“Xiaomi” หรือ “เสี่ยวหมี่” บริษัทไอทีสัญชาติจีนที่ได้รับสมญานามว่าเป็น “แอปเปิ้ลแห่งตะวันออก” เพราะในจีนชื่อเสียงของเสี่ยวหมี่โด่งดังไม่แพ้บริษัท “Apple” ของสหรัฐฯ โดยเอาชนะใจผู้ใช้ด้วยสินค้าราคาไม่แพง แต่มีคุณสมบัติระดับสุดยอด รวมถึงใช้วิธีเปิดขายโดยให้ลูกค้าสั่งซื้อโดยตรงจากเว็บไซต์ ซึ่งรองรับลูกค้าทั้งในจีนและประเทศอื่น อย่างอินเดีย บราซิล และรัสเซีย จากนั้นในปี 2557 ที่ผ่านมา ได้เดินเกมเชิงรุกเพื่อขยายตลาดไปยังอีกหลายประเทศ รวมถึงไทย ซึ่งล่าสุดเพิ่งเปิดตัว “Xiaomi Mi4” โดยมีบริษัทไบรท์สตาร์ เป็นผู้จัดจำหน่าย Mi4 แต่เพียงผู้เดียว
“ไบรท์สตาร์” เป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไร้สายรายใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและบริการหลากหลายให้แก่อุตสาหกรรมการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ส่วนไบรท์สตาร์ในไทย เป็นผู้จัดจำหน่ายและให้บริการเสริมอื่น ให้กับวงจรอุปกรณ์ทั้งหมดสำหรับพันธมิตรผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ร้านค้าปลีกและผู้ผลิต
เวลานี้ไบรท์สตาร์ได้นำเอา Xiaomi Mi4 เข้ามาจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในไทยด้วย หลังจากการเปิดให้ Pre-Order ในงาน Thailand Mobile Expo 2015 ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม
โดยเวลานี้สมาร์ทโฟนเรือธงใหม่นี้ได้จำหน่ายแล้วผ่านทางผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทั้ง 3 ค่าย คือ AIS DTAC และ True Move ร้าน TG Fone พันธมิตรออนไลน์อย่าง Lazada และ STREK ตัวแทนจำหน่าย โดย Xiaomi Mi4 มีราคาขายอยู่ที่ 10,990 บาท
ทั้งนี้ตลาดขานรับดีเป็นผลมาจาก Xiaomi Mi4 มีดีไซน์โดดเด่นจากกรอบที่ทำจากสแตนเลส สตีล ทำให้กลายเป็นอุปกรณ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะด้านงานฝีมือ
นอกจากนี้ ยังมีสเปคเครื่องที่น่าสนใจ
-หน้าจอสัมผัสความละเอียด 441 PPI ระดับ Full Hd ขนาดกว้าง 5 นิ้ว ขอบเขตสีระบบภาพ NTSC 95% น้ำหนักเครื่อง 149 กรัม
-ใช้รอมตัวล่าสุดของเสี่ยวหมี่ MIUI v6 รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2
-ทำงานด้วยหน่วยประมวลผล Snapdragon 801 ความเร็ว 2.5GHz แรม 3GB และความจุ 16GB
-แบตเตอรี่ความจุถึง 3,080 mAh รองรับ Quick Charge 2.0
-ความละเอียดกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช Dual LED ,ขนาดภาพสูงสุด 3120 x 4208 พิกเซล (Image Size), โฟกัสอัตโนมัติ (Auto Focus), แตะเลือกจุดโฟกัส (Touch Focus), แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับภาพถ่าย (Geo-Tagging), ค้นหาใบหน้าอัตโนมัติ (Face Detection)และตรวจจับรอยยิ้ม (Smile Detection)
-ความละเอียดกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล (ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังจะมีรูปรับแสงขนาด f/1.8) เปิดรอรับสาย 3G ได้ 280 ชั่วโมง
-มีรีโมทภายในตัว
-รองรับทุกเครือข่าย ทั้ง GSM 850/900/1800/1900 MHz, UMTS 850/900/2100 MHz , LTE Bands 1/3
-เทคโนโลยีการรับ/ส่งข้อมูล ได้ทุกระบบทั้ง 2G: EDGE/GPRS , 3G: HSDPA 21 Mbps, HSUPA 5.76 Mbps และ 4G
นายอนิช ปราศาด ผู้จัดการทั่วไปของไบรท์สตาร์ ประเทศไทย กล่าวว่า จากยอดการสั่งซื้อพรีออเดอร์ที่ล้มหลาม เสมือนเป็นพลังขับเคลื่อนให้ต่อไปจะหาสมาร์ทโฟนใหม่ๆ ระดับไฮเอนด์มาให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสเลือกมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่า ตลาดในไทยจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับ Xiaomi ได้พอสมควร ซึ่งในปี 2558 นี้ Xiaomi มุ่งขยายตลาดอย่างหนักและตั้งเป้ายอดขายทั้งปีไว้ที่ 100 ล้านเครื่อง โดยในรอบครึ่งปีทางบริษัทเผยข้อมูลออกมาแล้วมียอดขายที่ 34.7 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) ถึง 33% ขณะที่ 70% เป็นการซื้อผ่านหน้าร้านออนไลน์
ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่า ไทยจะมีส่วนช่วยดันยอดขายสมาร์ทโฟน Xiaomi ให้ทะลุเป้าได้หรือไม่
ข่าวเด่น