การทำธุรกิจยุคใหม่จำเป็นต้องสร้างความต่างให้กับตัวเอง เช่นเดียวกับ "พานาโซนิค" ที่ได้ยึดแนวทางนี้มานานกว่า 19 ปี แล้ว จนเป็นที่มาของการผลิตภัณฑ์สายพันธุ์อึดที่ไม่ธรรมดาหลายรุ่น โดยเฉพาะแทบเล็ตและโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น  Panasonic TOUGHPAD FZ-M1 และ FZ-M1 Value  ซึ่งมีขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว มีจุดเด่น ที่ความอึด แข็งแรง ทนทาน ทั้งทนน้ำ ทนอากาศเย็น ทนต่อสภาวะแวดล้อมร้อนจัด หรือเย็นจัดได้

เวลานี้พานาโซนิคได้นำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ เข้าตลาดไทยอีกครั้ง มีทั้งแทบเล็ตและโน้ตบุ๊ค ได้แก่ แทบเล็ต Toughpad FZ-E1 และ Toughpad FZ-X1 และ โน้ตบุ๊ค Toughbook CF-54  แต่บรรดาสาวกไอทีทั่วไปอาจไม่สนใจนัก ด้วยสนนราคาที่สูงกว่าปกติตามความอึดของเครื่อง กลายเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ใช้เฉพาะกลุ่มและอุตสาหกรรมที่ต้องการอุปกรณ์ที่มีความทนทานสูง  

ปัจจุบัน กล่าวได้ว่ามีการแข่งขันอย่างรุนแรงในตลาดไอที หลายค่ายแข่งกันผลิตภัณฑ์แทบเล็ตและโน้ตบุ๊คออกมามีให้เลือกหลากหลาย และมีราคาตั้งแต่ระดับถูกไม่ถึง 5 พันบาท ไปจนถึงเกินหมื่นบาท

แต่สำหรับพานาโซนิคสร้างความแตกต่าง ไม่เน้นขายจำนวนมากเพื่อให้ทำราคาได้ โดยหันเน้นเรื่อง “คุณภาพและประสิทธิภาพ” ที่เหนือกว่าแทน พ่วงด้วยความอึด ทนทาน ที่ไม่เหมือนใคร โดยอาศัยข้อได้เปรียบที่มีโรงงานผลิตเอง ทำการทดสอบเอง และไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญกับงานวิจัย จึงไม่น่าแปลกใจที่ผลิตภัณฑ์ของพานาโซนิคจึงขาย “ได้ราคาดี” ที่หลัก 5 หมื่น ไปจนถึงหลัก 7 หมื่นบาท

นายสาทิพย์ กองจันทรา ผู้จัดการประจำประเทศไทย ทัฟบุ๊คโซลูชั่นทีม ของบริษัท พานาโซนิค ซิสเต็ม โซลูชั่น เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า จากแนวโน้มของการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคเอเชีย และกลุ่มคนทำงานนอกสำนักงานมีจำนวนเพิ่มขึ้น ทำให้องค์กรธุรกิจต้องหันมาทบทวนกลยุทธ์ด้านนี้มากขึ้น เพื่อพัฒนาอุปกรณ์ที่เหมาะสมที่สุดออกมา ทั้งในด้านความสะดวกสบายในการพกพาและการเชื่อมต่อกับระบบได้อย่างปลอดภัย ทุกที่ทุกเวลา และพร้อมใช้งานได้ทันที

ในการวิจัยล่าสุดของพานาโซนิค พบว่า มูลค่าตลาดโมบายคอมพิวเตอร์แบบสมบุกสมบัน ที่ประกอบด้วย แทบเล็ต โน้ตบุ๊ค และแฮนด์เฮลด์ คอมพิวเตอร์ ในภูมิภาคอาเซียน มีแนวโน้มเติบโตถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ในปี 2561 ขณะที่ความต้องการของตลาดยังกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มอุปกรณ์พกพาแบบสมบุกสมบัน จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจที่พานาโซนิคไม่อยากจะพลาดไป

นายสาทิพย์ ยังเปิดเผยด้วยว่า นอกจากผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 กลุ่มแล้ว พานาโซนิคยังสร้าง “คอนฟิกเกอเรชั่นเซ็นเตอร์” เแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียนขึ้นด้วยที่มาเลเซียเมื่อเดือนเมษายน 2558 ที่ผ่านมา เพื่อรองรับติดตั้งตัวเลือกเสริมต่างๆ เช่น พอร์ต LAN, พอร์ต USB, ตัวอ่านสมาร์ทการ์ด  ตัวอ่านลายนิ้วมือ และ จีพีเอส ตามความต้องการของลูกค้า โดยปัจจุบันพานาโซนิคมี คอนฟิกเกอเรชั่น เซ็นเตอร์ มีอยู่ทั้งหมด 5 แห่งทั่วโลก

