ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผย ภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนเดือนพ.ค.ยังอ่อนแอลงต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ขณะที่ส่วนใหญ่เริ่มมีความกังวลต่อรายได้และเงินออม หลังภาระค่าใช้จ่ายและการผ่อนชำระหนี้ยังคงไม่ปรับลดลง หวังเศรษฐกิจฟื้นช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผย ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน (KR-ECI) เดือนพ.ค. 2558 ว่า สัญญาณล่าสุดจากเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะภาพการระมัดระวังการใช้จ่ายของครัวเรือนทั้งในส่วนของสินค้าไม่คงทนและสินค้าคงทน รวมถึงการชะลอลงของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (ที่ไม่รวมราคาในหมวดอาหารสดและพลังงาน) ล้วนตอกย้ำว่า สถานการณ์การบริโภคของภาคครัวเรือนยังอยู่ในภาวะที่ค่อนข้างซบเซา ขณะที่ ผลสำรวจภาคครัวเรือนล่าสุดของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ก็สะท้อนภาพในเบื้องต้นว่า มีครัวเรือนจำนวนมากขึ้นที่กังวลต่อประเด็นค่าครองชีพ
โดยผลสำรวจภาวะการครองชีพของครัวเรือนล่าสุดในเดือนพ.ค. 2558 ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน (KR-ECI) ชะลอลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 มาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนที่ 45.0 จากระดับ 45.8 ในเดือนเม.ย. 2558 ขณะที่ ดัชนีคาดการณ์ที่สะท้อนมุมมองในช่วง 3 เดือนข้างหน้า (3-month Expected KR-ECI) ลดต่ำลงต่อเนื่องไปอยู่ที่ 46.2 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา โดยครัวเรือนส่วนใหญ่ยังคงใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง เนื่องจากรายได้ของครัวเรือนทั้งในและนอกภาคการเกษตรยังไม่ฟื้นกลับมาอย่างเต็มที่จนสามารถชดเชยกับภาระค่าใช้จ่ายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลายครัวเรือนอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงเปิดภาคการศึกษา นอกจากนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีผลโดยตรงต่อภาระการชำระหนี้ต่อเดือนของครัวเรือนมากนัก เนื่องจากการก่อหนี้ระยะยาวมักจะมีการทำสัญญาผูกพันค่างวดไว้ล่วงหน้า
นอกจากนี้ ประเด็นสำคัญที่ได้จากผลสำรวจล่าสุด คือ ครัวเรือนเริ่มมีความกังวลต่อภาวะการออมเงิน ทั้งนี้ ดัชนีที่สะท้อนมุมมองต่อภาวะการออมของครัวเรือนในปัจจุบันและในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ลดลงมาที่ระดับ 48.3 และ 49.1 ตามลำดับ ซึ่งเป็นระดับต่ำกว่า 50 เป็นครั้งแรก
“จากการติดตามภาวะการครองชีพของภาคครัวเรือนตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา พบว่า ความเชื่อมั่นที่มีต่อการใช้จ่ายของครัวเรือนยังคงไม่ฟื้นกลับมาเป็นปกติ แต่กลับเริ่มมีความกังวลต่อการออมมากขึ้นนั้น อาจมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากครัวเรือนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะครัวเรือนในภาคเกษตร และครัวเรือนที่ไม่มีรายได้ประจำ ต่างต้องรับมือกับสถานการณ์ตึงตัวระหว่างรายได้และภาระค่าใช้จ่าย ทั้งในส่วนหนี้สินและรายจ่ายในชีวิตประจำวันส่วนอื่นๆ เป็นเวลานาน อย่างไรก็ดี ความกังวลต่อประเด็นนี้ อาจคลายตัวลง หากเศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น และทำให้กระแสรายได้และภาวะการมีงานทำของภาคครัวเรือนมีความสม่ำเสมอมากขึ้น “ศูนย์วิจัยฯระบุ
ศูนย์วิจัยเปิดเผยอีกว่า ทั้งนี้ ความกังวลอย่างต่อเนื่องต่อภาวะการครองชีพของครัวเรือน เมื่อประกอบเข้ากับสัญญาณล่าสุดจากเครื่องชี้ด้านการบริโภคในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประเมินว่า การบริโภคภาคเอกชนน่าจะยังอยู่ในภาวะที่ค่อนข้างอ่อนแอ โดยอาจจะขยายตัวในระดับไม่สูงมากนักที่ประมาณ 1.2 % ในช่วงครึ่งแรกของปี 2558 ขณะที่ปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในช่วงหลังจากนี้ ก็คือ สถานการณ์ที่หลายครัวเรือนเริ่มมีความกังวลต่อภาวะการออมเงิน ซึ่งน่าจะเป็นผลพวงระยะสั้นจากการที่รายได้ของภาคครัวเรือนยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน อย่างไรก็ดี คาดว่าหากเศรษฐกิจไทยกลับมามีโมเมนตัมการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีแล้ว มุมมองเชิงลบต่อการออมก็อาจจะทยอยผ่อนคลายลงได้ตามลำดับ
ข่าวเด่น