"แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์" ทุ่ม 3 หมื่นล้าน ยึดทำเลสุขุมวิท 43 ไร่ ผุดคอมมูนิตี้แห่งอนาคต " วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน"

นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุน 30,000 ล้านบาท สร้างคอมมูนิตี้แห่งอนาคต ภายใต้แนวคิด “The Great Good Place” ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทซอย 101 ชื่อ "วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน" ( Whizdom 101) ประกอบด้วย ที่พักอาศัยคอนโดมิเนียม จำนวน 3 อาคาร สูง 40-50 ชั้น ร้านค้าปลีก อาคารสำนักงาน สโมสรกีฬาและสุขภาพ และพื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่ บนพื้นที่ 43 ไร่ ซึ่งเริ่มเปิดให้จองคอนโดมิเนียมอาคารแรก จำนวน 600 ยูนิต ราคายูนิตละ 3.3-10 ล้านบาท หรือตารางเมตรละ 120,000 บาท ขณะนี้มียอดจองซื้อแล้ว 60% คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างปลายปีนี้ และแล้วเสร็จปี 2561

“The Great Good Place” เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน และที่พักผ่อนทำกิจกรรมทางสังคมต่างๆ โดยพื้นที่เพื่อกิจกรรมทางสังคมนี้จะเป็นหัวใจสำคัญ และเป็นปัจจัยความสำเร็จของโครงการ ด้วยการมอบพื้นที่ที่ผู้คนสามารถปลีกตัวออกจากภาระหน้าที่ทั้งเรื่องบ้านและเรื่องงาน มาพักผ่อนหย่อนใจ และมีความสุขกับการพบปะสังสรรค์กับผู้คนในชุมชนได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะมีพื้นที่ในอาคารทั้งสิ้นประมาณ 340,000 ตารางเมตร โดย 1 ใน 3 จะเป็นส่วนที่พักอาศัย และ 2 ใน 3 เป็นพื้นที่เพื่อการพาณิชย์

โดยจะมีพื้นที่ร้านค้าปลีกประมาณ 20,000 ตารางเมตร ถูกออกแบบอย่างสอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ใหญ่ของโครงการ ที่ผสมผสานพื้นที่ในอาคารและพื้นที่นอกอาคาร เข้ากับพื้นที่ว่างสำหรับการทำกิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ รวมถึงพื้นที่สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม

ส่วนพื้นที่สำนักงาน ประกอบไปด้วย พื้นที่ให้เช่าประมาณ 30,000 ตารางเมตร ถูกออกแบบในคอนเซ็ปต์ทันสมัย เปิดโล่ง และเป็นพื้นที่แบบแชร์พื้นที่ทำงานร่วมกัน หรือ co-working space โดยพื้นที่สำหรับสำนักงานจะดึงดูดคนทำงานรุ่นใหม่ ด้วยคอนเซ็ปต์ Innovative Office Park ที่เปิดโอกาสให้คนทำงานได้ทำงานในออฟฟิศที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ แทนที่จะรู้สึกว่าติดอยู่ในอาคารสำนักงาน

ทั้งนี้ วิสซ์ดอม วัน-โอ-วัน จะเป็นสังคมดิจิตอลที่ครบวงจรและสมบูรณ์แบบแห่งแรกของประเทศไทย ที่ซึ่งสำนักงาน ที่พักอาศัย ร้านค้าปลีก และสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่ไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดจะอยู่บนโครงข่ายดิจิตอลแพลตฟอร์มเดียวกัน ทำให้โครงการแห่งนี้มีลักษณะเป็นเมืองดิจิตอลที่เชื่อมประสานกันเป็นเครือข่ายแบบไร้รอยต่อ โดยพื้นที่ทั้งหมดจะสามารถเชื่อมต่อไวไฟ (wifi) ที่มีความเร็วสูงสุดได้ฟรี ทำให้ทุกคนในสังคมแห่งนี้มีอิสรภาพในโลกดิจิตอลแบบไร้ขีดจำกัด

อย่างไรก็ดี บริษัทได้ซื้อที่ดิน 4,000 ล้านบาท จากปิยรมณ์สปอร์ตคลับ เมื่อปี 2556 มาพัฒนาโครงการดังกล่าว และเตรียมงบประมาณอีก 1-1.5% ของเงินลงทุนไว้สำหรับทำการตลาด โดยคาดว่าจะไปโรดโชว์ต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ในช่วงต้นปีหน้าในช่วงที่เริ่มก่อสร้างคอนโดมิเนียม อีก 2 อาคารที่เหลือ นอกจากนี้ ได้ร่วมมือกับร็อคเวล กรุ๊ป ผู้บริหารคลับส่วนตัวชั้นนำของโลก เพื่อสร้าง คลับคอร์ป โดยจะบริหารศูนย์กีฬาและสุขภาพดังกล่าว

ขณะเดียวกัน บริษัทจะสร้างทางเดินเชื่อมต่อจากรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีปุณณวิถี (สกายวอร์ค) มายังโครงการ ระยะทางกว่า 300 เมตร และเลยไปยังปากซอยสุขุมวิท 101 เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ปัจจุบันกำลังขออนุญาตจากกทม. และบีทีเอสในการเชื่อมทางเดิน ซึ่งปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวเพียง 2 โครงการ โดยวัน-โอ-วัน เป็นโครงการแรก ส่วนอีกโครงการคาดว่าจะเปิดตัวช่วงปลายปีนี้ บริเวณตรงข้ามเดอะมอลล์ ท่าพระ