หุ้นทอง
ไดอิ กรุ๊ป เคาะราคา 4 บาท พร้อมเทรด mai 23 ก.ค.นี้




ไดอิ กรุ๊ป เคาะราคา IPO ที่ 4.00 บาท/หุ้น ระดมทุนกว่า 120 ล้านบาท นำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้ขยายกำลังการผลิตและใช้เป็นเงินทุน หมุนเวียน เพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันและขยายโอกาสทางธุรกิจในอนาคต ผู้บริหาร เผยบริษัทฯ มีจุดเด่นในเรื่องนวัตกรรม พร้อมนำเทคโนโลยีการผลิตของบริษัทฯ ไปขยายกิจการให้เติบโตครอบคลุมลูกค้าเป้าหมาย “มนตรี ศรไพศาล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เผยเตรียมเสนอขายหุ้น IPO วันที่ 15 - 17 ก.ค. 58 คาดเข้าเทรดวันที่ 23 ก.ค. นี้ เชื่อได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เหตุมั่นใจศักยภาพธุรกิจที่มีการเติบโตโดดเด่น
         
นายธวัช มีประเสริฐสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดอิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ DAII ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์รั้วสำเร็จรูป เพื่อตอบสนองการก่อสร้างยุคใหม่ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “FENZER”, รับสร้างบ้านสำเร็จรูป GINZAHOME รวมทั้งจัดจำหน่ายพร้อมติดตั้งประตูและหน้าต่างอลูมิเนียมสำเร็จรูป ATECH WINDOW เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะเสนอขายหุ้นไม่เกิน 30 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 23.08 ของจำนวนหุ้นสำมัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยบริษัทฯ กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) อยู่ที่ 4.00 บาท/หุ้น จากมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท รวมเม็ดเงินจากการระดมทุนครั้งนี้จำนวนประมาณ 120 ล้านบาท ซึ่งจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (Lead Underwriter)
          
ทั้งนี้ มีบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (Co-Underwriter) อีก 2 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด โดยจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 15 - 17 กรกฎาคม 2558 และคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ได้ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2558 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า “DAII”
          
"DAII กำหนดราคาเสนอขายที่ 4.00 บาทต่อหุ้น พร้อมเข้าเทรดในวันที่ 23 กรกฎาคม 2558 และเตรียมเสนอขายหลักทรัพย์ในวันที่ 15 - 17 กรกฎาคมนี้ มี บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ในครั้งนี้ ร่วมกับอีก 2 โบรกเกอร์ ผมมั่นใจว่าหุ้น DAII จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี” นายธวัชกล่าว
          
นายธวัช กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า DAII เป็นบริษัทฯ นวัตกรรมใหม่แห่งวงการก่อสร้าง เรามีเทคโนโลยีการผลิตเป็นของตนเอง โดยเป็นผู้ผลิตรั้วสำเร็จรูปออกสู่ตลาดเป็นรายแรกที่ได้รับรองคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001:2008 ภายใต้เครื่องหมายการค้า FENZER ที่สามารถก่อสร้างรั้วสำเร็จรูปแล้วเสร็จในเวลาที่รวดเร็ว โดยมีความแข็งแรง และสวยงาม เป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคมายาวนาน อีกทั้ง บริษัทฯ ได้รุกไปยังธุรกิจรับสร้างบ้านสำเร็จรูปทั้งหลังเพิ่มเติม จากเดิมที่รับสร้างบ้านประเภทบ้านกึ่งสำเร็จรูปเฉพาะ งาน โครงสร้างก่ออิฐฉาบปูน ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากคุณภาพได้มาตรฐานเดียวกันในทุกหลัง มีความทนทาน ไร้รอยร้าว สามารถต้านแผ่นดินไหว และสร้างเสร็จภายใน 4 เดือน โดยราคาบ้านสำเร็จรูปนั้นเหมาะสม และถือว่าถูกกว่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เห็นได้จากปัจจุบัน บริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) ที่รอรับรู้รายได้ในปี 2558 เป็นจำนวนมาก จึงมั่นใจเป้าหมายรายได้ในปี 2558 จะเติบโตประมาณ 20% จากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 357.98ล้านบาท พร้อมทั้งประเมินว่า จากการเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯสามารถสร้างนวัตกรรมการก่อสร้างใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงสามารถเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองความ ต้องการของลูกค้าได้มากขึ้นและสามารถรักษาอัตราการเติบ โต ของรายได้ในช่วง 3 - 5 ปีข้างหน้า ซึ่งคาดว่าจะเติบโตประมาณ 20% อย่างต่อเนื่องได้
          
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า มั่นใจหุ้น IPO ของ DAII จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เหตุเพราะการเติบโตทางธุรกิจของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนเสนอขายหลักทรัพย์ต่อ ประชาชนทั่วไปในครั้งนี้ จะนำไปใช้ขยายกำลังการผลิตและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนใน การดำเนินธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันและขยายโอกาสทางธุรกิจในอนาคต ราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่กำหนดที่ 4.00บาท/หุ้น นับว่าเป็นราคาที่มีความน่าสนใจ โดยเมื่อพิจารณาอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นที่คำนวณจากผลประกอบ การในรอบ 12 เดือน (P/E Ratio) ซึ่งมีส่วนลดประมาณร้อยละ 10 - ร้อยละ 30 เทียบกับอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในหมวดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างที่ใกล้เคียงในช่วงเวลาเดียวกัน และยังมีส่วนลดจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิของตลาด หลัก ทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ด้วย ถึงแม้จะมีส่วนเพิ่มจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และก่อสร้าง/หมวดวัสดุก่อสร้างของตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย (SET) เฉลี่ยในช่วงเวลาเดียวกัน
         
 ทั้งนี้ ในปัจจุบันยังไม่มีบริษัทจดทะเบียนที่มีธุรกิจเทียบเคียงกับธุรกิจของบริษัท ได้โดยตรง นอกจากนี้ บริษัทมีศักยภาพการเติบโตสูง จากจุดแข็งทางธุรกิจหลายประการ เช่น เป็นบริษัทผู้นำในธุรกิจผลิตภัณฑ์รั้วสำเร็จรูปและธุรกิจรับสร้างบ้านสำเร็จ รูป บริษัทเน้นในด้านการสร้างนวัตกรรมการผลิตที่มุ่งตอบสนองความต้องการของกลุ่ม ลูกค้าเป้าหมาย รวมทั้งการสร้างแบรนด์สินค้าของตนเอง ทำให้บริษัทคาดว่าจะมีการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องในระดับร้อยละ 20
          
“ในช่วงที่ผ่านมามีผู้ที่สนใจธุรกิจของ DAII และเห็นศักยภาพการเติบโตสูง จึงได้สอบถามมาทางเมย์แบงก์ กิมเอ็ง และ Co Underwrite เป็นจำนวนมาก จึงเชื่อว่า นักลงทุนจะให้การตอบรับหุ้น DAII อย่างดี”
        


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 ก.ค. 2558 เวลา : 12:57:15
24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 12:37 pm