กระทรวงไอซีที จับมือ สวทช. เปิดผลสำรวจมูลค่าตลาดคอมพิวเตอร์ไทย คาดตลาดคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ปี 58 แนวโน้มดีขึ้น ติดลบน้อยลงแค่ 2.0% จากปีก่อนติดลบหนัก 7.9% เหตุเศรษฐกิจชะลอตัว หนี้ภาคครัวเรือนสูง ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย ด้านตลาดบริการคอมพิวเตอร์คาดโตขึ้นเช่นกัน 12.4% ผลจากนโยบายภาครัฐมุ่งสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดผลสำรวจมูลค่าตลาดคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ ตลาดบริการด้านคอมพิวเตอร์ และตลาดอุปกรณ์ เครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์ไทย ปี 2557 และประมาณการปี 2558
นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสสาร กล่าวว่า การสำรวจตลาดฮาร์ดแวร์ ตลาดบริการคอมพิวเตอร์และตลาดอุปกรณ์เครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์ครั้งล่าสุดนี้ เริ่มจัดเก็บข้อมูลระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม 2558 โดยเน้นการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ประกอบการรายสำคัญๆ ในอุตสาหกรรม แล้วนำมาประมวลผลร่วมกับข้อมูลทุติยภูมิอื่นๆ อาทิ ข่าว รายงานประจำปีและบทความที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจัดประชุมระดมความคิดเห็นเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง โดยกระทรวงไอซีทีได้มอบหมายให้ สวทช.เป็นหน่วยงานกลางภาครัฐประสานกับหน่วยงานพันธมิตรต่างๆ มาร่วมกันทำงาน ซึ่งรวมถึงสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศไทย(ATCI) สมาคมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ไทย(ATCM) สมาคมสมาพันธ์เทคโนโลยีสารสนเทศแห่งประเทศไทย(TFIT) สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย (ATSI) สมาคมส่งเสริมการส่งออกอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย (TSEP) สมาคมสมองกลฝังตัวไทย(TESA)และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และร่วมกันเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์นี้
นายจำรัส สว่างสมุทร ผู้อำนวยการใหญ่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและที่ปรึกษาโครงการสำรวจตลาดฯ เปิดเผยว่า การสำรวจในครั้งนี้มีประโยชน์อย่างมาก เพราะทำให้มองเห็นภาพรวมหรือแนวโน้มตลาดคอมพิวเตอร์ทั้งในส่วนของคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ ตลาดบริการด้านคอมพิวเตอร์ และตลาดอุปกรณ์ เครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์ไทยว่าดีหรือไม่ ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งภาครัฐและเอกชน โดยในส่วนภาครัฐจะสามารถใช้เป็นแนวทางสำหรับการปรับเปลี่ยนนโยบายและวางแผนได้ว่า อะไรที่ควรส่งเสริมหรือเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับภาคเอกชนที่จะมีผลต่อการวางแผนและการบริหารจัดการการลงทุนของภาคธุรกิจ
สำหรับผลการสำรวจทำให้ประเมินสถานการณ์ภาพรวมตลาดคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ในปี 2558 ว่ามีแนวโน้มจะเติบโตดีขึ้นกว่าปี 2557 ที่มีอัตราการเติบโตของตลาดคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ติดลบมากถึง 7.9% หรือคิดเป็นมูลค่า 77,662 ล้านบาท ทั้งนี้ ในปี 2558 แม้คาดว่าอัตราการเติบโตยังคงติดลบอยู่ แต่จะลดน้อยกว่าเดิม โดยจะติดลบเพียง 2.0% เท่านั้น หรือคิดเป็นมูลค่า 75,866 ล้านบาท ซึ่งมีปัจจัยสำคัญมาจากตลาดยังหดตัวลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว รวมถึงภาวะหนี้ภาคครัวเรือนที่มีผลทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อและใช้จ่ายเฉพาะที่จำเป็น ส่งผลให้ในส่วนของภาคครัวเรือนปีนี้ชะลอการซื้ออุปกรณ์ประเภทโน้ตบุ๊คและแทบเล็ตลง แต่ได้ปัจจัยสนับสนุนจากปัญหาการเมืองในประเทศที่คลี่คลายลง และภาครัฐและเอกชนมีการลงทุนเพิ่มขึ้น
นายจำรัสกล่าวว่า ภาคธุรกิจจะเป็นตัวเร่งสำคัญของตลาดไอซีทีปี 2558 เนื่องจากจะมีการลงทุนในอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งานด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) และบิ๊กดาต้า (Big Data) เพิ่มขึ้น เพื่อนำมาใช้จัดการและวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่มหาศาลในโลกโซเชียล คาดว่า ในปี 2558 องค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่จะเกิดการลงทุนด้านคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์และระบบโซลูชั่น เพื่อรองรับการใช้งานคลาวด์และบิ๊กดาต้ามากขึ้นอีก และส่งผลให้มูลค่าตลาดคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ในประเทศเพิ่มตาม
การใช้งานคลาวด์และบิ๊กดาต้าที่เติบโตขึ้น นอกจากจะช่วยกระตุ้นตลาดฮาร์ดแวร์แล้ว ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดบริการคอมพิวเตอร์ปี 2558 ให้เติบโตด้วยเช่นกัน ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตัท และเปิดไฟเขียวให้มีการลงทุนในธุรกิจดาต้าเซนเตอร์ตามกรอบยุทธศาสตร์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้คาดการณ์ว่า ภาพรวมตลาดบริการคอมพิวเตอร์ของปีนี้จะเติบโตประมาณ 12.4% หรือคิดเป็นมูลค่า 51,954 ล้านบาท โดยการบริการดาต้าเซ็นเตอร์และการบริการบริหารจัดการภายในองค์กร คาดว่าจะเติบโตประมาณ 23.1% คิดเป็นมูลค่า 5,731 ล้านบาท การบริการด้าน Infrastructure as a Service (IaaS) จะเติบโต 33.6% ผลจากนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล ผสมผสานกับที่ภาคธุรกิจได้มีการปรับตัวเพื่อก้าวสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
ส่วนตลาดอุปกรณ์เครื่องรับสัญญาณโทรทัศน์ คาดว่า ปี 2558 จะเติบโตไม่มากนัก เพียง 5.1 % หรือคิดเป็นมูลค่า 93,220 ล้านบาท
ข่าวเด่น