เศรษฐกิจ-บทวิจัยเศรษฐกิจ
คลังจับตา "เศรษฐกิจจีน" หลังส่งสัญญาณชะลอตัว


สัญญาณเศรษฐกิจจีนที่เริ่มเข้าสู่ภาวะชะลอตัว ได้สร้างความกังวลว่าจะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อเศรษฐกิจไทยในปีนี้

 

 

โดย นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ คลัง ยอมรับว่า รัฐบาลกำลังติดตามและจับตาสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศจีน ซึ่งขณะนี้อยู่ในภาวะชะลอตัว อย่างใกล้ชิด เพราะปัจจุบันประเทศไทยมีการส่งออกไปจีนอยู่ในสัดส่วนที่สูง

 


 
 
 
 ด้าน นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ระบุในทิศทางเดียวกันว่า ธปท.อยู่ระหว่างติดตามดูว่า การดำเนินนโยบายการเงินและการคลังของจีนในช่วงที่ผ่านมา จะช่วยดูแลให้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวได้หรือไม่ เพราะถ้าเศรษฐกิจจีนอ่อนแอลงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ อาจมีผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจไทยและอาเซียนได้ 
 
 
 
 
 
 
โดยล่าสุด ธปท. ยังประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ไว้ที่ 6.9% ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายของทางการจีนที่คาดว่า ในปีนี้จะเติบโตได้ราว 7% ขณะที่การส่งออกของไทยในปีนี้ที่ติดลบ -1.5% ธปท.คาดการณ์การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนไว้แล้วระดับหนึ่ง ซึ่งต้องติดตามดูว่ามาตรการต่างๆ ที่จีนนำมาใช้จะได้ผลหรือไม่
 
 
 
 
 
สิ่งที่สะท้อนการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่เห็นได้ชัดเจน ได้แก่ การปรับตัวลดลงของดัชนีในตลาดหุ้นจีนที่ดิ่งลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา โดย นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์จีนที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องภายในระยะเวลา 3 สัปดาห์ ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลต่อความผันผวนและเทขายหลักทรัพย์ 
 
อย่างไรก็ดี ผลต่อเศรษฐกิจจีนล่าสุดยังไม่เห็นผลกระทบที่ชัดเจน แต่หากตลาดหุ้นยังคงปรับลดต่อเนื่อง อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจผ่านความเชื่อมั่นของภาคเอกชนที่ลดลง และความมั่งคั่งของภาคครัวเรือนที่ปรับลดลงทั้งจากเงินออมและมูลค่าราคาทรัพย์สิน ซึ่งจะกระทบต่อการบริโภคของภาคครัวเรือนในระยะต่อไป
 
 
 
 
 และแม้ตลาดหลักทรัพย์จีนที่ปรับลดลง จะส่งผลต่อ Sentiment นักลงทุนอยู่บ้าง แต่ในภาพรวมผลกระทบต่อตลาดเงินโลกยังมีไม่มากนัก สำหรับการลงทุนของนักลงทุนไทยในประเทศจีนส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นการลงทุนในตลาดหุ้นจีนโดยตรง แต่จะเป็นการลงทุนผ่านกองทุน FIF โดยรวมการปรับลดลงของตลาดหลักทรัพย์จีน จึงประเมินว่าน่าจะมีผล กระทบต่อฐานะการลงทุนของไทยค่อนข้างจำกัด แต่ ธปท.ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ด้านคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) เปิดเผยว่า สถาบันสินเชื่อเพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ของจีน (CSF) จะระดมทุนผ่านทางหลายช่องทาง และเพิ่มขนาดทางธุรกิจของสถาบัน เพื่อช่วยหนุนตลาดหุ้นจีนให้มีเสถียรภาพ โดยธนาคารกลางจีนจะให้ความช่วยเหลือสถาบัน CSF ให้สามารถเข้าถึงแหล่งสภาพคล่องได้มากขึ้น ซึ่งทางการจีนได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อพยุงตลาดหุ้นจีนที่ทรุดตัวลงอย่างรุนแรง โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตดิ่งลงประมาณ 29% ในช่วงระยะเวลา 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา 

 

LastUpdate 09/07/2558 01:19:29 โดย : Admin
25-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 25, 2024, 4:23 pm