้อม เพื่อให้สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วไป หรือกลุ่มประชุมสัมมนา ขณะที่ ก็ควรมีมาตรการรักษาคุณภาพการให้บริการควบคู่ไปด้วย”ศูนย์วิจัยระบุ

ขณะที่ นายสมบูรณ์ ครบธีรนนท์ ผู้จัดการวีซ่าประจำประเทศไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญสำหรับประเทศไทย และเป็นหนึ่งในรายได้หลักของวีซ่า  จึงสนับสนุนและผลักดันให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่าง ๆ ด้วยจำนวนของนักท่องเที่ยวที่ทยอยเดินทางเข้ามาในประเทศไทยถึงแม้ว่าจะเกิดผลกระทบต่างๆ ขึ้นทั่วโลกก็ตาม วีซ่ายังคงสนับสนุนและผลักดันให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวหน้าของโลกเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น เรา ด้วยฐานผู้ถือบัตรวีซ่าหลายล้านคนทั่วโลก วีซ่าภูมิใจที่มีส่วนส่งเสริมการเติบโตด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเป็นภาคีที่ดีของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ณ วันนี้เรายังคงตั้งหน้าตั้งตาให้การต้อนรับแก่นักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จับจ่ายใช้สอยมากที่สุดที่ได้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยในปี 2557 ได้แก่ นักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวเยอรมันด้วยจำนวนเงินสะพัดที่เพิ่มขึ้นถึง 14  % และ 13 %  ตามลำดับ นอกเหนือจากนักท่องเที่ยวเหล่านี้แล้วนักท่องเที่ยวภายในประเทศยังเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวโดยจำนวนนักท่องเที่ยวไทยภายในประเทศกันเองที่ใช้จ่ายมากถึง จำนวนถึง 22 %  เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2556  ด้วยอานิสงส์นโยบายรัฐบาลที่อนุญาตให้ภาคเอกชนสามารถคืนภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายการท่องเที่ยวภายในประเทศได้ อาทิ ค่าตั๋วเครื่องบินและที่พัก เป็นต้น

ข้อมูลของวีซ่ายังบอกถึงความนิยมชมชอบสำหรับในการใช้จ่ายเงินที่แตกต่างกันของนักท่องเที่ยวจากประเทศต่าง เช่น นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นส่วนมากต่างก็นิยมใช้เงินไปกับกลุ่มร้านอาหาร คิดเป็น 16 %  จากจำนวนการใช้จ่ายทั้งหมด ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ออสเตรเลียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะให้ความสนใจต่อการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) ด้วยจำนวน 11 %  17% และ 18 % ตามลำดับของการใช้จ่ายทั้งหมด ด้านนักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวรัสเซียก็นิยมใช้จ่ายไปกับสินค้าลักชัวรี่ และแบรนด์เนมคิดเป็น 10 %

นอกจากการจัดประเภทการใช้จ่ายดังกล่าวแล้ว นักท่องเที่ยวยังนิยมท่องเที่ยวไปในแต่ละเมืองใหญ่ของประเทศไทยไม่เหมือนกันอีกด้วย ตัวอย่างเช่น นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นส่วนมากนิยมเที่ยวกรุงเทพฯ และเมืองพัทยา ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันและชาวจีนนิยมเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียนิยมเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสและชาวอังกฤษนิยมเที่ยวเกาะสมุย