กรมการแพทย์ จัดประชุมวิชาการสำหรับแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนาแนวทางการวินิจฉัย รักษาพยาบาล และควบคุมป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีผู้ป่วยสงสัยโรค MERS-CoV
นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการ การวินิจฉัย รักษาพยาบาล และควบคุมป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีผู้ป่วยสงสัยโรค MERS-CoV ว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรค MERS-CoV ในประเทศตะวันออกกลางและสาธารณรัฐเกาหลี พบว่ามีแนวโน้มที่จะระบาดได้มากขึ้น เนื่องจากเป็นโรคที่แพร่กระจายทางละอองฝอย โอกาสในการติดเชื้อและแพร่กระจายของโรคนี้เกิดขึ้นได้กับผู้สัมผัสผู้ป่วยในทุกๆ กลุ่ม เช่น ครอบครัว บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และผู้ป่วยที่รักษาอยู่ในห้องเดียวกันกับผู้ติดเชื้อ เป็นต้น
กระทรวงสาธารณสุขจึงได้มอบให้กรมควบคุมโรค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และกรมการแพทย์ เป็นหน่วยงานหลักในการประสานความร่วมมือดูแลและป้องกัน ตั้งแต่การประเมินความเสี่ยง การเฝ้าระวังและคัดกรอง การสอบสวนและติดตาม ผู้ป่วยสงสัย ในส่วนของกรมการแพทย์ รับผิดชอบด้านการวินิจฉัยดูแลรักษาผู้ป่วยและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล รวมทั้งจัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ให้คำปรึกษาแก่แพทย์ พยาบาล ในการรักษาผู้ป่วยตลอด 24ชั่วโมง
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับมือการระบาดของโรค กรมการแพทย์ จึงจัดประชุมวิชาการเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์แนวทางการวินิจฉัย รักษาพยาบาล และควบคุมป้องกัน การติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีผู้ป่วยสงสัยโรค MERS-CoV ให้แก่ แพทย์ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลทุกสังกัด โดยได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญด้านการวินิจฉัย ดูแลรักษาผู้ป่วยสงสัยโรคอุบัติใหม่ มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการตรวจคัดกรอง ดูแลรักษา และการป้องกันการติดเชื้อผู้ป่วยสงสัย โรค MERS-CoV ซึ่งจะส่งผลให้โรงพยาบาลทุกสังกัดทั้งมหาวิทยาลัย กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และเอกชน เน้นแนวทางในการวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล เพื่อความปลอดภัยของบุคลากรและผู้ป่วยที่เป็นมาตรฐานเดียวกันสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้
แพทย์หญิงนฤมล สวรรค์ปัญญาเลิศ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมการแพทย์ กล่าวว่า ขอแนะนำประชาชนควรงดเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาดของโรค หากมีความจำเป็นต้องเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาด ให้สวมหน้ากากอนามัยให้มิดชิด ล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง และเมื่อกลับมายังประเทศไทย ควรสังเกตความผิดปกติของร่างกายภายใน 14 วัน หากมีอาการไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส ปวดเมื่อยตามร่างกาย ไอ หอบ หายใจเร็ว อาจพบอาการของระบบทางเดินอาหารร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้อาเจียน ถ่ายเหลว ให้รีบพบแพทย์ และแจ้งประวัติการเดินทางแก่แพทย์ที่รักษาว่า เดินทางกลับมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรค MERS-CoV จะทำให้ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและรวดเร็ว ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้
ข่าวเด่น