กองทุนรวม
KSAM เสนอขาย "กองทุน KFFAI6M13" ประมาณการณ์ผลตอบแทน 2.10% ต่อปี


บลจ.กรุงศรี เสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 6M13 (KFFAI6M13) อายุประมาณ 6 เดือน  เสนอขายระหว่างวันที่ 26 พฤษภาคม – 2 มิถุนายน 2558 เหมาะกับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้ที่มีเงินลงทุนสูง  ลงทุนขั้นต่ำ 510,000 บาท  ประมาณการณ์ผลตอบแทน 2.10% ต่อปี   
     

นางสุภาพร  ลีนะบรรจง  รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า “บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 6M13 (KFFAI6M13) อายุประมาณ 6 เดือน   มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เช่น  เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน ,มาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 6%  ตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร  Akbank T.A.S. (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 23.50%   ตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร Isbank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 23.5%   ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Vakifbank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 23.5%  และตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร Yapi Kredit bank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 23.5%   ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน  โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 2.10% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน  เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป”  

“กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 6M13 (KFFAI6M13) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้ที่มีเงินลงทุนสูง  ที่ต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก   และต้องการล็อคผลตอบแทนโดยสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน”  
    

“สำหรับอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาครัฐของสหรัฐอเมริกาปรับขึ้น 0.00 – 0.04% โดยที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาวเพิ่มขึ้นมากกว่าอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้น ทั้งนี้ จากบันทึกการประชุมของเฟดบ่งชี้ว่า คณะกรรมการหลายท่านเห็นว่าไม่น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. โดยคณะกรรมการได้มีการวิเคราะห์ถึงปัจจัยที่อาจมีผลให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสแรกอ่อนแอกว่าที่คาด ซึ่งได้แก่ สภาวะอากาศ การลดการใช้จ่ายด้านทุนของกลุ่มธุรกิจพลังงาน และการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ  ซึ่งคณะกรรมการคาดว่าเศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวในระดับปานกลางในช่วงที่เหลือของปีนี้  นอกจากนี้ ประธานเฟดสาขาชิคาโก ได้กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า เฟดควรที่จะตั้งเป้าผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อปรับขึ้นเกินระดับเป้าหมายที่ 2% โดยการคงอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงต้นปีหน้า  ทางด้านอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนในเดือน เม.ย. หลังจากที่ปรับลดลง 4 เดือนติดต่อกัน  ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดโดยเพิ่มขึ้น 0.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน” นางสุภาพร กล่าว

 

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 26 พ.ค. 2558 เวลา : 19:25:58
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 3:29 pm