แบงก์-นอนแบงก์
"ออมสิน" ชงบอร์ด 21 ก.ค.แก้หนี้ประชาชน 3 เรื่องใหญ่ ขยายเวลามาตรการพักเงินต้นให้รายย่อยและ SMEs - แก้หนี้ครู -แก้หนี้นอกระบบ อุ้มชาวนาไม่ให้ถูกยึดที่ดินทำกิน


"ออมสิน" เตรียมชงบอร์ด 21 ก.ค. แก้หนี้ประชาชน 3 เรื่องใหญ่ ทั้งแก้หนี้ลูกค้ารายย่อยและเอสเอ็มอี โดยขยายเวลามาตรการพัักชำระเงินต้น อีก 1 - 2 เดือน คาดมีลูกหนี้เข้าร่วมกว่า 1.5 แสนราย มูลหนี้รวม 7 หมื่นล้านบาท  และชงบอร์ดแก้หนี้สินครู เปิดให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาลงทะเบียนขอบรรเทาภาระหนี้สินได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ก.ค.นี้ พร้อมขออนุมัติวงเงิน 500 ล้านบาท แก้หนี้นอกระบบ ช่วยลูกหนี้ไม่ให้ถูกยึดที่ดินทำกิน อนุโลมให้นำที่ดินที่ไถ่ถอนมาวางเป็นหลักประกันกู้กับออมสินได้ 50%ของมูลค่าหลักประกัน และให้ญาติกู้ร่วมได้

 

 

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารฯเตรียมเสนอคณะกรรมการธนาคารออมสินที่จะประชุมวันที่ 21 กรกฎาคม นี้ ให้ขยายระยะเวลามาตรการพักชำระเงินต้นเป็นเวลา 2 ปี ออกไปอีก 1-2 เดือน หลังจากสิ้นสุดมาตการดังกล่าวไปเมื่อ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา เนื่องจากมองว่าปัจจุบันลูกค้าของธนาคารทั้งที่เป็นสินเชื่อรายย่อยและผู้ประกอบเอสเอ็มอี ยังมีปัญหาภาระหนี้จากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังไม่ดีและปัญหาภัยแล้งที่กระทบต่อรายได้และความสามารถในการชำระหนี้


“โดยมาตรการเดิม ธนาคารฯได้ผ่อนผันให้ลูกหนี้สามารถยื่นเรื่องขอพักชำระเงินต้น โดยจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยได้นานสูงสุดถึง 2 ปี ซึ่งคาดว่าหากขยายระยะเวลามาตรการผ่อนหนี้ออกไปอีก 1-2 เดือน จะมีจำนวนลูกหนี้เข้าร่วมโครงการผ่อนหนี้กว่า 1.5 แสนราย หรือคิดเป็นมูลหนี้รวมประมาณ 7 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันมีลูกหนี้เข้าร่วมโครงการแล้ว 8 หมื่นราย มูลหนี้รวม  3.7 หมื่นล้านบาท”นายชาติชายกล่าว

ผู้อำนวยการธนาคารออมสินกล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการพักชำระเงินต้น เดิมได้กำหนดเงื่อนไขไว้ว่า ลูกหนี้ที่มีสัญญาเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี สามารถพักชำระเงินต้นไม่เกิน 1 ปี แต่ยังคงชำระดอกเบี้ยในอัตราปกติ ส่วนกรณีนิติบุคคลพักชำระไม่เกิน 6 เดือน ส่วนลูกค้าที่มีสัญญาเงินกู้เกิน 5 ปี ธนาคารพักชำระเงินต้นไม่เกิน 2 ปี แต่ยังต้องชำระดอกเบี้ยในอัตราปกติ

“ธนาคารฯขอยืนยันว่า มาตรการที่จะขอขยายระยะเวลาพักชำระหนี้เงินต้น เป็นการชะลอการจ่ายหนี้ของลูกหนี้เท่านั้น  โดยยืดระยะเวลาออกไป แต่ไม่ใช่การลดดอกเบี้ยให้”ผู้อำนวยการธนาคารออมสินระบุ


