30 ก.ย. 2558 ครบรอบระยะเวลาการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากที่ต้องจัดเก็บในอัตรา 10% แต่รัฐบาลได้ปรับลดลงเหลือการจัดเก็บในอัตรา 7%
ซึ่งภาษีมูลค่าเพิ่ม เริ่มนำมาใช้ในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2535 โดยนำมาใช้แทนภาษีการค้า ที่มีความซับซ้อนและไม่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งในแต่ละปีภาษีมูลค่าเพิ่มถือเป็นแหล่งรายได้สำคัญของกระทรวงการคลัง
ประเทศไทย ได้ประกาศเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 10% ในปี 2540 เป็นปีที่ประเทศไทยประสบวิกฤตเศรษฐกิจอย่างรุนแรง หรือเรียกว่าวิกฤตต้มยำกุ้ง จนทำให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ได้เข้ามาช่วยไทยกู้วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นและได้เสนอให้มีมาตรการให้ประเทศไทยรัดเข็มขัด และปฏิบัติวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัดในการขึ้น VAT 10%
แต่เมื่อถึงสมัยรัฐบาลนายกรัฐมนตรี ชวน หลีกภัย เข้ามาบริหารประเทศในปีช่วงปลายปี 2540 ได้ประกาศปรับลดอัตราการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มลดลงชั่วคราวมาจัดเก็บในอัตรา 7%
และในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ก็เป็นอีก 1 ปี ที่จะครบเวลาการต่ออายุการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 7% ซึ่งล่าสุด นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า กระทรวงการคลังจะไม่ปรับเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม และจะเสนอให้รัฐบาลขยายเวลาการลดภาษีออกไปอีกอย่างน้อย 1 ปี เพราะการเก็บภาษีของกรมสรรพากรของปีงบประมาณ 2559 ที่สภากำลังพิจารณานั้น อยู่ภายใต้สมมุติฐานไม่เพิ่มแวต โดยยังให้เก็บในอัตราเดิม 7% ซึ่งในส่วนของกระทรวงการคลังเห็นว่าควรขยายเวลาออกไปครั้งละ 1 ปี
รวมทั้งปัจจุบันเศรษฐกิจไทยแม้จะอยู่ในช่วงการฟื้นตัว แต่ยังเปราะบางจากผลกระทบเศรษฐกิจนอกประเทศ ดังนั้นการขึ้นภาษีแวตช่วงนี้จึงไม่เหมาะสม เพราะการเก็บภาษีเพิ่มเป็นการไปดึงเงินออกจากกระเป๋าของประชาชนให้มีน้อยลง ทำให้กระทบการบริโภคและการลงทุนของประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวชัดเจนต่อเนื่อง หากขึ้นภาษีแวต จะทำให้การบริโภคและการลงทุนชะงัก เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวไม่ได้ตามที่กระทรวงการคลังตั้งเป้าหมายไว้ 3.7%
นอกจากนี้ รัฐบาลยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มภาษี เพราะยังเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บได้ โดยในส่วนของกรมสรรพากรก็จะมีมาตรการป้องกันการทุจริตการขอคืนภาษีปลอม และกรมสรรพสามิตได้เข้มงวดสินค้าหนีภาษีและสินค้าลักลอบ
ขณะเดียวกัน กรมภาษี ทั้งกรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร ได้แก้กฎหมายครั้งใหญ่ คาดว่า ภายในปีนี้จะมีผลออกมาบังคับใช้ ทำให้ประสิทธิภาพการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นได้อีกมาก รวมทั้งเงินคงคลังของประเทศยังอยู่ระดับสูงกว่า 100,000 ล้านบาท เพียงพอกับการใช้จ่ายของประเทศ
ข่าวเด่น