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ Toughpad FZ-E1 และ Toughpad FZ-X1  เป็นแทบเล็ตขนาดพกพาที่ผสมผสานฟังก์ชั่นดีที่สุดของคอมพิวเตอร์พกพา สมาร์ทโฟน และเครื่องอ่านบาร์โค้ด ไว้ด้วยกัน มีความแข็งแรงทนทานกว่าเดิม ทนน้ำ ทนฝุ่น การตกจากที่สูง 

ส่วน Toughbook CF-54  จัดเป็นโน้ตบุ๊คกึ่งพันธุ์อึดบางและยังเบาสุดเท่าที่เคยมีมา ทั้งหมดพร้อมลุยงานสมบุกสมบัน ปลอดภัย และได้มาตรฐานระดับองค์กร ซึ่งพานาโซนิคตั้งเป้ารายได้จากอุปกรณ์ไอทีกลุ่มนี้ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 200% ภายในสิ้นปี 2558 นี้ หลังจากโตถึง 250% มาแล้วในปีก่อนหน้า

มาดูสเปคเครื่องของผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม แทบเล็ต Toughpad  กัน มีดังนี้

-รุ่น FZ-E1 ใช้ระบบปฏิบัติการ Window 8.1 / FZ-X1 ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 (jelly bean)
-หน่วยประมวลผล Qualcomm MSM8974AB 2.3 GHz Quad-core
-หน้าจอขนาด 5 นิ้ว HD (1280 x 720) สามารถมองเห็นได้กลางแจ้ง พร้อมทั้งโหมดใช้งานขณะใส่ถุงมือและฝนตก
-ROM 32 GB  และRAM 2 GB
-แบตเตอรี่ 6,200mAh ถอดเปลี่ยนได้ พร้อมฟังก์ชั่นสับค่าความร้อน
-ไมโครโฟน 3 ตัว / ลำโพงคู่ ความดังสูงสุด 100 เดซิเบล
-รองรับเครือข่าย 3G และเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi ได้
-เข้าถึงข้อมูลได้ต่อเนื่องยาวนาน14 ชั่วโมง คุยได้นาน 23 ชั่วโมง
-ทนต่อแรงกระแทกจากที่สูง 3 เมตร ผ่านมาตรฐานของ MIL-STD 810G
-ได้รับมาตรฐาน IP68  สามารถ อยู่ในน้ำลึก 1.5 เมตรได้นาน 30 นาที
-ทนต่ออุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20 ถึง 60 องศาเซลเซียส
-มีตัวอ่านบาร์โค้ด (BCR) แบบ Integrated 1D/2D
-รุ่นFZ-E1 มีปุ่มตั้งค่า 2 ปุ่ม / ส่วนรุ่น FZ-X1  มีปุ่มตั้งค่า 4 ปุ่ม

สำหรับสเปคของ โน้ตบุ๊ค Toughbook CF-54   มีดังนี้คือ

-ระบบประมวลผล Intel Core i5-5300U vPro
-ระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 Pro
-หน้าจอ LCD Active Matrix (TFT) แบบ HD 14 นิ้ว (1366 ×768 พิกเซล) น้ำหนัก ประมาณ 1.99 กก. ขนาด 29.8 มม.
-RAM ขนาด 4GB RAM (max. 16GB) และ HDD ขนาด 500GB
-มีพอร์ต USB 3.0 3 ช่อง, พอร์ต HDMI 1 ช่อง, พอร์ต LAN 1 ช่อง และช่องใส่ SD card  และสามารถเลือกพอร์ตได้ตามความต้องการ (พอร์ต LAN ช่องที่ 2, d-GPS, เพิ่มพอร์ต USB 2.0 หรือ rugged USB)
-มีพอร์ต True serial port หรือ VGA
-แบตเตอรี่ใช้งานได้ 11 ชั่วโมง พร้อมด้วยฟังก์ชั่นสับค่าความร้อน และแบตเตอรี่สำรองที่ใช้งานได้รวม 18 ชั่วโมง
 -เลือกฟังก์ชันเสริมได้หลากหลาย* (ไดรฟ์ดีวีดี, แบตเตอรี่สำรอง, ช่องอ่าน Smartcard หรือช่องสำหรับ PC card)
-ทนอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -10 ถึง 50 องศาเซลเซียส
-ใช้วัสดุหุ้มจากแม็กนีเซียมอัลลอยด์
-ทนต่อการตกจากที่สูง 76 ซม.

ผู้บริโภคชาวไทยสามารถซื้อหาไว้ใช้ได้แล้ว โดย Toughpad FZ-X1 และ FZ-X1 พร้อมฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อผ่าน WiFi หรือเครือข่ายโทรศัพท์ความเร็วสูง ขายที่สนนราคา 55,000 บาท

ส่วน Toughbook CF-54 ราคาเริ่มต้นที่ 75,000 บาท และทั้งหมด รับประกันเป็นเวลา 3 ปี