"ณุศาศิริ" สร้างประสบการณ์เปิดตัวแคมเปญ "ณุศาวัน" เป็นการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท 8 โครงการ จำนวนรวมกว่า 2,403 ยูนิต มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด “One for All All for One” การันตีรายได้ 6.5% ตลอด 9 ปี
นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมที่จะปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขายขึ้นเท่าตัวเป็น 6,000 ล้านบาท และเพิ่มเป้าหมายรายได้ในปีนี้มากกว่าเดิมที่วางไว้ 2,000 ล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมาทำได้ดีกว่าที่คาด หรือ 3,000 ล้านบาท จากการเปิดตัวโครงการ "ณุศา ศรีราชา คอนโดเทล" มูลค่า 1,730 ล้านบาท เมื่อไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างยอดขายกว่า 2,000 ล้านบาท และมั่นใจว่าครึ่งปีหลังนี้จะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ไตรมาส 4 ยังมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ คือ คอนโดมิเนียมใน จ.ภูเก็ต บนหาดรายัน ชื่อ "ดีวารี ซิกเนอเจอร์" มูลค่า 1,130 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเช่นเดียวกับโครงการที่ศรีราชา เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยว ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (แบ็คล็อค) 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในครึ่งปีหลังอีก 2,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปี 2559
พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวแคมเปญ "ณุศาวัน" ซึ่งเป็นการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท 8 โครงการทั่วประเทศ จำนวนรวมกว่า 2,403 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.25-35 ล้านบาทต่อยูนิต รวมมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด “One for All All for One” : ซื้อหนึ่งได้ทุกอย่าง ทั้ง เป็นเจ้าของ มีผลตอบแทน และ ได้ท่องเที่ยว” มีผลตอบแทนที่รับประกันรายได้ 6.5% ตลอดระยะเวลา 9 ปี แบ่งเป็น เงินปันผล 5.5%ต่อปี ที่เหลือเป็น Point 1% ต่อปี พร้อมการันตีจ่ายปันผลทุก 3 เดือน และรับซื้อคืน (Buyback) โดย ณุศาวัน จะรับซื้อคืนในราคาที่ลูกค้าซื้อไป เพื่อเจาะกลุ่มนักลงทุนให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุด
ทั้งนี้ จากจำนวนโครงการทั้งหมดมี 3 โครงการที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ในปี 2558 จำนวน 852 ยูนิต รวมมูลค่า 3,894 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการ Parc Exo เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ อาคาร C,D และ F จำนวน 568 ยูนิต ราคา 2.25-4.5 ล้านบาท ต่อยูนิต มูลค่า 1,347 ล้านบาท 2.โครงการ Up Ekamai กรุงเทพฯ จำนวน 118 ยูนิต ราคา 4.2-15 ล้านบาท มูลค่า 924 ล้านบาท และ 3.โครงการ สเตท ทาวเวอร์ (ชั้น 28-32 และ ชั้น 42-50) จำนวน 166 ยูนิต ราคา 4.5-19 ล้านบาท มูลค่า 1,623 ล้านบาท
ส่วนอีก 5 โครงการ จำนวน 1,551 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ารวม 7,669 ล้านบาท อยู่ระหว่างดำเนินการมีกำหนดสร้างเสร็จและทยอยส่งมอบให้กับลูกค้าในปี 2559-2560 ประกอบด้วย 1.โครงการ ดีวารี ซิกเนเจอร์ ภูเก็ต อาคาร A,B จำนวน 183 ยูนิต ราคา 5-12 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่า 1,138 ล้านบาท 2.โครงการ ดีวารี ซิกเนเจอร์ พัทยา (เฟส 2) จำนวน 340 ยูนิต ราคา 4.7-19 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่า 1,998 ล้านบาท
3.โครงการดีวารี เวลเนส เขาใหญ่ (เฟส 1 จำนวน 93 ยูนิต, เฟส 2 จำนวน 119 ยูนิต) รวม 212 ยูนิต ราคา 5.3-35 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่า 1,115 ล้านบาท 4.โครงการ ณุศา ศรีราชา คอนโดเทล อาคาร B จำนวน 298 ยูนิต ราคา 3.2-18 ล้านบาทต่อยูนิต มูลค่า 1,739 ล้านบาท และ 5.โครงการ ดีวารี ซิกเนเจอร์ เชียงใหม่ จำนวน 518 ยูนิต ราคา 2.6-4.2 ล้านบาท มูลค่า 1,679 ล้านบาท
สาเหตุที่ปีนี้บริษัทเปิดตัวโครงการตามต่างจังหวัด โดยเน้นจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก เพราะมองเห็นศักยภาพของการเจริญเติบโตสูง หลังแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ขณะเดียวกัน จังหวัดที่เลือกพัฒนาโครงการนั้น ก็ล้วนมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครันไม่ต่างจากกรุงเทพฯ ซึ่งทำให้มีความเจริญเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเร็วๆ นี้จะเสนอให้คณะกรรมการบริษัทอนุมัติปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ เพราะว่าแนวโน้มการโอนครึ่งปีหลังนั้นจะมากกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากยังมีอีก 3 โครงการ ที่จะทยอยโอน
ด้านแผนร่วมทุนกับพันธมิตรในกลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อร่วมกันจัดตั้งบริษัทร่วมทุน คาดว่าจะได้ข้อสรุปช่วงไตรมาส 3 นี้ เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทในอนาคตให้มีคุณภาพมากขึ้น
ข่าวเด่น