งาน “คอมมาร์ต เน็กซ์เจน 2015”  เปิดฉากแล้ว แบรนด์ไอทีดังขนทัพสินค้าพร้อมโปรโมชั่นเด็ดเพียบ พร้อมจัดโซน E-Sport  ฉลองครบรอบ 4 ปีเกมออนไลน์ชื่อดัง "Hon" เป็นครั้งแรก รวมการแข่งขันเกมชิงเงินรางวัลและของแจกนับล้านบาท คาดโซนเกมดึงคอเกมเข้าชมงานเพิ่ม 20-30% ทำยอดทะลุ 1ล้านคน เงินสะพัดกว่า 2,700 ล้านบาท

นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอทีและดิจิทัล บริษัทเออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า พีเออาร์ไอพีได้จัดงานคอมมาร์ตมาเป็นเวลา 15 ปีแล้ว สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ซึ่งจัดที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันนี้ถึง 21 มิ.ย.ภายใต้คอนเซ็ปต์ "มาคอมมาร์ต ชีวิตสมาร์ท สนุก"

ในด้านของชีวิตสมาร์ทนั้นหมายถึง เรากำลังนำเทคโนโลยีต่าง ๆที่เป็นแก็ดเจ็ตที่เกี่ยวข้องกับการทำให้ชีวิตสมาร์ทมาไว้ในงานด้วย นวัตกรรมที่เป็นไฮไลท์ อาทิ Compute Stick คอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋ว ที่ช่วยแปลงทีวีให้กลายเป็นคอมพิวเตอร์  ,Mini PC และโน้ตบุ๊คที่ใช้ชิป Core M ของอินเทล ที่ประมวลผลโดยใช้พลังงานต่ำมาก และเสริมความสมาร์ทด้วยการจัดเวิร์กชอปจัดเต็มทุกวัน ตั้งแต่แกะกล่องใหม่ ให้ความรู้การค้าออนไลน์ ให้คำแนะนำสำหรับคนที่เข้ามาช้อปปิ้งว่า เทคโนโลยีที่กำลังจะซื้อเหมาะกับเขาหรือไม่

ในส่วนของ "สนุก"  ได้ร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่คือ " บริษัท การีนา ออนไลน์ (ประเทศไทย) จำกัด" เปิดโอกาสให้น้องๆ ที่ร่วมชื่นชอบเกมเข้ามาร่วมสนุกกัน เน้นที่เรื่อง "เกม" เนื่องจากในระยะหลังของการจัดงานพบว่า  อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ในกลุ่มเกมโตขึ้น การจัดงานในครั้งนี้จึงจัดโซนเกมอย่างจริงจังมากขึ้น เป็นโอกาสดีที่ทางการีนาเข้ามาร่วมจัดให้มีความสนุกขึ้น ฉลอง 4 ปี เกม Hon ยิ่งใหญ่ที่สุดในไทย นับว่าในปัจจุบันภาพลักษณ์ของเกมมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไป ผู้เล่นสามารถเล่นเป็นอาชีพ มีรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการแข่งขันเกมได้

อย่างไรก็ดี นายพรชัยกล่าวว่า แม้ปีนี้จะเน้นเรื่องเกม แต่หมวดสินค้าเด่นยังคงมีโน๊ตบุ๊คเป็นหลักอยู่ ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่า 50% โดยในขณะนี้ Core M และวินโดว์ส 10 กำลังมา คนที่เคยซื้อไปเมื่อ 2-3 ปีก่อนถึงเวลาที่จะเปลี่ยนใหม่ ในขณะที่แทบเล็ตไม่สามารถจะมาทดแทนพีซีได้
 
“คาดว่าตัวเอกของยอดขายจะเป็นโน๊ตบุ๊คทั่วไปอยู่ แต่โน๊ตบุ๊คเกมมิ่งจะเพิ่มเข้ามา ส่วนผลิตภัณฑ์เด่นที่น่าจะขายดีรองลงมาได้แก่ อุปกรณ์เสริม (accessory) และด้านเซอร์วิส เช่น บริการภาพยนตร์ออนไลน์จากฮอลลีวูดและไพร์มไทม์”

นายพรชัยยังแสดงความเชื่อมั่นว่า คนไทยยังมีกำลังซื้อ โดยแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจของไทยในช่วงไตรมาสที่ 1 และ 2 ยังซบเซา แต่เชื่อว่าในไตรมาสที่ 3 น่าจะดีขึ้น เนื่องจากผู้บริโภครับรู้และเริ่มชินกับสภาวะดังกล่าวแล้ว อีกทั้งมีนโยบายภาครัฐที่กระตุ้นตลาดเพิ่มขึ้น มีการจัดงานอีเวนต์เพิ่มขึ้น ขณะที่งานคอมมาร์ตเองยังเสมือนดัชนีชี้ทิศทางตลาดได้ว่า การที่โน๊ตบุ๊คและเกมได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น ชี้ได้ว่าตลาดกำลังเริ่มกลับมา หลายบริษัทจึงกระตือรือล้นจะมาทำตลาด มาออกบูธ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี

“งานคอมมาร์ตครั้งนี้คาดจะมีจะมียอดซื้อสะพัดประมาณ 2,700 ล้านบาทใกล้เคียงกับครั้งที่แล้ว เชื่อมั่นว่า คนไทยยังมีเงินในกระเป๋าและจะซื้อเมื่อปรับตัวได้ นอกจากนี้ยังมีตัวหนุนจากโปรโมชั่นที่มากกว่าเดิม การกระตุ้นด้านราคาและมีการเชื่อมโยงกัน เช่น เมื่อซื้อสินค้าครบ 1,000 บาท ให้ชมภาพยนตร์ออยไย์ฟรี 30 วัน เป็นต้น สำหรับจำนวนผู้เข้าชมงานนั้นคาดว่า ส่วนของเกมจะช่วยดึงคนเข้างานเพิ่ม 20-30%  ทำยอดทะลุ 1ล้านคนจากปกติ 7-8 แสนคน"นายพรชัยกล่าว
 

ด้าน นายอัลเลน ซู ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร การีนา กล่าวว่า มาร่วมให้การสนับสนุนจัด E-Sport เป็นครั้งแรกของคอมมาร์ต เพราะเชื่อว่าตลาดเกมจะเติบโต เนื่องจากไทยมีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ที่มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้ใช้อินเทอร์เน็ตไฮสปีดในราคาถูกลงและมีจำนวนผู้เล่นเกมมาก โดยผู้เล่นเกมออนไลน์มีการเติบโต 10%ทุกปี และจากการที่ผู้เล่นต้องเปลี่ยนคอมพิวเตอร์เมื่อใช้งาน 2 - 3ปี การมีโซนเกมจึงเป็นโอกาสดีให้ได้พบคอมพิวเตอร์สเปคใหม่ๆ ที่ต้องการ