บลจ.วรรณและเอไอเอ ประเทศไทย ร่วมนำเสนอกองทุนเปิดวรรณ อัลตร้า อินคัม ฟันด์ (ONE-ULTRA) ชูกลยุทธ์กระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เน้นบริหารการลงทุนเชิงรุก พร้อมสิทธิประโยชน์กรมธรรม์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพ จากบริษัทเอไอเอ ประเทศไทยที่มีความพร้อมให้บริการอย่างสะดวกสบาย โดยเปิดเสนอขายครั้งแรกกลางเดือนสิงหาคมนี้
 
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์ของบลจ.วรรณในปีนี้ บริษัทได้พัฒนาความร่วมมือทางธุรกิจ เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ดี โดยล่าสุด  บลจ.วรรณได้ร่วมมือกับเอไอเอ ประเทศไทย นำเสนอการลงทุนในกองทุนรวมและได้รับสิทธิประโยชน์ในแบบประเภทประกันภัยกลุ่มแก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งบลจ.วรรณมั่นใจในความพร้อมของผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและระบบที่สามารถรองรับการให้บริการที่สะดวกเพิ่มขึ้น อาทิ แอพพลิเคชั่นทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อตรวจสอบสถานบริการพยาบาลที่ใกล้เคียง และยอดเงินที่กรมธรรม์คุ้มครองแก่ผู้ถือหน่วย เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ในมุมมองเกี่ยวกับด้านการลงทุน บริษัทประเมินว่า  ในภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มของการขยายตัวได้อยู่ เพียงแต่เศรษฐกิจจะมีความเปราะบางจากปัญหาความชัดเจนต่างๆ อาทิ ปัญหาหนี้ของประเทศกรีซ โดยประเทศกรีซยังต้องชำระหนี้กับทางธนาคารกลางยุโรป(ECB)ถึง 3.5 พันล้านยูโร และต้องติดตามต่อว่าการหารือระหว่างรัฐมนตรีคลังของประเทศกลุ่มยูโรโซนจะต่อรองกับประเทศกรีซอย่างไร อีกทั้งปัจจัยจากการพิจารณาด้านอัตราดอกเบี้ยของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับขึ้นภายในปีนี้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยด้านเศรษฐกิจของประเทศจีนที่เติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาดการณ์ โดยได้รับแรงกดดันจากการส่งออก บริโภค และการลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอตัว สวนทางกับอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวของไทยและการลงทุนภาครัฐบาล ซึ่งบริษัทคาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกหลักที่สนับสนุนการเติบโตเศรษฐกิจในปีนี้

ดร.วิน กล่าวต่อว่า สินทรัพย์ทางการเงินทั่วโลกในช่วงครึ่งปีหลังยังคงเผชิญความผันผวนต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยตลาดหุ้นต่างประเทศ ในระยะยาวยังเติบโตได้ตามเศรษฐกิจโลก เพียงแต่ระยะสั้นต้องหาจังหวะเข้าลงทุน เนื่องจากยังมีความเสี่ยงที่สำคัญต้องติดตาม ด้านตลาดหุ้นไทย โอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวลดลงมีไม่มาก โดยแรงขายของนักลงทุนต่างชาติเริ่มน้อยลง สอดคล้องกับ Foreign holdings ที่อยู่ในระดับต่ำบ่งชี้ได้ว่าโอกาสที่จะมีแรงขายจากนักลงทุนต่างเริ่มมีจำกัด ซึ่งในระยะสั้น นักลงทุนต่างชาติยังคงติดตามภาวะเศรษฐกิจควบคู่กับปัจจัยการเมืองภายในประเทศอย่างใกล้ชิด ด้านราคาน้ำมัน บริษัทแนะนำให้รอเข้าซื้อหากราคาปรับตัวลดลง เนื่องจากระดับราคาน้ำมันที่ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถือว่ามี downside ที่ต่ำ ราคาทองคำ บริษัทมองว่า ราคาทองคำจะถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้

ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ตราสารหนี้ บริษัทแนะนำให้ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น โดยเฉพาะตราสารหนี้ภาคเอกชนชั้นดีที่และควรหลีกเลี่ยงการลงทุนใน ตราสารหนี้ระยะยาว เนื่องจากยังมีความเสี่ยงจากการขาดทุนของราคาตลาด (mark to market) ในจังหวะที่ราคาค่อนข้างผันผวนจากการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ การลงทุนในตราสารระยะสั้นหรือตราสารประเภทตลาด Money Market จะเป็นผลดีมากกว่า