นายชาติชายกล่าวต่อไปว่า สำหรับมาตรการบรรเทาภาระหนี้สินของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นลูกค้าของธนาคารออมสินที่ประสบปัญหาทางการเงินจนส่งผลต่อการดำรงชีพและมีผลกระทบต่อการชำระหนี้เงินกู้ให้กับธนาคารนั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 5 แสนราย คิดเป็นวงเงินประมาณ 5 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ ธนาคารออมสินได้แบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่  1. กลุ่มลูกค้าที่อยู่ในขั้นวิกฤต ซึ่งได้แก่ลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างการถูกฟ้อง ถูกดำเนินคดี หรือถูกบังคับคดี ขาดความสามารถในการชำระหนี้จากสาเหตุฉุกเฉิน หรือเป็นลูกหนี้ที่มีสินทรัพย์น้อยกว่าหนี้สิน โดยธนาคารได้ออกมาตรการชะลอการฟ้องร้องดำเนินคดีหรือการบังคับคดีไม่เกิน 3 ปี ทั้งนี้ต้องมีระยะเวลาฟ้องคดีเหลือไม่น้อยกว่า 2 ปี ด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ โดยสามารถพักชำระดอกเบี้ยได้ไม่เกิน 3 ปี แต่ยังคงต้องชำระเงินต้นต่อไป และเมื่อครบ 3 ปีแล้ว ให้นำดอกเบี้ยที่พักไว้มาเฉลี่ยจ่ายคืนรวมกับเงินงวดรายเดือนต่อไป

2. กลุ่มลูกหนี้ใกล้วิกฤต ที่มีหนี้ค้างชำระเกินกว่า 12 งวดติดต่อกัน และก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2558 สามารถพักชำระดอกเบี้ยไม่เกินครึ่งหนึ่ง เป็นเวลาไม่เกิน 2 ปี โดยให้ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยส่วนที่เหลือต่อไป หลังจากเมื่อครบ 2 ปีแล้ว ให้นำดอกเบี้ยที่พักไว้มาเฉลี่ยจ่ายคืนรวมกับเงินงวดรายเดือนต่อไป

3. กลุ่มลูกหนี้ที่ค้างชำระ 3 เดือน ถึง 12  เดือน สามารถปรับปรุงโครงสร้างหนี้ได้ตามมาตรฐานของทางธนาคาร

4. กลุ่มลูกหนี้ปกติ คือ ลูกหนี้ที่ยังไม่ได้ผิดนัดชำระหนี้ และสามารถบริหารจัดการหนี้ได้ ทางธนาคารจะให้พักชำระเงินต้นได้ไม่เกิน 2 ปี แต่ให้ชำระดอกเบี้ยต่อไป

“โดยกลุ่มลูกหนี้ครูที่เข้าขั้นวิกฤติ มีจำนวนกว่า 1 พันราย รวมมูลหนี้ประมาณ 1 พันล้านบาท แต่หากรวมทั้ง 4 กลุ่ม จะมีลูกหนี้อยู่ประมาณ 3-4 หมื่นราย เฉลี่ยมูลหนี้ต่อราย 1 ล้านบาท ทั้งนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีภาระหนี้สินสามารถเข้าร่วมโครงการบรรเทาภาระหนี้สินกับธนาคารออมสินได้ โดยไปยื่นคำขอลงทะเบียนกับต้นสังกัดเพื่อรับรองได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 กรกฎาคม 2558 ”นายชาติชายกล่าว

ผู้อำนวยการธนาคารออมสินกล่าวต่อไปว่า สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้กับประชาชนระดับรากหญ้าที่มีหนี้สินไม่เกิน 5 แสนบาท และนำที่ดินไปจำนองหรือขายฝากกับเจ้าหนี้นอกระบบและกำลังจะถูกยึดนั้น ธนาคารออมสินจะนำเข้าเสนอคณะกรรมการธนาคารในวันที่ 21 กรกฎาคม นี้เช่นกัน โดยจะอนุญาตให้นำหลักประกันที่ดินจำนองมาขอกู้กับธนาคารออมสินได้ เนื่องจากที่ดินส่วนใหญ่ที่นำไปวางเป็นหลักประกันกับเจ้าหนี้นอกระบบมีมูลค่าสูงกว่าวงเงินหนี้ที่ขอกู้อยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ธนาคารออมสินจะให้กู้ได้สูงสุดไม่เกิน 50% ของมูลค่าหลักประกัน โดยธนาคารเตรียมวงเงินสินเชื่อช่วยแก้หนี้นอกระบบไว้ 500 ล้านบาท เพื่อให้นำไปรีไฟแนนซ์หนี้นอกระบบ และเพื่อไม่ให้ที่ดินที่ลูกหนี้นำไปวางเป็นหลักประกันถูกยึด โดยการปล่อยกู้ธนาคารจะดูความสามารถขำระหนี้ของลูกหนี้ด้วย แต่อนุโลมให้ญาติมากู้ร่วมได้ มีระยะเวลาคืนหนี้ 10  ปี โดย 2 ปีแรกจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย (MRR ดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี) สามารถยื่นขอกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2558





 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 15 ก.ค. 2558 เวลา : 20:34:15
06-01-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ January 6, 2025, 12:38 pm