สำหรับ กองทุนเปิด วรรณ อัลตร้า อินคัม ฟันด์ (ONE-ULTRA) ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดเสนอขายได้ประมาณช่วงกลางเดือนสิงหาคม 2558 เป็นกองทุนรวมที่มุ่งเน้นการบริหารการลงทุนเพื่อให้พอร์ตในสินทรัพย์แบบเชิงรุก(Active Asset Allocation) เพื่อให้มีความเหมาะสมภาวะเศรษฐกิจ และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา เพื่อให้กองทุนมีผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในระยะยาว โดยกองทุน ONE- ULTRA จะเน้นลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน หรือเงินฝากทั้งในประเทศหรือ/และต่างประเทศ ซึ่งกองทุน ONE-ULTRA มีนโยบายจ่ายปันผลปีละไม่เกิน 4 ครั้ง ซึ่งผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุน ONE-ULTRA จะได้รับสิทธิความคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประกันชีวิตและสิทธิประโยชน์ประกันสุขภาพ โดยเบี้ยประกันจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์ประกันชีวิตและสุขภาพของบริษัทเอไอเอ ประเทศไทย จำกัด(มหาชน)

“ในด้านการชำระเบี้ยประกัน ทางบลจ.วรรณจะเป็นผู้รับภาระโดยคำนวณรวมอยู่ในค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุนแล้ว ซึ่งผู้ลงทุนไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ความโดดเด่นของการลงทุนใน ONE-ULTRA นอกเหนือจากการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนแล้ว ผู้ลงทุนยังได้รับความคุ้มครองสุขภาพเพิ่มเติม” ดร.วินกล่าว
ดร.วิน กล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน ONE-ULTRA จะเน้นบริหารพอร์ตการลงทุน ที่มีความยืดหยุ่น  โดยวิเคราะห์จังหวะที่เหมาะสมเพื่อเข้าซื้อขายและใช้เครื่องมือเชิงคุณภาพ (Qualitative Tools)  เพื่อประมาณการณ์กำไรและวิเคราะห์ธุรกิจ ควบคู่ไปกับ เครื่องมือเชิงปริมาณ(Quantitative Tools) เพื่อวิเคราะห์สัญญาณทางเทคนิคและการเก็บข้อมูลทางสถิติ เพื่อคัดเลือกหลักทรัพย์แบบเฉพาะเจาะจง(Stock Selection) โดยเน้นหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานและมีโอกาสที่จะเติบโตสูงในอนาคต โดยเฉพาะหลักทรัพย์ที่จะได้รับประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐ

ด้าน มร.แซง ฮุย ลี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดบริษัท เอไอเอ ประเทศไทย เปิดเผยว่า การจับมือกันของเอไอเอ ประเทศไทยและบลจ.วรรณในครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวที่สำคัญในการย้ำจุดยืนของเอไอเอที่มุ่งเดินหน้าลดช่องว่างความคุ้มครองในสังคมไทย โดยนำเสนอนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ที่นำเอาผลิตภัณฑ์ความคุ้มครองสุขภาพกลุ่มมาผนวกเข้ากับผลิตภัณฑ์กองทุนรวม เพื่อสร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนที่จะได้รับความอุ่นใจและความมั่นคงทางการเงินที่จำเป็นหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา รวมทั้งความสะดวกสบายจากช่องทางจำหน่ายที่หลากหลายผ่านตัวแทนประกันชีวิตของเอไอเอ และช่องทางของ บลจ.วรรณ  

ภายใต้ความร่วมมือเปิดตัวกองทุน ONE-ULTRA เอไอเอ นำเสนอแผนประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่มที่มีระดับความคุ้มครองที่แตกต่างกัน 4 แผน แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งจะได้รับความคุ้มครองที่แตกต่างกันไปตามจำนวนหน่วยที่ลงทุน เริ่มต้นตั้งแต่ 4,500 หน่วยขึ้นไป โดยผู้ถือหน่วยลงทุนต้องมีอายุระหว่าง 15-65 ปี ในกรณีที่ผู้ถือหน่วยลงทุนมีอายุเกินกว่า 65 ปีแต่ไม่เกิน 75 ปีจะต้องกรอกแบบฟอร์มแถลงสุขภาพและผ่านการอนุมัติรับประกัน

สิทธิประโยชน์ที่ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับ ได้แก่ การประกันชีวิตและประกันสุขภาพผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ค่าห้องและอาหาร ค่ารักษาพยาบาล และอื่นๆ เป็นต้น  สำหรับผลประโยชน์ผู้ป่วยนอกจะให้เฉพาะผู้ถือหน่วยลงทุนที่ลงทุนตั้งแต่ 45,000 หน่วยขึ้นไป ทั้งนี้ระยะเวลาของความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์ประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่มในโครงการนี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2558- 31 สิงหาคม 2559

“ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเอไอเอในการมอบความคุ้มครองแก่คนไทยมากว่า 78 ปี บวกกับความแข็งแกร่งในการบริหารกองทุนของ บลจ.วรรณ เราเชื่อว่าลูกค้าผู้ถือหน่วยลงทุนกองทุนเปิด วรรณ อัลตร้า อินคัม ฟันด์ (ONE-ULTRA) จะได้รับความคุ้มค่ามากกว่าเดิมจากสิทธิประโยชน์ด้านประกันชีวิตและสุขภาพนอกเหนือไปจากผลตอบแทนจากการลงทุน” มร. ลี สรุปทิ้งท้าย